posttoday

ณวัฒน์ ทองสว่าง สถาปนิกคิดมาก

03 พฤศจิกายน 2559

โดย...กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

โดย...กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

เบื้องหลังสถาปัตยกรรมคือฝีมือการออกแบบของสถาปนิก ณวัฒน์ ทองสว่าง สถาปนิก และผู้ก่อตั้ง บริษัท เฟบรัวร์ อิมเมจ บริษัทรับจ้างออกแบบอสังหาริมทรัพย์และตกแต่งภายใน

เขาก่อตั้งบริษัทของตัวเองเมื่ออายุ 26 ปีก่อน จนถึงตอนนี้ในวัย 52 ปี ก็ยังออกแบบและสร้างผลงานชิ้นใหญ่เสมอ โรงแรมแห่งแรกที่ออกแบบ คือ ดุสิตไอส์แลนด์ เชียงราย ต่อเนื่องด้วยโรงแรมและรีสอร์ทไม่ขาดสายจนทำให้เขาและบริษัทกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยสมบูรณ์

ในปี 2535 ณวัฒน์มีโอกาสทำงานสนุกๆ ชิ้นหนึ่ง โดยได้รับคำชวนจากเพื่อนสมัยมัธยมฯ เก้ง-โกมล พรพัฒนไสว ประธานบริหารเสม็ดรีสอร์ทกรุ๊ป ให้ไปเยือนเกาะเสม็ด เขาเล่าว่า เกาะเสม็ดในเวลานั้นเป็นเกาะเสม็ดที่น่ารัก ไม่มีพิธีรีตอง ราคาถูก และเป็นที่โปรดของเด็กมัธยมฯ สมัยขาสั้นคอซอง

“พอเราไปถึงที่นั่น เห็นสถานที่ที่สวยแบบนี้ จึงคิดว่าทำไมเราไม่ทำโปรดักต์ดีๆ เพื่อรองรับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ตอนนั้นสมุยเกิดแล้ว ภูเก็ตเกิดแล้ว แต่พวกเขาต้องใช้สตางค์บินไปตั้งไกล มาเสม็ดแค่ขับรถสองสามชั่วโมง ข้ามเรืออีกแป๊บนึงก็ถึง ดังนั้น ถ้าเราทำธุรกิจที่ดี ทำโปรดักต์ที่ดี น่าจะมีคนมาพัก จึงลงมือทำรีสอร์ทแห่งแรกบนเกาะเสม็ด”

อ่าวพร้าว รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทแห่งแรกบนเกาะเสม็ด จากนั้นอีก 2-3 ปีต่อมา ได้ที่ดินผืนข้างๆ สร้างเป็น เลอ วิมาน คอนเทจ แอนด์ สปา รีสอร์ทระดับ 4 ดาวเพื่อตอบโจทย์ตลาดกลาง ถัดมาในเวลาที่เหลื่อมกันไม่มากได้มีโอกาสสร้าง ทรายแก้ว บีช รีสอร์ท เจาะกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่ด้วยราคาไม่แพงนัก

จากนั้นได้ที่ดินแปลงสวยที่อ่าวกิ่ว เป็นโลเกชั่นที่มีหาดทั้งฝั่งทิศตะวันตกและตะวันออก เขาจึงสร้างรีสอร์ทระดับ พรีเมียมโปรดักต์ชื่อ ปารดี เมื่อมีรีสอร์ทสำหรับคนทุกระดับแล้ว จึงได้สร้างบ้านพลอยสี เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเฉพาะ (นิช มาร์เก็ต) และสุดท้ายได้เลือกทำรีสอร์ทระดับท้ายสุดชื่อ บ้านสับปะรด โดยนำบังกะโลมาทำให้สะอาดและตั้งราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ รวมแล้ว ณวัฒน์ได้ออกแบบรีสอร์ททั้ง 6 แห่งในเครือเสม็ดรีสอร์ทกรุ๊ป และอีกหลายแห่งหลายเครือทั้งในและต่างประเทศ

1 มัลดีฟส์ ปารดี ดันดู

มัลดีฟส์เป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกคนอยากไป ซึ่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเครือเสม็ดรีสอร์ทกรุ๊ปจะเปิดรีสอร์ทที่นั่น เขาเล่าว่า การทำรีสอร์ทบนเกาะในมัลดีฟส์นับเป็นความฝันของสถาปนิก จึงตอบตกลงรับคำคุณเก้ง และออกแบบ ปารดี ดันดู มัลดีฟส์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2560 "เกาะที่ได้รับสัมปทานมาถือว่ามีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับรีสอร์ทอื่นจึงมีไอเดียที่จะสร้างรีสอร์ทภายใต้แนวคิด บ้านรับรอง เป็นเรสซิเดนท์หรือบ้านพักเพียง 28 วิลล่า แต่วิลล่าที่เล็กที่สุดใหญ่ 200 ตร.ม. เราออกแบบโดยไม่คิดว่าจะทำขายใคร แต่เราทำเหมือนสร้างบ้านไว้รับรองเพื่อน จึงไม่ได้มองแค่ดีไซน์หรือฮาร์ดแวร์ เรามองซอฟต์แวร์ด้วย หมายถึง คนที่มาพักจะได้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกับรีสอร์ทอื่นๆ ในมัลดีฟส์"เขาใช้แนวคิดสร้าง โฮเต็ล อิน รีสอร์ท คือ มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบโรงแรมแต่มีบรรยากาศเหมือนรีสอร์ท ออกแบบโดยใส่ใจธรรมชาติ ออกแบบที่เป็นธรรมชาติ และไม่ทำลายธรรมชาติที่มีอยู่เดิม และยังเน้นงานบริการลูกค้าโดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่ไฮเอนด์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นกลุ่มที่เอนจอยกับชีวิต

2 ปารดี เสม็ด

สำหรับ ปารดี เสม็ด เขาใช้วิธีไปออกแบบจากสถานที่จริง โดยได้เดินทางไปดูความคืบหน้าทุกอาทิตย์ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งสไตล์การออกแบบ หลายคนมองว่าเป็น โมร็อกโกบ้าง บาหลีบ้าง มัลดีฟส์บ้าง แต่แท้จริงแล้ว ณวัฒน์ตั้งใจออกแบบให้เป็น ทะเลไทยตะวันออก"เรามองว่าธรรมชาติมีคุณค่ามาก เราจะออกแบบยังไงที่จะไม่ตัดต้นไม้ จะเลี่ยงก้อนหินยังไง เราจะทำอย่างไรให้ห้องแต่ละห้องมีวิวที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง"ชื่อ ปารดี มาจากสวรรค์ในวรรณคดีไทยมี 6 ชั้น มีสวรรค์ชั้นสูงสุด ชื่อ ปรนิมมิตวสวัตดี กร่อนคำให้เป็น ปารดี หมายถึง สวรรค์ในจินตนาการ โดยปารดีเป็นพูลวิลล่าที่เรียกว่า พรีเมียม โปรดักต์ หรูหราที่สุดบนเกาะเสม็ด และยังเป็นสถานที่ที่เปลี่ยนภาพลักษณ์เกาะเสม็ดไปโดยปริยาย

3 ทรายแก้ว บีช รีสอร์ท

แม้ว่าเขาจะออกแบบรีสอร์ทโดยหลีกเลี่ยงการตัดต้นไม้อยู่เป็นธรรมเนียมแล้ว แต่ต้องกล่าวถึง ทรายแก้ว บีช รีสอร์ท เป็นพิเศษ "หาดทรายแก้วเป็นสถานที่ที่ครึกครื้น เหมาะสำหรับคนชอบความบันเทิง แต่คนชอบความบันเทิงบางกลุ่มก็อยากได้ห้องพักที่ดี บริการที่ดี และมีกำลังจ่ายมาก ทรายแก้ว บีช รีสอร์ท จึงตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ที่ดีทั้งโลเกชั่น และดีทั้ง ฟาซิลิตี้" เขากล่าวทรายแก้ว บีช รีสอร์ท ได้เพิ่มโซนใหม่เป็นห้องริมทะเลแบบพูลแอกเซส เป็นโซนที่ไม่ได้ตัดต้นไม้ และหรูหรากว่าห้องอื่น ทั้งยังมี ซิกเนเจอร์ของรีสอร์ทเป็นรูปทรงตัวเอสของทรงต้นไม้ ซึ่งเป็นต้นไม้เก่าแก่ที่รีสอร์ทยังรักษาไว้

4 พรานา รีสอร์ท นันดานา

พรานา อยู่บริเวณหาดบางรัก เกาะสมุย เป็นโปรเจกต์ที่ท้าทายสำหรับผู้ออกแบบ เพราะรีสอร์ทมีถนนกั้นกลางระหว่างโซนติดทะเลกับติดถนน โดยมีโจทย์ว่าต้องทำให้รีสอร์ทเป็นที่จดจำของคนที่ขับรถผ่านไปมา เขาจึงต้องออกแบบให้เป็น ไอคอนนิก ดีไซน์"ที่ตั้งของรีสอร์ทเป็นจุดที่ทำให้เด่นได้ยาก แต่เราต้องทำให้กลายเป็นที่ติดตา ผมเลยนึกถึงเครื่องมือจับปลาอย่างข้องจับปลา ซึ่งเป็นงานจักสานที่มีฟอร์มที่ น่าสนใจ ผมเลยนำทั้งงานด้านสถาปัตย์ การตกแต่งภายใน และการจัดไฟมาผสมกัน และกลายเป็นล็อบบี้ที่น่าสนใจและเตะตาจริงๆ"การออกแบบดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เขาไม่ได้ออกแบบงานให้ดูสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังคิดถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งข้องจับปลาเป็นตัวแทนของชาวประมงและท้องทะเล

5 มานะไทย เขาหลัก

งานท้าทายอีกแห่งเขายกให้ มานะไทย เขาหลัก ด้วยการรีโนเวตรีสอร์ทเก่าหลังถูกสึนามิ และการสร้างบรรยากาศใหม่ให้เป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น ภายใต้ งบประมาณที่จำกัด เขาจึงต้องออกแบบของธรรมดาให้ดูมีราคาให้ได้"เราต้องมีเซนส์ในการเลือกวัสดุ ต้องมีแหล่งหาวัสดุที่ดี ซึ่งที่นี่เราภูมิใจที่ได้ออกแบบได้คุ้มค่าเงิน และสามารถเปลี่ยนภาพเขาหลักไปได้จริงๆ"

6 บาร์ แอนด์ เบด

บาร์ แอนด์ เบด เกาะเสม็ด ถูกดีไซน์จากวัสดุเหลือใช้จากการสร้างรีสอร์ทอื่นๆ ในเครือเสม็ดรีสอร์ทกรุ๊ป รีสอร์ทแห่งนี้จึงเป็นมิตรต่อโลก ทั้งวงกบ ประตู หน้าต่าง ไม้ หลังคาสังกะสี ถูกนำมาดีไซน์ใหม่และกลับมาใช้งานอีกครั้ง"ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนชอบเที่ยว พอมาสนุกที่บาร์ ดื่มที่บาร์ ก็สามารถนอนพักได้เลย และหนึ่งห้องพักสามารถพักได้มากกว่าสองคน ทำให้คุณสนุกได้เต็มที่ สังสรรค์กับเพื่อนได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลหลังจากนั้น"

7 ม็อกชาร์ สปา

นอกจากรีสอร์ท ณวัฒน์ยังเคยออกแบบสปาที่อินเดีย ม็อกชาร์ สปา (Mokchr Spa) เป็นสปาขนาดใหญ่ประมาณ 3,000 กว่าตารางเมตร ตั้งอยู่บนยอดเขาทางตอนเหนือของกรุงนิวเดลี ภายใต้โจทย์ธรรมชาติ
"โลเกชั่นเป็นป่าสนบนยอดเขา เราจึงดีไซน์ให้อิงธรรมชาติและยังคงคอนเซ็ปต์อิงวัฒนธรรม จึงดีไซน์ออกมาในสไตล์อินเดียร่วมสมัย และสร้างบรรยากาศเงียบสงบเหมือนความหมายของชื่อสปาที่แปลว่า นิพพาน บรรยากาศทั้งหมดจะถูกทำให้เหมือนคุณกำลังเดินอยู่บนก้อนเมฆ"เขายังกล่าวด้วยว่า สถาปนิกไม่ได้มีหน้าที่เพียงออกแบบ แต่ต้องออกแบบภายใต้ข้อจำกัด เช่น งบประมาณและเวลา รวมถึงภายใต้ความต้องการของลูกค้า ทำให้สถาปนิกต้องคิด คิด และคิด ไม่ว่าจะเรื่องความสวยงาม ความแตกต่าง ประโยชน์ใช้สอย ความหมายของงาน และต้องอธิบายทุกอย่างให้ได้

Thailand Web Stat