ค้นหารสชาติสุดพิศวง ในไวน์ดินเนอร์ Taste the Mystery

โดย...คาเอรุ

ฟินไวน์ (FIN -Fabulous is Needed) โดย เบญจวรรณ วิสุทธิ์สัตย์ ร่วมกับเชฟส้ม-จุฑามาศ เทียนแท้ แห่งคามาคาเมท ไดเนอร์ จัดไวน์ดินเนอร์สุดเก๋ Taste the Mystery
แพริ่งอาหารสุดพิศวง คู่กับไวน์ออร์แกนิกจากนานาชาติ ให้แขกผู้มีเกียรติอย่างเอกอัครราชทูตออสเตรีย ประจำประเทศไทย และภริยา เชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ แห่งรานโบ-ลาน อลิซาเบท รอมฮิลด์ ศิลปินอิสระ เชฟแมททิว วูลฟอร์ด แห่งห้องอาหารวูว์ โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ รวมทั้งสื่อมวลชน สัมผัสรสชาติความเข้ากันอย่างอัศจรรย์และสุดฟิน

เริ่มต้อนรับกันด้วยคานาเป้ อย่าง Parmigiano Tartlet with Goat Cheese Mousse และ Shrimp and Avocado Salsa จับคู่กับสปาร์คกลิ้งไวน์ บล็องแกตต์ เดอ ลิมูซ์ คูเว่ ทราดิสิยอนนัล (Blanquette de Limoux, Cuvee Traditional) ของแบร์กนารด์ เดลมาส์ (Bernard Delmas) จากเมืองลิมูซ์ ประเทศฝรั่งเศส

ซิตดาวน์ดินเนอร์เริ่มด้วยคอร์สแรก Pickle Oyster ที่เชฟส้มใช้หอยนางรมจากไอร์แลนด์ ใส่แตงกวาดองเอง รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ เข้ากับไวน์ Gelber Muskateller ปี 2013 จากฟรานซ์
ทาเฟอร์เนอร์ (Franz Taferner) เมืองคาร์นุนทุม ประเทศออสเตรีย ที่มีรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ และมีกลิ่นมะนาวช่วยดับคาวของหอยนางรมได้ดี

ตามมาด้วย Creamy Lobster Broth ซุปล็อบสเตอร์สุดเข้มข้น ปรุงกับไวน์เกวูร์ซทรามิเนอร์ และสมุนไพรต่างๆ เสิร์ฟคู่ไวน์ชาร์ดอนเนย์ ปี 2012 จากเกอร์นอต ไฮน์ริก (Gernot Heinrich) เบอร์เกนแลนด์ ประเทศออสเตรีย ที่เข้ากับซุปครีมสุดๆ

คอร์สที่ 3 เป็น Blue Crab สลัดปูที่ปรุงรสชาติด้วยมัสตาร์ดดีจง ตัดรสด้วยเมลอนญี่ปุ่น ทาร์ทาร์มะเขือเทศ และน้ำมันกระเทียม เพิ่มรสชาติและรสสัมผัสด้วยปูนิ่มทอดกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมไวน์ มัลเทอร์ดิงเงอร์ บีเนนแบร์ก โอเซอร์รัวส์ คาบิเนตต์ ทรอคเคน (Malterdinger Bienenberg Auxerrois Kabinett Trocken) ปี 2011 จากอูเบอร์ (Huber) แคว้นบาเดน ประเทศเยอรมนี ซึ่งลักษณะไวน์จะดูขุ่นๆ เนื่องจากไม่ผ่านการฟิลเตอร์ รสชาติออกแนวฟรุตตี้กลมๆ ของพีช เมลอน และพลัม เหมาะกับอาหารรสชาติสดชื่นๆ จานนี้

จานต่อมา Linguini White Clam Sauce พาสต้าลิงกีนีแบบแฮนด์เมด เสิร์ฟพร้อมไวน์เค เบลนด์ (K Blend) ปี 2013 จากเกร์ฮาร์ด คราเชอร์ (Gerhard Kracher) แคว้นเบอร์เกนแลนด์ ประเทศออสเตรีย

ล้างปากด้วย Rose - Jasmine Sorbet ก่อนเสิร์ฟจานปลา Basted Monkfish with Braised Beef Tongue and Foie Gras รสชาติหลากหลายในจานนี้ เคล็ดลับความอร่อยคือ ต้องตักทุกอย่างชิมในคำเดียว เสิร์ฟคู่ไวน์โรเซ เซนเยร์ (Rose Saigner) ปี 2014 จากมาร์คุส ชไนเดอร์ (Markus
Schneider) เมืองฟัลซ์ เยอรมนี รสชาติตามชื่อ เซนเยร์ ชื่อในภาษาฝรั่งเศสหมายถึงเลือดที่ข้นกว่าน้ำ นั่นคือเป็นโรเซที่รสชาติเข้มข้น เต็มไปด้วยกลิ่นอายของผลไม้โดยเฉพาะบรรดาเบอร์รี่ต่างๆ

มาถึงจานหลัก Petit Quail Stuffed with Artichoke, Baby Spinach, Garnished with Beef Cheek Jus เชฟส้มปรุงเควลได้สุกกำลังอร่อยพอดี เสิร์ฟคู่กับไวน์ ดูริฟ (Durif) ปี 2014 จากกรานมอนเต้ (GranMonte Vineyards) เขาใหญ่ ประเทศไทย ซึ่งเป็นพันธุ์องุ่นจากฝรั่งเศส ที่มีฉายาว่า
ซีราห์ (ชีราซ) น้อย หรือ Petite Sirah ในสหรัฐ พอมาปลูกในเมืองไทยได้รสชาติที่สดใหม่ เต็มไปด้วยกลิ่นของเบอร์รี่แดง ฟิก และบลูเบอร์รี่ เป็นแรร์ไอเท็มจากไทยแลนด์ขนานแท้

สำหรับจานหวาน เชฟส้มรังสรรค์ Chocolate Terrine on Layered Bread Pudding รสชาติเข้มข้น ไปกันได้ดีกับไวน์ แคปสโตน (Capstone) ปี 2010 อันเป็นส่วนผสมแบบไวน์บอร์กโดซ์ คือ กาแบร์กเนต์ โซวิญง, แมร์กโลต์ และกาแบร์กเยต์ ฟร็อง จากไวเนอรีของโยฮัน รีย์เนเค (Johan Reyneke) ไวน์ออร์แกนิกแห่งสเตลเลน
บอสก์ ประเทศแอฟริกาใต้

ปิดท้ายด้วยของหวานจานที่ 2 Baked Pineapple in Fleur de Sel หวานฉ่ำเข้ากับไวน์ เอ็มอาร์ เมาเทนไวน์ (MR Mountain Wine) ปี 2012 ของเตลโม รอดดริเกซ (Telmo Rodriguez) เมืองมาลากา ประเทศสเปน แถมท้ายค่ำคืนด้วย Mignardises ประกอบด้วย Chocolate Barks, Coconut Lavender Truffle, Thai Banana Mashmallow และ Longan Tart โดยแต่ละคนได้หอบหิ้วของที่ระลึก เป็น “ไวน์รัก” และ “ไวน์คิดถึง” กลับไปค้นหากันต่อที่บ้านอีกด้วย