(หนัง) รำลึก สงครามโลกครั้งที่ 1

13 พฤศจิกายน 2559

เนื่องในวันรำลึกถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งนับเป็นมหาสงครามโลกครั้งใหญ่ที่สุดครั้งแรกของมนุษยชาติ

โดย...ปณิฏา

เนื่องในวันรำลึกถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งนับเป็นมหาสงครามโลกครั้งใหญ่ที่สุดครั้งแรกของมนุษยชาติ โดยสหราชอาณาจักรนับเป็นประเทศที่ส่งทหารหาญเข้าไปร่วมในสงครามโลกมากที่สุด พวกเขาใช้ดอกป๊อปปีสีแดง เป็นเครื่องหมายรำลึกทหารผ่านศึก โดยเฉพาะเหล่าผู้เสียชีวิตในสมรภูมิสงครามโลกครั้งที่ 1 ราว 17 ล้านคน

นอกจากจัดงานรำลึกกันเป็นประจำทุกปีแล้ว ปีนี้ยังได้มีการออกแบบสัญลักษณ์ดอกป๊อปปี ติดไว้บนเสื้อของนักฟุตบอลและทีมงานของทีมเหย้าทีมเยือนในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ซึ่งเป็นลีกที่มีผู้นิยมมากที่สุดในโลก

ในฝั่งบันเทิง สถาบันภาพยนตร์อังกฤษ (BFI) ได้คัดสรรหนังที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ “น่าจะลองชมดู” และนำออกฉายทางโทรทัศน์ของอังกฤษในช่วงเวลานี้ด้วย

ว่างๆ ลองไปหาชมกันดูได้นะ...

Shoulder Arms (1918) (ชาร์ลี แชปลิน-กำกับ)

ภาพพลทหารแบกปืนกลายมาเป็นภาพโปสเตอร์และชื่อของหนังเงียบแนวตลกเสียดสี สไตล์ชาร์ลี แชปลิน ซึ่งเขาเขียนไว้ในอัตชีวประวัติว่า กำลังหมดมุขที่จะมาทำภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องที่ 2 ของตัวเองอยู่ แม้ เซซีล บี. เดอมิลล์ จะคัดค้านว่าไม่ควรทำหนังตลกเกี่ยวกับสงคราม แต่ใครจะหยุดชาร์ลีอยู่

ใน Shoulder Arms ทุกคนจะได้เห็นภาพของ “เดอะ แทรมป์” (ชาร์ลีย์ แชปลิน) ในรูปแบบของฮีโร่สงครามสุดเฟอะฟะ ตั้งแต่ฉากตอนฝึกทหาร ตอนอยู่ในสนามเพลาะ ไปช่วยเหลือสาวฝรั่งเศสจากไกเซอร์เยอรมัน ใครที่อาจจะเคยชม The Great Dictator(1940) ต้องบอกว่า Shoulder Arms เป็นปฐมบทของหนังตลกเสียดสีสงครามของเขาเลย

(หนัง) รำลึก สงครามโลกครั้งที่ 1

 

All Quiet on the Western Front (1930) (ลิวอิส ไมล์สโตน-กำกับ)

สร้างจากนิยายคลาสสิก Im Westen nichts Neues (All Quiet on the Western Front) ของนักเขียนชาวเยอรมัน เอริก มาเรีย เรมาร์ก เล่าเรื่องของเพื่อนนักเรียนชาวเยอรมันที่ต้องถูกเกณฑ์ไปรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 พร้อมๆ กัน

ไม่มีอะไรดีในสงคราม หนังถ่ายทอดความโหดร้ายและความน่าเบื่อของแนวหน้า All Quiet on the Western Front เป็นรายชื่อของหนังที่ติดลิสต์ดีที่สุดในการถ่ายทอดเรื่องราวสงครามโลกครั้งที่ 1 ตลอดกาล นี่นับเป็นเรื่องแรกที่สร้างชื่อเสียงให้ ลิวอิส ไมล์สโตน อีกด้วย โดยเขาได้รับรางวัลออสการ์ทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม ด้วยความที่สะท้อนถึงธาตุแท้แห่งความเป็นมนุษย์ออกมาได้อย่างดี ไม่แพ้บทประพันธ์วรรณกรรมคลาสสิกดังกล่าว

(หนัง) รำลึก สงครามโลกครั้งที่ 1

 

La Grande Illusion (1937) (ฌอง เรอนัวร์-กำกับ)

