สัมผัสสีสัน... อเมริกาใต้ ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ
มรดกชิ้นสำคัญที่บรรพบุรุษมอบไว้ให้ลูกหลานคนไทยก็คือ การตั้งรกรากในดินแดนที่มีพิกัดอยู่ละแวกใกล้เคียงเส้นศูนย์สูตร
โดย...ทีมงาน โลก 360 องศา youtube/facebook : โลก 360 องศา
มรดกชิ้นสำคัญที่บรรพบุรุษมอบไว้ให้ลูกหลานคนไทยก็คือ การตั้งรกรากในดินแดนที่มีพิกัดอยู่ละแวกใกล้เคียงเส้นศูนย์สูตร ซึ่งเป็นเขตร้อนชื้น อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์อันหลากหลาย เป็นทรัพยากรอันมีค่ายิ่ง ช่วยหล่อเลี้ยงให้ผู้คนในประเทศได้อยู่กันอย่างสบายไม่ต้องดิ้นรนมากนัก หากรู้จักกินรู้จักใช้อย่างมีสติ โดยเฉพาะการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน ก็จะยิ่งอยู่เย็นเป็นสุขใต้ร่มพระบารมีของพระมหากษัตริย์ไทยในทุกพระองค์
เช่นเดียวกับหลายประเทศในแถบทวีปอเมริกาใต้ ที่ตั้งอยู่ในพิกัดเส้นรุ้งที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย จึงไม่น่าแปลกใจที่ประเทศเหล่านี้ก็มีความหลากหลายของทรัพยากร และภูมิอากาศคล้ายคลึงกับของเรา ที่ช่วยสร้างความรุ่งเรืองให้กับประเทศมาตั้งแต่อดีตกาล
ทีมงานโลก 360 องศา แตะแผ่นดินของทวีปอเมริกาใต้ครั้งแรกที่ประเทศเม็กซิโก ประเทศที่เลื่องชื่อด้านความมีสีสันประเทศหนึ่งที่ผู้คนจากทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี และปรารถนาที่จะไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต นอกจากความมีสีสันของวิถีชีวิตผู้คนแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณที่สำคัญของโลกอีกด้วย
ในเมืองเม็กซิโก ซิตี้ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเม็กซิโก จะมีเขตเมืองเก่าที่เรียกว่า “เซ็นโทร ฮิสโตริโค่” (Centro Historico) มีคุณค่าทั้งด้านสถาปัตยกรรมและเป็นแหล่งประวัติศาสตร์สำคัญของโลก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และใต้ผืนดินประเทศเม็กซิโกนั้น เชื่อกันว่า หากมีการขุดค้นลงไป มีโอกาสที่จะเจอแหล่งอารยธรรมโบราณอีกจำนวนมาก ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้หยุดขุดค้นหากันแต่ประการใด
นอกจากนี้ เมืองเม็กซิโก ซิตี้ ยังขึ้นชื่อด้านภูมิปัญญา ในการเพิ่มพื้นที่ให้กับเมืองเพื่อใช้สำหรับเพาะปลูกอีกด้วย ภูมิปัญญานั้นเรียกว่า “ชินัมป้า (Chinampa) โดยการใช้ไม้ไปปักล้อมกรอบในทะเลสาบ แล้วนำโคลนมาถม จากนั้นนำต้นไม้มาปลูกไว้เพื่อให้รากยึดพื้นดินเอาไว้ เทียบกับบ้านเราก็ประมาณว่าปลูกหญ้าแฝกไว้ให้รากยึดดินไว้ไม่ให้เกิดปัญหาดินถล่มนั่นเอง
เดินทางออกจากเม็กซิโก ซิตี้ ไปประมาณ 50 กิโลเมตร จะถึง “เตโอติอัวกัน” (Teotihuacan) หรือเมืองแห่งเทพเจ้า ซึ่งเป็นนครร้างกลางหุบเขา แม้จะไม่ทราบที่มาที่ไปแน่ชัดว่า ชนชาติใดเป็นผู้สร้างนครแห่งนี้ แต่ที่นี่ก็เป็นเหมือนเมืองต้นแบบขนาดใหญ่แห่งแรกของโลกตะวันตก ที่มีผู้คนอาศัยอยู่รวมกันกว่า 2 แสนคน หลังจากที่นักโบราณคดีขุดค้นภายใต้พีระมิดของเมืองแห่งเทพเจ้าแห่งนี้ ก็พบว่าเป็นเมืองที่มีการปกครองแบบชนชั้น มีการวางผังเมืองอย่างเป็นระบบตามหลักจักรวาลวิทยา รวมถึงการพัฒนาใช้หินออบซิเดี้ยน (Obsidian) เป็นอาวุธและเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันด้วย
