มุ่งมั่นทำฝันให้เป็นจริง อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์
เปิดใจนางเอกสาวสวย ทับทิม-อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ ที่ไม่ได้มีแต่ความสวย แต่ความสามารถในการเล่นไอซ์สเกตก็โดดเด่น
โดย...วราภรณ์ ภาพ : ประกฤษณ์ จันทะวงษ์
เปิดใจนางเอกสาวสวย ทับทิม-อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ ที่ไม่ได้มีแต่ความสวย แต่ความสามารถในการเล่นไอซ์สเกตก็โดดเด่น จนสามารถคว้า 5 เหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาไอซ์สเกตเวทีใหญ่ของเอเชีย “Skate Asia 2016” ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยหน้าที่การงานด้านการแสดงและการเรียน ทำให้ต้องหยุดพักไประยะหนึ่ง พอเริ่มโตและเจียดเวลามาฝึกซ้อมได้ เธอไม่รอช้าที่จะฝึกฝนทุ่มเทอย่างหนัก หวังนำความเป็นไทยไปเผยแพร่ให้นานาชาติได้ชื่นชมความงดงาม ทั้งเรื่องท่วงท่า เพลงไทยอันไพเราะ ศิลปะการป้องกันตัว ที่สำคัญคือความงดงามของชุดไทย ให้ต่างชาติได้เห็นและร่วมชื่นชม โดยทับทิมลงแข่ง 5 ประเภท และคว้าเหรียญทองมาครองได้ทุกประเภทแบบไม่คาดฝัน
นอกจากการเล่นไอซ์สเกตแล้ว ด้านงานละครที่ขณะนี้เธอกำลังถ่ายอยู่ 2 เรื่อง ได้แก่ ริษยา อกธรณี รวมทั้งมีงานพิธีกรอีก 2 รายการ คือ ชุมทางดาวทองและที่นี่หมอชิต เรียกว่าเธอทำงาน 7 วัน/สัปดาห์ แถมยังต้องแบ่งเวลาไปเรียนปริญญาโทคณะรัฐศาสตร์ โครงการของนักบริหาร ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ไม่นับรวมทำธุรกิจส่วนตัวคือ ผลิตสบู่แบรนด์ทีร่า ที่มีส่วนประกอบของทับทิมดูแลผิวหน้าและผิวกาย และยังทำแบรนด์ตุ๊กตาม้าลิตเติ้ล บาร์น (Little Barn) อีกด้วย
สำหรับกีฬาไอซ์สเกตที่เป็นความฝันวัยเด็ก เธอได้แรงบันดาลใจมาจากตอนที่คุณแม่พาไปชมการแสดงดิสนีย์ ออน ไอซ์ ตอนอายุ 8 ขวบ เธอชื่นชอบแล้วก็จำฝังใจว่าอยากเล่นกีฬาชนิดนี้ให้ได้ ก็ขอคุณแม่ไปเรียนไอซ์สเกตเพื่อรู้พื้นฐานเบื้องต้นได้ราว 10 ครั้งก็ต้องหยุดไป เพราะมีภาระอื่นๆ ที่ต้องทำ และเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเธอมีช่วงว่างพักเบรกจากการถ่ายละครพักใหญ่ๆ เธอจึงมุ่งมั่นกลับไปเล่นไอซ์สเกตอีกครั้งหนึ่ง
ทีนี้มีคุณครูไอซ์สเกตเห็นแวว จึงชักชวนให้มาฝึกซ้อมภายใต้ทีมซับซีโร่ ไอซ์ สเก็ต คลับ เพื่อลงแข่งขันรายการใหญ่ๆ อย่าง รายการ Skate Asia 2016 ก็เป็นเวทีการแข่งขันสำหรับนักไอซ์สเกตมือสมัครเล่นรายการหนึ่งในระดับเอเชีย ที่มีประเทศต่างๆ เข้าแข่งขันราว 13 ประเทศ โดยครั้งนี้มีทีมเข้าแข่งขันทั้งหมด 35 ทีม
“ครูวิชา นิสสัยหาญ เป็นทั้งโค้ชและครูฝึกสอนให้ทับทิม ครูอยากให้ทับทิมมีโอกาสและสัมผัสประสบการณ์การแข่งขันบ้าง ตัวเองก็อยากแข่งในสนามใหญ่ๆ สักครั้งเหมือนกันค่ะ ก็เริ่มเรียนและฝึกซ้อมประมาณ 9 เดือน ทั้งปรับพื้นฐาน ออกแบบท่วงท่า ออกแบบชุด เรียกว่าเวลาว่างของทับทิมเหมาะกับลงแข่งรายการนี้พอดี ช่วงมีงานก็ไปฝึกซ้อมอาทิตย์ละวัน วันละ 2-3 ชั่วโมง แบบเล่นไม่หยุดพักเลย รู้สึกไม่ท้อนะคะเพราะมีความสุขมากกว่า เล่นแล้วสนุก ไม่รู้สึกเหนื่อย คิดว่ามันท้าทายมากๆ มีท่าใหม่ๆ ให้ลอง ทับทิมต้องทำให้ได้ ก็ซ้อมอยู่อย่างนั้น”
