ขอบใจไทยแลนด์ ดินแดนแห่งความรู้สึก
ขอบใจที่ทำให้การเดินทางไม่ใช่แค่เดินทาง แด่ "ขอบใจไทยแลนด์" เว็บไซต์และเพจเฟซบุ๊กของ ปลา-สาโรจน์ ปาลกวงศ์ ณ อยุธยา
โดย...รอนแรม ภาพ : สาโรจน์ ปาลกวงศ์ ณ อยุธยา
ขอบใจที่ทำให้การเดินทางไม่ใช่แค่เดินทาง แด่ "ขอบใจไทยแลนด์" เว็บไซต์และเพจเฟซบุ๊กของ ปลา-สาโรจน์ ปาลกวงศ์ ณ อยุธยา หรือที่หลายคนรู้จักในนาม พายุทราย พรายทะเล เขาได้สร้างพื้นที่รวบรวมเรื่องราวและความรู้สึกระหว่างทาง และแบ่งปันแก่ผู้ที่สนใจคล้ายๆ กันให้รู้สึกไปพร้อมตัวหนังสือและภาพถ่ายจากมุมมองของเขาเอง
“คำว่าขอบใจมันง่าย ไม่เป็นทางการ เหมือนเพื่อนกันขอบใจกัน ซึ่งเราขอบใจทั้งเมืองไทยและคนไทย โดยเนื้อหาในเว็บไซต์เป็นเรื่องราวในประเทศไทยสัก 80 เปอร์เซ็นต์ และต่างประเทศอีก 20 เปอร์เซ็นต์ เพราะนอกจากเรื่องราวในไทยแล้ว เราควรจะมีเรื่องท่องเที่ยวข้างนอกมาบอกคนไทยด้วย”
เขายังกล่าวด้วยว่า สไตล์การเขียนนั้นไม่ได้เน้นไปที่การรีวิวเส้นทาง แต่เป็นความรู้สึกและอารมณ์ที่ปะทะกับแหล่งท่องเที่ยวตรงนั้นมากกว่า เพราะเขาเห็นว่าเพจเฟซบุ๊กหรือเว็บไซต์ท่องเที่ยวอื่นๆ ได้ให้ข้อมูลการเดินทางอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะบอกเหตุผลว่าเพราะทำไมถึงไป ที่แห่งนั้นมีดีอะไร และชอบด้วยเหตุผลใด
“สมมติเขียนเรื่องเขาใหญ่ เราจะไม่บอกว่าการเดินทางสามารถขึ้นได้สองทางที่ปราจีนบุรีกับโคราช แต่เราจะหยิบยกเรื่องขึ้นมาเล่า เช่น น้ำตกเหวสุวัตกับแมลงปอ เพราะถ้าเราพูดทั้งหมดมันจะไม่มีวันจบ ผมมาจากแมกกาซีน เราเขียนอย่างแมกกาซีน เราไม่ได้เขียนอย่างบล็อกเกอร์ ดังนั้นอ่านขอบใจไทยแลนด์ก็เหมือนอ่านแมกกาซีน” อดีตบรรณาธิการนิตยสารไลฟ์แอนด์โฮมกล่าวต่อ
“การเขียนจะเน้นแต่เนื้อหา เพราะโลกของเว็บไซต์เราคงจะเขียนพรรณนาไม่ได้ แต่ต้องได้ใจความและความเข้าใจ แต่ที่เน้นที่สุดคงเป็นรูปภาพ ต้องสวยงาม อลังการ แต่งภาพน้อยมาก หรือถ้าเราอยากสนุกกับการแต่งภาพ เราจะเขียนอธิบายขั้นตอนเลย บอกรายละเอียดให้คนได้ความรู้กับการแต่งภาพ รวมถึงข้อมูลของการถ่ายภาพด้วย”
เขาจะเขียนเนื้อหาใหม่ทุกวัน วันละ 1-2 เรื่อง เมื่อถามต่อว่าได้หวังให้ขอบใจไทยแลนด์เป็นธุรกิจที่สามารถเลี้ยงเจ้าของหรือเปล่า เขาตอบว่าไม่ได้คิดขนาดนั้น แต่ถ้าเป็นได้ก็น่ายินดี
"เพราะสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้เกิดจากความชอบเขียนหนังสือ ผมเขียนหนังสือมาตลอดชีวิต ถ้าจะให้อยู่เฉยๆ คงเหงาและคงเป็นอัมพาตทางสมอง" ดังนั้นการตัดสินใจเปิดขอบใจไทยแลนด์ก็เพื่อตอบสนองตัวเอง
“ตอนนี้ในเพจมีกี่ไลค์แล้วไม่รู้ ในเว็บมียอดวิวเท่าไหร่ก็ไม่รู้” เขาไม่เคยและไม่คิดที่จะโปรโมทเพจเฟซบุ๊ก
“รู้แต่ว่ามีคนเข้ามาดูก็ชื่นใจ มีคนเข้ามาคอมเมนต์บ้างก็ดีใจแล้ว เพราะเราให้พื้นที่ตรงนี้เป็นที่เก็บรวบรวมงานมากกว่าให้เป็นพื้นที่ทางธุรกิจ ซึ่งเราจริงจังกับตรงนี้มาก แต่หากได้รายได้เข้ามาก็ถือเป็นสิ่งเกินความคาดหวังที่วางไว้แต่แรก”
ติดตามการเดินทางของพายุทราย พรายทะเล ได้ที่เว็บไซต์ www.khobjaithailand.com และเพจเฟซบุ๊ก Khobjaithailand