รับมือกับความเศร้าโศก สูญเสียฉับพลัน

02 พฤศจิกายน 2559

เราทุกคนเคยสูญเสียคนในครอบครัว แต่แทบไม่มีใครที่เคยสูญเสียในหลวงมาก่อน

โดย...กันย์ ภาพ  กิจจา อภิชนรจเรข

เราทุกคนเคยสูญเสียคนในครอบครัว แต่แทบไม่มีใครที่เคยสูญเสียในหลวงมาก่อน จึงพูดได้ว่าคนไทยเกือบทั้งประเทศเพิ่งรู้จักกับความสูญเสียในหลวงในครั้งนี้ พวกเราเกิดมาก็มีในหลวงแล้ว อยู่ใต้บารมีของพระองค์มาตั้งแต่เกิด ไม่ว่ายามสุขหรือยามทุกข์ หลายคนคงรู้สึกว่าในหลวงจะอยู่กับเราไปตลอด เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต คนทั้งประเทศเป็นกำพร้าทันทีพร้อมกันทั้งประเทศ การเป็นกำพร้า เช่น กำพร้าพ่อ กำพร้าแม่ ปกติเราผลัดกันเป็น ไม่ได้เป็นกันทีเดียวทั้งประเทศเป็นความสูญเสียพร้อมๆ กัน

การสูญเสียในหลวงครั้งนี้ พวกเรากำพร้าทั้งประเทศพร้อมๆ กัน รู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ทรงคุณค่าหายไปจากชีวิต รู้สึกได้ถึงความสูญเสียอันใหญ่หลวงในจิตใจของเรา เกิดความรู้สึกเคว้งคว้าง ขาดที่พึ่ง ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าในหลวงประชวรมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว การประชวรกับการสวรรคตนั้นแตกต่างกันมาก ความโศกเศร้าอาลัยอาวรณ์ย่อมท่วมท้นเป็นธรรมดา เพราะความหวังดับสิ้นแล้ว เป็นการขาดเสาหลักของชีวิตไปอย่างถาวร

แม้จะเศร้าทุกข์ตรมเพียงใดชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป สูญเสียได้แต่อย่ายอมเสียสูญ เมื่อเกิดเจ็บปวดขึ้นมาแล้ว ก็ต้องรีบรักษา ให้บรรเทาเบาบางลง การรับมือกับความสูญเสียนั้น อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินเยียวยา

1.เผชิญหน้าและยอมรับความสูญเสีย

ภายหลังการสูญเสียครั้งสำคัญ บางคนรู้สึกทำใจไม่ได้ จึงหันเข้าหาพฤติกรรมที่เป็นอันตราย เช่น ใช้ยาเสพติด ดื่มเหล้า ฯลฯ เพื่อช่วยให้ลืมความทุกข์โศก ซึ่งมันก็ช่วยได้เพียงชั่วขณะ แต่จะส่งผลร้ายอย่างมหันต์ในเวลาต่อมา คุณไม่มีวันจะรู้สึกดีขึ้นได้เลย จนกว่าจะเลิกหนีและหันมาเผชิญหน้ากับมัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ ยอมรับความสูญเสียให้ได้ และทำความเข้าใจว่า เมื่อมันเกิดขึ้น ย่อมรู้สึกเจ็บปวดเป็นธรรมดา แต่มันก็จะค่อยเบาบางและจางหายไปในที่สุด

2.ปลดปล่อยอารมณ์ปวดร้าว 

ขอให้คุณปลดปล่อยความรู้สึกเศร้าโศกเสียใจออกมาให้หมด บางคนอาจอยากทุบหมอน กรีดร้องเสียงดังในห้อง เพื่อระบายความปวดร้าวใจ แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหน ต้องเป็นการกระทำที่ไม่เป็นอันตรายต่อตัวเองหรือผู้อื่น อย่าอายที่จะร้องไห้ ปล่อยโฮจนน้ำตานองหน้า แม้ว่าจะไม่เคยทำมาก่อนก็ตาม เพราะการได้ปลดปล่อยอารมณ์ด้านลบออกมาจนหมด จะทำให้คุณสบายใจขึ้นบ้าง และพอจะมองเห็นวิธีจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อก้าวผ่านมันไปให้ได้

3.แชร์ความรู้สึกกับคนอื่น

เมื่อความสูญเสียเกิดขึ้น การได้พูดคุยเพื่อแชร์ความรู้สึกกับคนที่สนิทสนมและไว้วางใจ เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะได้ระบายความโศกเศร้าแล้ว บ่อยครั้งยังอาจได้แง่คิดดีๆ มีประโยชน์จากผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน ช่วยให้คุณกลับคืนสู่สภาพปกติได้โดยเร็ว

4.อยู่ห่างคนที่ไม่เห็นอกเห็นใจ

ใช่ว่าทุกคนที่อยู่รายล้อมคุณยามสูญเสีย จะมีความเห็นอกเห็นใจ และช่วยปลอบประโลมได้เสมอไป เพราะมีบางคนที่ชอบพูดว่า “มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย ฉันลืมได้เร็ว ถ้ามันเกิดกับฉัน ฉันว่าไม่เห็นจะน่าเสียใจเลย” เพราะคำพูดเช่นนี้อาจซ้ำเติมให้คุณรู้สึกแย่ลงกว่าเดิม อย่าไปใส่ใจคำพูดพวกนั้น และถอยห่างจากพวกเขาไปก่อน

5.ปรึกษาจิตแพทย์

บางคนที่ไม่สามารถรับมือกับความสูญเสียครั้งใหญ่ด้วยตัวเองได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องไปพบจิตแพทย์ ก่อนที่จะสายเกินไป เพราะมันชี้ให้เห็นว่าคุณต้องการเอาชนะความเศร้าโศก เพื่อให้ชีวิตนี้ได้เดินหน้าต่อไปอย่างมีจุดหมาย

6.อ่านหนังสือธรรมะ

วิธีเยียวยาจิตใจโดยใช้ธรรมโอสถ ด้วยการหาหนังสือธรรมะมาอ่านสักเล่ม เพราะหลักธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเฉพาะเรื่องการเกิด แก่ เจ็บ ตาย หรือสรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ซึ่งเป็นความจริงแท้แน่นอนนี้ จะช่วยคลายทุกข์โศกได้ เมื่อตระหนักรู้ว่าทุกสิ่งไม่เที่ยง ไม่พลัดพรากจากกันวันนี้ก็ต้องจากกันในวันหน้า เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ จะทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง ไม่ยึดมั่น ถือมั่น และปล่อยวางอย่างไม่ประมาทได้ในที่สุด

Thailand Web Stat