75ปี Dumbo ความทรงจำสุขระคนเศร้า
เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน แต่ความประทับใจในแอนิเมชั่นแสนหวานเรื่อง “Dumbo” ไม่เคยจางหายไป
โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง
เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน แต่ความประทับใจในแอนิเมชั่นแสนหวานเรื่อง “Dumbo” ไม่เคยจางหายไป และในเดือนนี้ แฟนคลับจะได้ร่วมรำลึกนึกถึงหนังเรื่องนี้กันเป็นพิเศษเมื่อ Dumbo มีอายุครบ 75 ปี
ออกฉายครั้งแรกในเดือน ต.ค. 1941 หนังดิสนีย์เรื่องนี้สร้างจากหนังสือนิทานภาพสำหรับเด็กเรื่อง Roll-A-Book ผลงานการแต่งของ เฮเลน อเบอร์สัน โดยมี แฮโรลด์ เพิร์ล วาดภาพประกอบ กำกับโดย เบน ชาร์ปสตีน
นำเสนอเรื่องราวของลูกช้างที่เกิดในคณะละครสัตว์ และได้ชื่อว่า ดัมโบ เพราะขนาดใบหูที่ใหญ่เกินปกติ เมื่อมันถูกพรากจากแม่ ดัมโบ ก็เหงาเศร้า มีเพียงหนูชื่อ ทิโมที คิว. เมาส์ เป็นเพื่อน เพราะใบหูซึ่งใครๆ ชอบล้อเลียนนั่นเองที่ทำให้ ดัมโบ บินได้ และส่งให้เจ้าช้างตัวนี้กลายเป็นดาราของคณะละครสัตว์
นี่เป็นหนังแอนิเมชั่นขนาดยาวเรื่องที่ 4 ของค่ายวอลท์ ดิสนีย์ ด้วยความยาว 64 นาที Dumbo จึงจัดว่าเป็นงานแอนิเมชั่นเรื่องยาวซึ่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ทั้งยังเป็นหนังที่ใช้ต้นทุนต่ำมากๆ ไม่ถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐด้วยซ้ำ เพราะตอนนั้นดิสนีย์มีปัญหาทางด้านการเงิน เพราะหนังทุนสูงที่สร้างออกมาก่อนหน้านั้นอย่าง Pinocchio (1940) และ Fantasia (1940) ล้วนไม่ประสบความสำเร็จ ระหว่างการสร้างก็มีการประท้วงหยุดงาน จนเกือบทำไม่เสร็จ เมื่อออกฉาย Dumbo กลายเป็นงานที่ช่วยกอบกู้สถานการณ์ของบริษัทให้ดีขึ้น ด้วยแรงสนับสนุนจากคนดูมากมายเหนือความคาดหวัง ทั้งยังได้กล่องคือ รางวัลออสการ์ สาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยมไปครองด้วย (ด้วยฝีมือของ แฟรงค์ เชอร์ชิลล์ และ โอลิเวอร์ วอลเลซ)
ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในอเมริกา หนัง Dumbo เป็นความบันเทิงที่ปลอบประโลมและให้กำลังใจกับคนอเมริกันจำนวนมาก ก่อนจะกลายเป็นงานสุดคลาสสิกที่คนทั่วโลกในเจเนอเรชั่นต่อๆ มาได้สัมผัสและหลงรัก
ด้วยบางช่วงบางตอนทำให้ Dumbo ถูกจำกัดความว่าเป็น “หนังที่เศร้าที่สุดในประวัติศาสตร์ของดิสนีย์” (เคยถูกจัดให้เป็น 1 ใน 10 หนังเด็กที่เศร้าที่สุดของไทม์ด้วย) แต่ในรายละเอียดขององค์ประกอบก็สดใสมีสีสันและเสน่ห์ พวกเขาเลือกใช้สีน้ำมาสร้างสรรค์แบ็กกราวด์ของหนัง เพราะว่าถูกกว่าสีกว็อชและสีน้ำมันซึ่งเคยใช้ในหนังเรื่องแอนิเมชั่นเรื่องก่อน อีกทั้งยังไม่ใส่รายละเอียดลงไปในภาพมากมายนัก เน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก จุดนี้ก็กลายเป็นเสน่ห์ของ Dumbo โดยเฉพาะตัวละครในเรื่องมีความน่าสนใจไม่ว่าจะ ดัมโบ ช้างน้อยหูโอเวอร์ไซส์ รถไฟของคณะละครสัตว์ที่พูดได้ หนูตัวจิ๋วที่กล้าหาญ อีกา 5 ตัวที่สอนให้ ดัมโบ บินได้ เป็นต้น
Dumbo สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ รวมทั้งน้ำตาให้กับคนดู ฉากประทับใจของหนังที่แม้แต่คนใจแข็งที่สุดก็ยังต้องเสียน้ำตา คือ ตอนที่ ทิโมที คิว. เมาส์ พา ดัมโบ ไปหาแม่ จัมโบ ซึ่งถูกขังตัวไว้ แม้จะมีเครื่องพันธนาการกีดกั้น แต่แม่ก็ยื่นงวงออกมาสัมผัสรัดกอดลูกน้อย เคล้าคลอด้วยเพลง Baby Mind ฉากนี้อาจเรียกได้ว่า ซาบซึ้งถึงขั้นสุด เพลงนี้ (ดนตรีโดย แฟรงค์ เชอร์ชิลล์ เนื้อร้องโดย เน็ด วอชิงตัน และ เบตตี โนเยส เป็นผู้ขับร้อง ภายหลังมีศิลปินอย่าง เบตต์ มิดเลอร์, บอนนี เรตต์, อลิสัน เคราสส์ ฯลฯ นำมาบันทึกเสียงใหม่) กลายมาเป็นหนึ่งในเพลงกล่อมเด็กอันโด่งดัง ซึ่งยังคงขับขานให้ได้ยินได้ฟังมาจนถึงวันนี้ และยังถูกจัดให้เป็น 1 ใน 100 เพลงจากหนังที่ดีที่สุดตลอดกาลด้วย
หนังเรื่องนี้ยังมอบ “ข้อความ” ดีๆ เกี่ยวกับการเข้าใจและยอมรับในความแตกต่าง เช่นที่ ดัมโบ ซึ่งเป็นช้างที่มีหูใหญ่โตผิดธรรมชาติ แม้ใครๆ จะล้อเลียน แต่สำหรับแม่ของมันแล้ว ดัมโบ คือ สิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ โดยไม่จำเป็นเหมือนใคร
ในหนัง เพื่อให้ ดัมโบ สบายใจ ทิโมธี บอกกับเพื่อนต่างขนาดของมันว่า “คนหูใหญ่มากมายมีชื่อเสียง”! ซึ่งประโยคนี้ตั้งใจที่จะอ้างอิงพาดพิงถึงพระเอกดังแห่งยุคนั้น
40 ปีต่อมา ดิสนีย์ก็สร้าง Dumbo’s Circus ออกฉายทางโทรทัศน์ ดัมโบ ที่ไม่พูดเลยในหนังต้นตำรับกลับกลายมาเป็นช้างช่างพูดในจอแก้ว เมื่อปี 2001 ทางดิสนีย์ประกาศจะสร้างหนังภาคต่อของเรื่อง Dumbo ก่อนจะยกเลิกไป ต่อมาก็มีข่าวว่า จะสร้างเป็นหนังไลฟ์แอ็กชั่น และมี ทิม เบอร์ตัน มากำกับ ซึ่งก็ต้องรอกันต่อไปว่าจะได้ดูกันไหม
และเมื่อวาระพิเศษเวียนมาถึง Dumbo ฉลองครบรอบ 75 ปี ทั้งที เจ้าของลิขสิทธิ์จึงนำแอนิเมชั่นเรื่องนี้ออกมาจำหน่ายอีกครั้งในรูปแบบแผ่นบลูเรย์ เพื่อให้แฟนๆ ได้ชมและสะสม นอกจากนั้น เลโก้ ก็ออกของเล่นชุดดัมโบ และทั่วโลกยังได้จัดงานเพื่อรำลึกถึงหนังอันเป็นที่รักของผู้คนเรื่องนี้
นอกจากจะเป็นที่ชื่นชอบของคนดู Dumbo ยังเป็นงานชิ้นโปรด และหนังแห่งความสุขของผู้สร้างคือ วอลท์ ดิสนีย์ “เราสร้างโดยไม่มีโครงเรื่องใดๆ มาจำกัด เราจึงสามารถใช้จินตนาการเข้าไปอย่างเต็มที่ ตอนไหนมีความคิดดีๆ เกิดขึ้น ก็จะใส่เข้าไปในเรื่องทันที มันคือหนังที่มีความสุขตั้งแต่ต้นจนจบ”
ไม่ว่าดูแล้วจะเศร้าหรือสุข แต่ Dumbo ยังคงถูกจดจำและระลึกถึงเสมอ