ส่วนใจกลางของเมือง “เตโอติอัวกัน” ก็เป็นที่ตั้งของ “มหาพีระมิดพระอาทิตย์” พีระมิดขนาดใหญ่ที่มีฐานกว้าง 220 เมตร ยาว 225 เมตร และสูง 65 เมตร ถูกจัดให้เป็นพีระมิดที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก มีบันไดกว่า 200 ขั้น นำขึ้นไปสู่ยอดพีระมิด ซึ่งจะมีลานหินกว้างมองเห็นบรรยากาศโดยรอบได้ทุกทิศทาง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทุกคนควรต้องมาเยือน และที่คู่กันก็คือพีระมิดพระจันทร์ ที่จะมีจุดถ่ายภาพที่นักท่องเที่ยวนิยมกัน
อีกหนึ่งประสบการณ์ที่ทีมงานโลก 360 องศา ได้สัมผัสแล้วรู้สึกว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติบรรจงสร้างสรรค์ปั้นแต่งให้เกิดขึ้นมาก็คือ ธารน้ำแข็งในประเทศอาร์เจนตินา ประเทศที่มีเวลาห่างกับประเทศไทยถึง 10 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ ธารน้ำแข็งนี้เกิดจากหิมะที่ตกบนยอดเขา เมื่อทับถมกันนานๆ จะเปลี่ยนเป็นผลึกน้ำแข็งที่มีน้ำหนักมาก ค่อยๆ ไหลเลื่อนลงสู่ที่ต่ำ จนเห็นเป็นธารน้ำแข็งนั่นเอง และเมื่อไหลมาสัมผัสกับน้ำ บางส่วนจะละลายและทรุดตัวลง ที่ทรุดตัวลงเร็วก็จะได้ยินเป็นเสียงก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ตกลงไปในน้ำ ดังสนั่นหวั่นไหว กึกก้องไปทั้งหุบเขา
ธารน้ำแข็งที่สุดวิจิตร งดงามตระการตาของอาร์เจนตินาที่มีชื่อเสียงที่สุดชื่อว่า เปอร์ริโต้ โมเรโน่ อยู่ในอุทยานแห่งชาติลอส กลาเซีย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2524 มีเนื้อที่กว่า 7,000 ตารางกิโลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในอาร์เจนตินา พื้นที่กว่า 30% ปกคลุมไปด้วยหิมะ
ธารน้ำแข็ง เปอร์ริโต้ โมเรโน่ ทอดยาวไปไกลกว่า 30 กิโลเมตร มีพื้นที่รวม 250 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่ากรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของประเทศเสียอีก ธารน้ำแข็งละลายอยู่เสมอตามธรรมชาติเพื่อให้กำเนิดน้ำ เป็นการรักษาสมดุลทางธรรมชาติ หากธารน้ำแข็งไม่ละลายจะไปขวางทางน้ำตามธรรมชาติ และจะไม่มีน้ำจืดเติมลงไปในทะเลสาบอาร์เจนติโน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในเมืองเอลคาราฟาเต้
ได้อ่านเรื่องราวของโบราณสถานที่น่าทึ่งในเม็กซิโก และธารน้ำแข็งที่แสนงดงามในอาร์เจนตินากันไปแล้ว ขอต่อให้ครบรสกันด้วยน้ำตกแองเจิ้ล (Angel Fall) หรือน้ำตกนางฟ้า ในประเทศเวเนซุเอลา แม้การเดินทางเข้าชมน้ำตกแห่งนี้จะเต็มไปด้วยอุปสรรค และความยากลำบาก ทางเดียวที่จะได้ชมน้ำตกแห่งนี้คือ การล่องเรือทวนแม่น้ำที่คดเคี้ยวขึ้นไป แต่เมื่อได้ไปชมแล้วหัวใจจะพองโต และจะเผลอแอบคิดในใจลึกๆ ว่า “เราเกือบพลาดโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตไปเสียแล้ว ถ้าไม่ได้มาชมน้ำตกแห่งนี้ แม่น้ำตกนางฟ้าผู้งดงามของฉัน”
น้ำตกแองเจิ้ล ตั้งอยู่บนภูเขา อาอูยันเทปุย (Auyantepui Mountain) ที่มีความสูงประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกได้ว่ามองย้อนขึ้นไปสุดลูกหูลูกตากันเลยทีเดียว เห็นก้อนเมฆปกคลุมยอดเขา เวลามองน้ำตกจึงให้ความรู้สึกราวกับว่า น้ำตกไหลรินมาจากท้องฟ้า แทรกตัวแหวกผ่านก้อนเมฆลงมา เห็นภาพนี้แล้วก็เข้าใจทันทีเลยว่าทำไมถึงเรียกว่า น้ำตกนางฟ้า เพราะประหนึ่งเหมือนว่า น้ำตกไหลรินมาจากสรวงสวรรค์นั่นเอง
คุณผู้อ่านสามารถติดตามชมเรื่องราวและความงดงามต่างๆ เหล่านี้ได้ในรายการ โลก 360 องศา วันเสาร์นี้ เวลา 21.20 น. ททบ.5