ถึงวันแข่งขันจริง เธอก็ไม่ทำให้กองเชียร์ผิดหวัง ลงแข่งทั้งหมด 5 รายการ เธอคว้าเหรียญทองมาครองได้ทั้งหมด คือ ประเภท โซโล่ ฟรีสไตล์, โซโล่ คอมโพสเซอร์, อาร์ทิสติก, สปอตไลต์ เอนเตอร์เทนเมนต์, สปอตไลต์ ธีม (การแข่งชนิด คือ ผสมศิลปะการต่อสู้ ซึ่งเธอนำรำดาบไปแข่งขัน)
การประสบความสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้ของทับทิม เรียกว่ามีบุคคลหลายท่านร่วมแรงร่วมใจกัน อาทิ ซับซีโร่ ไอซ์ สเก็ต คลับ เป็นสปอนเซอร์เรื่องสนามฝึกซ้อม มีโค้ชลูกเกดช่วยออกแบบท่วงท่า และมี 3 ดีไซเนอร์ชื่อดังในวงการแฟชั่นช่วยสานฝันนำความเป็นไทยไปเผยแพร่ให้เป็นจริง
“พอตัดสินใจลงแข่งก็ต้องออกแบบทั้งลีลาและท่วงท่า ซึ่งทุกอย่างเป็นความฝันตั้งแต่เด็กของทับทิม ดังนั้นเมื่อมีโอกาสเราต้องทำให้ดี ทับทิมอยากพรีเซนต์ความเป็นไทยเข้าไป ก็บอกโค้ชให้ช่วยออกแบบท่าให้หน่อย ทับทิมหาเพลงและเลือกเพลงเอง เพราะเรื่องเพลงก็สำคัญพยายามวางคอนเซ็ปต์เองทั้งหมด ตัดต่อเพลงเองอยากได้เพลงบรรเลงดนตรีไทย ก็ได้เพลงรำมโนราห์ซึ่งเป็นเพลงที่เคยรำตั้งแต่เด็ก เราอยากให้คนได้เห็นโดยเฉพาะชาวต่างชาติ อีกอย่างพอทับทิมเลือกลงโปรแกรมสปอตไลต์ธีม ซึ่งต้องมีมาเชียลอาร์ต ทับทิมก็คิดว่าอยากนำเสนอการต่อสู้ไทยๆ ก็ได้ที่ฟันดาบ ก็ต้องไปฝึกดาบใหม่ ปรึกษาพี่ๆ ในกองละคร ผู้ช่วยผู้กำกับว่าท่วงท่าฟันดาบควงดาบต้องทำอย่างไร ควงดาบอย่างไรให้ท่าสวย ฝึกซ้อมที่บ้านด้วย”
สำหรับชุดที่ใช้ลงแข่งขัน ทับทิมกับทีมงานก็ให้ความสำคัญและทุ่มเทมาก การแข่งจะมีด้วยกัน 5 รายการ มีโชว์หลักของเธอ 3 รายการด้วยกัน จึงใช้ 3 ชุดหลักๆ คือ ชุดลายกนก ชุดมโนราห์ประยุกต์ ซึ่งจะนำการโชว์มโนราห์มาผสมการเล่นไอซ์สเกต และชุดวีรสตรีไทย ซึ่งจะนำศิลปะการฟันดาบของไทยมารวมกัน
“พี่ๆ ดีไซเนอร์น่ารักมาก พอทับทิมเอ่ยปากพี่ๆ ให้การสนับสนุนทันที เช่น พี่โอปอ สัญลักษณ์ เป็นดีไซเนอร์หน้าใหม่ ที่สามารถนำผ้าไทยมาประยุกต์ได้สวยงามมาก พี่โอปอเลือกออกแบบชุดสีแดงมีลวดลายธงชาติไทย มีชุดโนราห์พี่ป๋องซีเบทช่วยออกแบบชุดให้เป็นโนราห์ประยุกต์ พี่ป๋องดึงสีสันของลูกปัดออกมาได้เด่น คงมีเครื่องระดับเล็บกับหางซึ่งคนดูให้ความสนใจมากๆ ทับทิมก็ดีใจ เพราะผู้ชมมาถามเยอะว่าชุดนี้เราจะพรีเซนต์อะไร ทับทิมตอบว่าอยากนำเสนอศิลปะไทย พอเขาฟังเขาก็รู้สึกแปลกใจ และบอกว่าเขาจะรอดูนะ ส่วนชุดสุดท้ายพี่เจี๊ยบ เอกกมล ทำให้เป็นชุดฟันดาบ วีรสตรีไทย ซึ่งสวยงามมากๆ ค่ะ”
บรรยากาศการแข่งขัน ทับทิม บอกว่า เธอไม่ได้มองว่าใครเป็นคู่แข่ง เธอตั้งใจทำโชว์ออกมาให้ดีที่สุด แต่ต้องยอมรับว่าก็มีตื่นเต้นและผิดพลาด
