เก้าแต้ม จากเรื่องโรแมนติกสู่แฟนตาซี
ว่ากันว่า พรสวรรค์ไม่สำคัญเท่ากับพรแสวง ถ้ามีใจรักหมั่นฝึกฝนอยู่เสมอก็สามารถพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นได้
โดย...อณุสรา ทองอุไร ภาพ : กิจจา อภิชนรจเรข
ว่ากันว่า พรสวรรค์ไม่สำคัญเท่ากับพรแสวง ถ้ามีใจรักหมั่นฝึกฝนอยู่เสมอก็สามารถพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นได้ เช่นเดียวกับเธอคนนี้ พญ.คัคณางค์ มิ่งมิตรพัฒนะกุล สูตินรีแพทย์ประจำโรงพยาบาลกรุงเทพ นั่นคืองานประจำของเธอ แต่อีกบทบาทเป็นงานอดิเรกที่สร้างความสุขและชื่อเสียงให้กับเธอก็คือ การเป็นนักเขียนนวนิยาย โดยเธอใช้นามปากกาว่า เก้าแต้ม
แม้จะไม่ได้ร่ำเรียนมาทางด้านเขียนอ่านโดยตรง แต่เพราะรักในการอ่าน ชอบในงานเขียน จึงฝึกฝนมาเรื่อยๆ จนไปเขียนนิยายรักโรแมนติกบนเว็บบอร์ดอยู่เกือบปีจนมีแฟนประจำ ลองเขียนทั้งเรื่องสั้นเรื่องยาวก็มีคนติดตามต่อเนื่อง
“เริ่มเขียนแรกๆ จะเป็นแนวจินตนาการและมีความโรแมนติกอยู่ด้วย ตอนนั้นเป็นแนวละครจีนไต้หวัน เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากวง F4 เลยเขียนสไตล์แฟนฟิก ตอนหลังก็มาพัฒนาต่อให้เป็นตัวละครแบบไทยๆ แต่ยังคงเป็นแนวโรแมนติกอยู่ ใช้นามปากกาว่า ‘ถ่างเหมียว’ ลองส่งไปให้สำนักพิมพ์แต่ไม่ได้รับการตีพิมพ์” เธอเล่าถึงการเขียนเรื่องยาวครั้งแรก
แม้ครั้งแรกจะไม่ประสบความสำเร็จในการตีพิมพ์ แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ เริ่มเขียนใหม่แล้วเปลี่ยนนามปากกาว่า เก้าแต้ม เริ่มประสบความสำเร็จได้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์สถาพร ออกผลงานแนวโรแมนติกต่อเนื่องมา 42 เล่ม เป็นเวลา 10 กว่าปี และผลงานที่ได้ไปทำเป็นละครก็คือเรื่องคุณชายพุฒิภัทร ที่เจมส์-จิรายุ แจ้งเกิดจากเรื่องนี้ และที่กำลังเป็นละครอยู่ในขณะนี้ก็คือเรื่อง เดอะ คิวปิดส์ กามเทพซ้อนกล
ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา คุณหมอมีผลงานแนวโรแมนติก จนกระทั่งปีนี้คุณหมออยากจะลองท้าทายตัวเองด้วยการฉีกแนวไปเขียนนิยายแนวแฟนตาซีดูบ้าง ชื่อเรื่อง “อธิษฐานสลับรัก” ที่จะออกที่งานสัปดาห์หนังสือเดือน เม.ย.นี้
“คือเดิมอยากจะลองเขียนเป็นตอนๆ ส่งให้กับนิตยสารฉบับหนึ่ง แต่บังเอิญนิตยสารปิดตัวไปเสียก่อน เลยเขียนจนจบ ทางสำนักพิมพ์กรู๊ฟของคุณหมอพงศกร (จินดาวัฒนะ) ที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลเดียวกันขอไปตีพิมพ์เพราะเป็นงานที่สำนักพิมพ์กรู๊ฟเขาถนัดก็เลยประเดิมเล่มแรกแนวแฟนตาซีกับกรู๊ฟ”
แม้งานหมอจะหนักแต่คุณหมอก็พยายามแบ่งเวลาและมีวินัยอย่างมาก โดยคุณหมอใช้เวลาเขียนงานตอนวันหยุดเป็นส่วนใหญ่ คือระหว่างไปรอลูกสาวเรียนพิเศษวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะใช้เวลาวันละ 3-4 ชั่วโมงนี้นั่งเขียนนิยายไป หรือบางครั้งก็ตอนหัวค่ำก่อนเข้านอนให้ได้วันละ 1 ชั่วโมง
มีบางครั้งที่ความคิดจนมุมเขียนไม่ออก ก็ต้องพยายามไปหาแรงบันดาลใจใหม่ ไปเที่ยวบ้าง ไปเดินเล่นบ้าง ซึ่งคุณหมอจะเขียนงานทีละเรื่องจนจบแล้วถึงไปเขียนเรื่องใหม่ น้อยมากที่จะเขียน 2 เรื่องสลับกัน ชอบแบบเขียนเป็นเรื่องๆ ให้จบแล้วเริ่มใหม่ถนัดกว่า รวมทั้งชอบเขียนเรื่องยาวมากกว่าเรื่องสั้นอีกด้วย
คุณหมอบอกว่าจะพยายามเขียนนิยายให้ได้ปีละ 2-3 เรื่อง เพื่อออกในช่วงงานสัปดาห์หนังสือของทุกปี “คือพยายามวางกรอบไว้อย่างนั้น บางทีจินตนาการก็มาเยอะ บางทีก็ตัน ดังนั้นเวลาเจออะไรจะรีบเล่าให้ลูกสาวฟังแล้วคอยช่วยเตือนแม่อีกทีกันลืม (หัวเราะ)”
เวลาจะเขียนนิยายแต่ละเรื่องคุณหมอจะวางคีย์เวิร์ดตั้งไว้ แล้วค่อยขยายแนวตัวละครออกมา พยายามจดบันทึกไว้บ่อยๆ เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการเขียนเรื่องได้ การเป็นนักเขียนที่ดีคือพยายามอ่านเยอะๆ ลองฝึกเขียนเยอะๆ แล้วสักวันจะพบทางเดินของตัวเองได้ในที่สุด