รู้ตัวถูกจีบ...ไม่ชอบควรปฏิเสธแต่เนิ่นๆ

วิธีการจีบสาวผู้ชายแต่ละคนก็มีมุขจีบของตน สมัยนี้ผู้ชายมักมาด้วยท่าทีและวิธีเนียนๆ แบบไม่ให้ฝ่ายหญิงรู้ตัว เช่น มาแนวเป็นเพื่อนบ้าง แนวพี่ชายบ้าง หรือแนวผู้ใหญ่ใจดี ซื้อของฝาก แต่บางคนก็เข้ามาจีบตรงๆ เป็นต้น สารพัดของแต่ละวัย นิสัย และเทคนิคของแต่ละคน

หากผู้ชายเข้ามาคลุกคลีเจ๊าะแจ๊ะจนผิดสังเกต เช่น โทรหาบ่อยๆ อาจไม่ได้โทรจีบ แค่ปรึกษาเรื่องงาน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เขายกขึ้นมาคุยด้วยได้บ่อยๆ หรือแวะเวียนมาพูดคุยแทบทุกวัน หรือการชวนไปไหนสองต่อสองโดยไม่มีเหตุจำโน่นนี่นั่นบ่อยๆ หรือแรกๆ อาจมีเพื่อน พี่น้อง หรือญาติของผู้หญิงไปด้วยเพื่อไม่ให้ฝ่ายหญิงรู้ว่าตนกำลังจีบ สาวๆ โปรดรับรู้ว่ากำลังถูกผู้ชายจีบ ส่วนผู้ชายที่ชอบชวนไปดูหนัง กินข้าวบ่อยๆ ชัดเจนมาก

ไม่รวมพวกที่ชอบอ้างแอบแฝงความในว่าเป็นพี่ชายบ้าง เพื่อนบ้าง นั่นเพราะไม่ชัวร์ว่า ผู้หญิงจะชอบไหม ก็แค่พยายามปิดบังความรู้สึก ท่าทีตัวเองไว้ก่อน เพื่อรอวันเปิดเผยความในใจเมื่อเวลาที่เหมาะสมมาถึง รวมถึงพวกที่ทำตาซึ้งๆ ใส่นั้น ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา มาจีบทั้งนั้นแหละ

ว่าแต่การจีบสาวผู้ชายทุกคนอยากสมหวังทั้งนั้น ไม่มีใครอยากอกหักต้องเจอกับเหตุการณ์ถูกสาวปฏิเสธในวันที่ตัวเองบอกสาวว่าชอบ หรือตกหลุมรักเธอเข้าให้แน่นอน ดังนั้นด้วยวิธีการต่างๆ ของผู้ที่เล่ามา หากสาวรู้ตัวว่ากำลังถูกผู้ชายจีบ แต่ถ้าไม่ได้ชอบผู้ชายที่คิดจีบสักนิด ควรปฏิเสธแต่เนิ่นๆ เพื่อเตือนไม่ให้ฝ่ายชายทำแบบนั้นอีกต่อไป ยิ่งบอกเร็วผู้ชายก็จะไม่ได้อกหักมาก อย่าลืมว่าบางครั้งผู้ชายบางคน ก็มักเข้าข้างตัวเอง คิดว่าการที่ผู้หญิงไปด้วยบ่อยๆ หรือทำอย่างนั้นอย่างนี้แล้วต้องชอบ ตัวเองแน่นอน

ดังนั้น สาวๆ ถ้าไม่ชอบก็ช่วยบอกเขาไปแต่เนิ่นๆ ว่าไม่ได้คิดแบบนั้นด้วย ซึ่งในการ บอกความรู้สึกให้ผู้ชายรู้ควรดูกาลเทศะด้วยเพื่อความปลอดภัย เพราะผู้ชายบางคนพอไม่ได้อย่างใจก็อาจเล่นบทโหดเอาง่ายๆ หรือแสดงความหื่นออกมา เตือนกันไว้ ผู้ชายไม่ได้สุภาพบุรุษทุกคน อีกอย่างจิตใจคนยากแท้หยั่งถึง เห็นหน้าตาดีๆ แต่จิตใจอาจคนละเรื่องกับหน้าตา มีถมเถ

ทว่าการไม่บอกความรู้สึกปฏิเสธให้ฝ่ายชายรู้ไม่ดีแน่ๆ เพราะถ้าปล่อยให้เรื่องราวแบบนี้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ยินยอมไปกินข้าว ดูหนังฟังเพลงด้วย ยอมนั่งรถไปด้วยกันบ่อยๆ ย่อมทำให้ผู้ชายเริ่มมั่นใจเกือบ 100% แล้วว่าผู้หญิงมีใจด้วย แล้วอยู่ๆ มาปฏิเสธยอ้างนั่นนี่เท่ากับหักอกเขาอย่างแรง สาวๆ คนสวยจึงอย่าได้ทำอย่างนั้นเลย ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ไม่คิดว่าจะขอดูใจผู้ชายกันไปก่อน คิดว่าคงเป็นแค่เพื่อนกันในชาตินี้ ไม่ว่าจะยอมนั่งรถไปกับเขาอีกกี่สิบปี หรือยอมไปกินข้าวด้วยอีกกี่พันครั้ง ก็ยังคิดว่าเป็นได้แค่เพื่อน จึงควรบอกไปเลย

อีกอย่างสำหรับสาวๆ การที่ผู้ชายบอกว่าชอบหรือรักก็อย่าโกรธ เพราะทุกอย่างที่ผู้ชายทำมาเขาคงรักจริง ชอบจริง จึงบอกรักออกไป ไม่ควรโกรธ หรือด่าชนิดว่าเกลียดกันไปเลย เพราะผู้ชายบางคนกว่าจะกล้าบอกรักหรือความรู้ข้างในให้รู้ต้องรวบรวมความกล้ามาหลายปีหรือหลายเดือนกว่าจะกล้าแสดงออก เรียกว่ายอมเสียหน้า ยอมเสียฟอร์ม ยิ่งโดนปฏิเสธนั้นก็ชาพออยู่แล้ว ยังโดนผู้หญิงโกรธซายิ่งแย่กันใหญ่
ว่าแต่สาวๆ ถ้าไม่ชอบ ไม่ได้คิดอะไรด้วยกับผู้ชายควรปฏิเสธแบบนิ่มๆ แล้วไม่ต้องไปอะไรกับเขามากมาย เช่น คอยปลอบใจเขา แต่ควรปล่อยให้เวลาช่วยสมานหัวใจเขาและเขาคงทำได้เอง

มีแฟนแล้วต้องระวังภาพลักษณ์

ไม่ว่าหญิงหรือชาย ถ้าคุณมีแฟนที่จีบกันอยู่ หรือเป็นภรรยาสามีกันแล้ว การไปทำสนิทสนมเกินงามกับชายอื่นหรือหญิงอื่นที่เขามีแฟนอยู่แล้ว โดยการไปแสดงออกใกล้ชิดเกินงามกับเพื่อนรักสมัยเรียน หรือชายที่ไหนที่ไม่ใช่พ่อ หรือพี่ชายน้องชายเธอ เชื่อเลยว่าถ้าแฟนเห็นเข้าไม่ว่าจะจะหรือแค่ภาพถ่าย ควันออกหูแน่นอน บางคนอาจเลิกรากันเลย เพราะอีกฝ่ายจะมองว่ากำลังนอกใจหรือนอกใจเขาไปแล้วนั่นเอง

ถ้ามีแฟนอยู่แล้วการวางตัวหรือการแสดงออกกับหญิงหรือชายอื่นเป็นเรื่องที่ควรระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะอาจทำให้ภาพลักษณ์ของเราในสายตาคนอื่นเสียหายได้ แถมอาจเจอแจ็กพอตต้องผิดใจกันกับแฟน มีปากเสียงทะเลาะกัน หรือร้ายแรงคืออาจเลิกรากันได้

ยิ่งหญิงชายยุคใหม่สมัยนี้ในบางสังคมมีจำนวนไม่น้อยที่ชอบทำตัวแบบนี้ โดยไปทำตัวสนิทสนมกับคนอื่นมากจนเกินงามในสายตาคนอื่น ไม่ได้ดูว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปนั้น เหมาะสมหรือไม่ ทั้งที่ตัวเองมีแฟนหรือมีครอบครัวแล้ว เพราะฉะนั้นจะทำอะไรต้องมีสติกันหน่อย ข้อครหาก็จะไม่เกิดขึ้น แล้วกับแฟนหรือคนรักก็จะได้ไม่ต้องผิดใจกัน