“เนื่องจากทับทิมมือใหม่และเป็นการประกวดแรก ยอมรับตื่นเต้นก็มีผิดพลาดบ้าง เช่น บางท่าใช้ความแข็งแรงของขาเยอะ ก็มีลื่นบ้าง แต่ก็ได้กำลังใจตอบกลับมา ก่อนลงแข่งรู้สึกตื่นเต้นโค้ชก็จะให้ทับทิมวิ่งๆ กระโดดๆ ในลานสเกตเพื่อให้รู้สึกเหนื่อย แล้วความตื่นเต้นจะลดลง ซึ่งช่วยได้จริงๆ
ที่ประทับใจที่สุดเวลาทับทิมไปโชว์ได้รับเสียงกรี๊ด วันสุดท้ายแข่ง 3 รายการ โดยใช้ทั้ง 3 ชุด ยอมรับว่าตื่นเต้นที่สุด คือ แข่งโปรแกรมอาร์ทิสติกและสปอร์ตไลต์ มีคนไทยที่นั่นมาเชียร์มาให้กำลังใจ มาพูดคุยกับเรา พอประกวดเสร็จเป็นธรรมเนียมที่มีคนโยนของลงมาในสนาม ทำให้ทับทิมรู้สึกประทับใจ ไม่คาดคิดว่าจะมีคนรักเรามากขนาดนี้ ช่วงวอร์มรายการก่อนแข่งก็มีกลัวๆ เพราะ 2 รายการสุดท้ายเป็นการแข่งแบบแบ่งอายุ ทับทิมอยู่ระดับฟรีสไตล์ 1 รุ่นอายุ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งมีนักแข่งจากฟิลิปปินส์ที่อายุมากกว่าทับทิม เขาดูเก่งและแข็งแรงจัง เตะสูงมาก เห็นเขาซ้อมก็มีแอบหวั่นๆ แต่ทับทิมก็ให้กำลังใจตัวเองว่า เรามาโชว์ (หัวเราะ) เราก็ทำโชว์ของเราให้ดีที่สุด
พอประกาศผลออกมาปรากฏฟิลิปปินส์ได้ที่ 2 และไทยได้ที่ 1 ซึ่งทับทิมคิดว่าอาจเป็นเพราะเราท่าเยอะกว่า คือในเรื่องเพอร์ฟอร์แมนซ์เราดูน่าสนใจ คือโค้ชช่วยออกแบบท่าให้มีทั้งกระโดด หมุน เล่นกับพร็อทก็คือดาบ แล้วทับทิมก็ใส่อินเนอร์ด้านการแสดงเข้าไปซึ่งโชว์ดาบทับทิมว่า
อินเนอร์สุดๆ มีใส่เสียงของนักสู้เข้าไป ก็ยิ่งช่วยเสริมให้โชว์ออกมาดี”
เรียกว่าทั้ง 5 เหรียญทอง ทับทิมรู้สึกภูมิใจมากๆ สำหรับเป้าหมายต่อไปของการแข่งขันไอซ์สเกตในรายการที่สูงขึ้น ทับทิมกล่าวว่ายังไม่ได้คิด เพราะถือว่าเธอยังเป็นมือสมัครเล่นอยู่ เล่นเพื่อเป็นการออกกำลังกายเป็นงานอดิเรก โดยไม่คิดไปแข่งขันในรายการที่สูงขึ้น หวังแค่ซ้อมเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงพอเพื่อสอบเลื่อนขั้นจากฟรีสไตล์หนึ่งให้ไต่ระดับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ก็พอ และช่วงนี้ขอกลับมาเคลียร์งานด้านการแสดงเสียก่อน
เป็นทั้งนักแสดงที่มากความสามารถ การแสดงก็ดี แถมยังร้องเพลงได้ไพเราะอีก มีอะไรไหมที่อยากทำแล้วยังไม่ได้ทำ ก็คืออยากเรียนจบปริญญาโทให้จบเสียก่อน แล้วทับทิมอยากไปศึกษาด้านการทูต เพราะเธออยากทำงานที่ได้เป็นตัวแทนประเทศไทย ในฐานะทำงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นสิ่งที่ทับทิมใฝ่ฝันอีกงานหนึ่ง
“การไปแข่งขันสเกตเอเชียก็ถือเป็นตัวแทนไปเผยแพร่ความเป็นไทยเหมือนกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทับทิมอยากทำมาก ตอนนี้ทับทิมก็สอบถามผู้รู้อยู่ว่า อยากทำงานด้านการทูตต้องทำอย่างไรบ้าง ทับทิมพยายามทำตัวเองให้พร้อมจึงเลือกลงเรียนโทรัฐศาสตร์ พยายามเรียนให้ตรงสาย หากมีเวลาจะฝึกภาษาเพิ่มค่ะ” &O5532;