นอกจากจะเป็นหนังดีที่น่าชมของสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว La Grande Illusion ยังได้รับการจัดให้อยู่ในทำเนียบหนังดีที่สุดตลอดกาลในหลายๆ ลิสต์ด้วย โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เคยถูกทางการฝรั่งเศสแบนในช่วงที่ออกมาใหม่ๆ ด้วยความที่นาซีเยอรมนีได้เข้ามาครอบครองแผ่นดินฝรั่งเศส ซึ่งฟิล์มหนังต่างๆ ได้กลายเป็นเป้าหมายแรกๆ ในการถูกทำลายทิ้ง โชคดีที่หนังเรื่องนี้ยังรอดมาให้ชมกันได้จนถึงทุกวันนี้

La Grande Illusion แตกต่างจากหนังสงครามโลกครั้งที่ 1 อื่นๆ โดยไปมีฉากตอนอยู่ ณ ค่ายเชลยสงคราม ไม่ใช่สนามรบ หนังแสดงให้เห็นการปฏิบัติของทหารเยอรมันต่อเชลยศึก สะท้อนความแตกต่างต่างกันของวัฒนธรรม การแทรกซึมของสปาย ความพยายามเอาตัวให้รอดของบรรดานักโทษ

(หนัง) รำลึก สงครามโลกครั้งที่ 1

 

Paths of Glory (1957) (สแตนลีย์ คิวบริก-กำกับ)

ได้รับยกย่องว่าเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซเรื่องแรกๆ ของผู้กำกับชาวอเมริกันรายนี้ โดยสร้างจากนิยายชื่อเดียวกัน ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ของ ฮัมฟรีย์ คอบบ์ (ตีพิมพ์ในปี 1935) มี เคิร์ก ดักลาส มารับบทนายพลแด็กซ์ นายทหารฝรั่งเศส ที่ปฏิเสธไม่ทำตามคำสั่งจากเบื้องบน เพราะเห็นว่ารังแต่จะนำไปสู่ความหายนะ ในที่สุดเขาก็สามารถกุมชัยชนะที่มาพร้อมกับความสูญเสียอย่างมากมายในสมรภูมิรบได้สำเร็จ

ตอนที่เข้าฉายมีการโฆษณาว่า เป็นหนังที่มีฉากระเบิดมากที่สุดแห่งปี ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินในเรื่อง แสดงจุดยืนการต่อต้านสงครามอย่างจัดแจ้งของผู้กำกับ นอกจากฉายให้เห็นมุมกล้องที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครแล้ว บทภาพยนตร์ที่สแตนลีย์เขียนเองนั้นก็เป็นอีกจุดเด่น คือสุดยอดแห่งถ้อยคำที่เชือดเฉือนบาดลึกถึงกระดูกกันเลยทีเดียว

(หนัง) รำลึก สงครามโลกครั้งที่ 1

 

King and Country (1964) (โจเซฟ โลซีย์-กำกับ)

สถาบันกษัตริย์สำหรับคนอังกฤษมีความสำคัญไม่แตกต่างจากบ้านเรา และเมื่อเกิดภาวะสงครามทุกคนต้องออกไปรับใช้ชาติ เพราะเป็นหน้าที่ที่จะต้องปกป้องสถาบัน ผู้กำกับชาวอเมริกันที่มาทำงานในอังกฤษรายนี้ เลือกที่จะถ่ายทำหนังเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 ของเขาในโทนขาว/ดำ แม้ว่าขณะนั้นจะมีฟิล์มสีเป็นที่นิยมแล้วก็ตาม

King and Country เหมือนเพลงอันมีทำนองเศร้าสร้อย หนังเล่าเรื่องของพลทหารหนุ่ม ที่พยายามจะเดินกลับบ้านในกรุงลอนดอนจากแนวหน้า เนื่องเพราะทหารในกองเดียวกับเขาถูกฆ่าตายหมด และเขาไม่รู้จะไปไหน ทว่า กลับถูกจับจากอีกกองพันหนึ่งในข้อหาหนีทหาร พลทหารหนุ่ม ไม่มีทั้งพยานและหลักฐานว่า เขาสังกัดหน่วยไหนกันแน่ในสนามรบ นอกจากนี้ เขายังให้การที่ไม่เป็นประโยชน์กับตัวเองในศาลที่จัดตั้งขึ้นในสนามรบ ในที่สุดเขาก็ต้องถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าที่แนวหน้านั่นเอง

Thailand Web Stat