แหล่งรวม 'เทพ' ราชประสงค์
หลายครั้งที่คุณเดินผ่านย่านราชประสงค์โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังผ่าน 7 เทพ ทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ บิ๊กซี เกษร พลาซ่า
โดย...กาญจนา อายุ วัฒน์ธนชัย ภาพ : คลังภาพโพสต์ทูเดย์, สุนันทา หามนตรี
หลายครั้งที่คุณเดินผ่านย่านราชประสงค์โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังผ่าน 7 เทพ ทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ บิ๊กซี เกษร พลาซ่า อัมรินทร์ พลาซ่า ซึ่งสามารถวาดเป็นเส้นทางศักดิ์สิทธิ์สถิต 7 เทพ จำนวน 7 จุด อย่างที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดโครงการ Walking Bangkok โดยเริ่มเดินจากเซ็นทรัลเวิลด์ไปจบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามรอยแหล่งรวมเทพราชประสงค์
ธานัท ภุมรัช นักประชาสัมพันธ์ กองการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ได้ให้ข้อมูลทั้ง 7 จุด ปักหมุดแรกที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ (จุดที่ 1) ด้านหน้าห้างเป็นที่ประดิษฐานเทพ 2 องค์ คือ พระตรีมูรติและพระพิฆเนศ เขาเล่าว่า บริเวณนั้นเคยเป็นวังเพชรบูรณ์เก่าตั้งแต่สมัยปี 2500 ซึ่งพระตรีมูรติประดิษฐานอยู่แล้วตั้งแต่ตอนนั้น ผ่านสงครามมหาเอเชียบูรพาและเหตุการณ์ต่างๆ มาเกือบ 60 ปี มีความเชื่อว่า พระตรีมูรติจะป้องกันไม่ให้โลกเกิดไปบรรลัยกัลป์ และเป็นเทพแห่งความรักที่คนมักไปขอพรด้วยดอกกุหลาบสีแดง องค์ที่อยู่เคียงกันคือ พระพิฆเนศ เทพแห่งความสำเร็จ เทพแห่งปัญญา คนมักไปขอพรให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและการเรียน
จากนั้นเดินข้ามสะพานไปฝั่งบิ๊กซี (จุดที่ 2) ที่ด้านหน้าห้างเป็นที่ประดิษฐานพระแม่อุมาเทวี พระชายาของพระศิวะ ทางฮินดูเชื่อว่า เป็นเทพที่ให้กำลังสนับสนุนเพศชายดังที่สนับสนุนพระศิวะมาตลอด และเป็นปางประทานพรเพื่อให้พรแก่ผู้มาขอดังที่เคยให้แก่เทวดา มนุษย์ และพญามาร เดินตรงไปทางเกษร พลาซ่า (จุดที่ 3) บนชั้น 3 เป็นที่ประดิษฐานพระแม่รัศมี เทพธิดาแห่งน้ำและชายาของพระนารายณ์ มีบทบาทสำคัญในการดูแลปรนนิบัติพระนารายณ์เป็นอย่างดี อย่างบนทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ ผู้หญิงที่บีบนวดพระนารายณ์อยู่นั้นก็คือพระรัศมีนั่นเอง เชื่อว่าจะให้ความอุดมสมบูรณ์ ทำการค้าราบรื่น ไหว้ด้วยดอกบัวหรือดอกดาวเรืองก็ได้
เดินเรื่อยไปตามถนนสุขุมวิทไปหยุดที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ (จุดที่ 4) ด้านหน้ามีรูปปั้นนารายณ์ทรงครุฑ พิเศษตรงที่เป็นศิลปะแบบขอม มีเทริดมงกุฎแบบกษัตริย์ขอม คนส่วนใหญ่ไปขอพรให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคภัย เพราะพระนารายณ์เป็นผู้ดูแลทุกข์สุขของราษฎรเป็นอย่างดี หลังจากนั้นเดินข้ามสะพายลอยไปฝั่งอัมรินทร์ พลาซ่า (จุดที่ 5) เป็นที่ประดิษฐานของท้าวสักกเทวราช หรือพระอินทร์ ผู้มีอำนาจดูแลหมู่มวลมนุษย์ มีฤทธิ์มาก มีตรีศูลเป็นอาวุธ และมีดวงตาทั่วร่างกว่าพันดวง คนส่วนใหญ่จะไปขอพรด้านการเลื่อนตำแหน่งและการทำงานราชการ
ห่างออกไปไม่กี่ก้าวหน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ (จุดที่ 6) เป็นที่ตั้งศาลพระพรหมเอราวัณ สร้างโดยช่างกรมศิลป์ เก่าแก่เป็นอันดับสองรองจากพระตรีมูรติ พระพรหมมี 4 พักตร์ แต่ละพักตร์ให้พรต่างกัน เช่น ด้านที่ถือลูกประคำให้พรเกี่ยวกับการมีสมาธิ และด้านที่ถือพระคัมภีร์ให้พรเกี่ยวกับการศึกษา ทั้งนี้ภาพรวมของพระพรหมจะเป็นผู้สร้าง ดังนั้นผู้ที่เพิ่งเปิดกิจการมักจะมาขอพรให้ค้าขายรุ่งเรือง
จุดสุดท้ายให้ข้ามถนนไปยังฝั่งโรงพยาบาลตำรวจ แล้วเดินตรงไปเข้าประตูสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จุดที่ 7) เป็นที่ประดิษฐานพระนารายณ์ทรงประทับอยู่บนเกษียรสมุทร (อยู่ถัดจากอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 เข้าไป) เชื่อว่าจะรักษาดูแลและให้ความสงบร่มเย็น ดังที่เป็นเทพแห่งการดูแลรักษามวลมนุษย์ นอกจากนี้การจุดธูปไหว้เทพฮินดูจะจุดธูปกี่ดอกก็ได้แต่ขอเป็นเลขคี่ เช่น สาม ห้า เจ็ด หรือเก้า แต่ด้วยคนไทยมองว่าเลขเก้าเป็นเลขมงคลจึงมักไหว้ด้วยธูปเก้าดอก
ธานัท ยังกล่าวด้วยว่า เทพแต่ละองค์ในแต่ละแห่งจะไม่หันหน้าประชันกัน เพื่อไม่ให้เทพสู้กัน แต่จะเกื้อกูลส่งเสริมให้ย่านการค้าย่านราชประสงค์รุ่งเรือง ส่วนคนทั่วไปสามารถเดินทางไปไหว้ตามจุดต่างๆ และไปขอพรตามความเชื่อของเทพแต่ละองค์ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะครอบคลุมทุกความปรารถนา