ปลาทะเลดีต่อสมองและหัวใจ
เหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้นักวิจัยด้านการแพทย์ แนะนำให้รับประทานปลาเป็นประจำ
โดย... โยโมทาโร่
เหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้นักวิจัยด้านการแพทย์ แนะนำให้รับประทานปลาเป็นประจำ ก็เพราะปลาช่วยป้องกันโรคหัวใจ ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพสำคัญในปัจจุบัน การกินเนื้อปลาเป็นประจำช่วยลดอัตราเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีงานวิจัยหลายชิ้นจากทั่วโลกที่ระบุตรงกันว่า ผู้ที่กินเนื้อปลาเป็นอาหารหลักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง มีโอกาสเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวลดลง โดยเฉพาะการรับประทานปลาทะเลที่มีโอเมก้า 3 สูง ที่ช่วยให้หัวใจเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ลดคราบไขมันไตรกลีเซอไรด์สะสมในหลอดเลือด ลดการอักเสบเรื้อรังในหลอดเลือด และช่วยให้ความดันโลหิตลดลง
นอกจากจะมีประโยชน์ต่อหัวใจแล้วยังดีต่อสมอง ผู้ชอบกินปลามีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมองลดลงอีกด้วย งานวิจัยบางฉบับระบุว่า ช่วยลดความเสี่ยงได้ถึง 40% แล้วยังป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ เนื่องเพราะโอเมก้า 3 ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสารเคมีในสมองให้เป็นปกติ
นอกจากนี้ เด็กที่คลอดจากแม่ซึ่งกินอาหารทะเลมากกว่าสัปดาห์ละ 360 กรัม ระหว่างตั้งครรภ์ จะมีคะแนนทดสอบระดับสติปัญญาสูงกว่าเด็กที่คุณแม่ไม่ได้รับประทานปลาทะเลในระหว่างตั้งครรภ์ และยังพบว่าผู้ที่รับประทานปลาทะเลมากกว่าสัปดาห์ละครั้ง ในการทดสอบระดับสติปัญญา จะมีค่าสูงกว่าคนที่แทบไม่กินปลาทะเลเกือบ 11% และยังพบว่าเมื่ออายุมากขึ้น ผู้ที่กินปลาทะเลเป็นประจำมีโอกาสเป็นโรคความจำเสื่อมน้อยกว่าอีกด้วย
ปลาที่ยืนยันแล้วว่ามีโอเมก้า 3 สูง ได้แก่ ปลากะพง ปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน หรือแม้กระทั่งปลาทูน่ากระป๋อง และหอยนางรม ก็มีโอเมก้าสูงเช่นกัน เช่น แซลมอน 1 ชิ้น ขนาด 170 กรัม จะมี โอเมก้า 3 สูงถึง 1,750 มิลลิกรัม ซึ่งเพียงพอต่อการป้องกันโรคหัวใจได้ตลอดสัปดาห์ ถ้าหากเราเลือกเนื้อปลาที่มีไขมันน้อยกว่า เช่น ปลาดุก และปลาสวาย ควรรับประทาน ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพื่อชดเชยให้ร่างกายได้รับโอเมก้า 3 อย่างเพียงพอ ซึ่งสมาคมโรคหัวใจแห่งประเทศไทย แนะนำให้รับประทานเนื้อปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง