พระฝรั่ง...ที่คนไทยศรัทธา ด้วยปัญญาญาณ

18 มิถุนายน 2560

พระโพธิญาณเถระ หรือหลวงพ่อชา สุภทฺโท อดีตสมภารวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี นับได้ว่าเป็นพระมหาเถระในฝ่ายมหานิกาย

โดย...ราช รามัญ

 พระโพธิญาณเถระ หรือหลวงพ่อชา สุภทฺโท อดีตสมภารวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี นับได้ว่าเป็นพระมหาเถระในฝ่ายมหานิกายที่สามารถต่อหน่อเนื้อแห่งสังฆะได้มีคุณภาพ ไม่ใช่สักแต่ว่าบวชๆ ให้ไปแบบอุปัชฌาย์เป็ด คือ เช้าบวชวัด บ่ายบวชอีกวัด แต่ไม่เคยได้ให้การอบรมอะไรต่อผู้ที่เข้ามาบวช

พระฝรั่งจำนวนมากที่มาอยู่ศึกษาพระธรรมวินัยกับหลวงพ่อ ต่างต้องผ่านการอบรมจากคณะสงฆ์ของหลวงพ่อชาก่อน เมื่อเห็นว่าสมควรให้บวช ท่านก็จะทวงถามกับคณะสงฆ์ว่าสมควรบวชให้ได้หรือไม่ เมื่อคณะสงฆ์ไม่ปฏิเสธหลวงพ่อก็บวชให้

ใครเคยไปวัดป่านานาชาติจะเห็นพระฝรั่งมากมาย ทั้งพรรษามาก พรรษาน้อย ต่างก็ผ่านการอบรมด้วยดีมาแล้วทั้งสิ้น บางรูปฉันจังหัน (อาหารอาสนะเดียว มื้อเดียวหนเดียว) กับพริกกล้วยและส้มตำ แบบไม่มีสิทธิเลือก ฉันตามมีตามเกิด

สมัยผมอยู่ดงขมิ้น เคยไปอยู่วัดหนองป่าพง ไปเพื่อให้รู้ที่นี่เขาสอนอะไร ก็ได้รับการต้อนรับแบบเสมอภาคกับอาคันตุกะรูปอื่นๆ เป็นผู้มาใหม่แม้พรรษามากกว่าก็ไล่ให้ไปนั่งหลังพระบวชใหม่ แรกๆ ก็คิดค้านว่าไม่นั่งเรียงตามพรรษาเหมือนว่าจะขัดกับพระธรรมวินัย แต่เมื่อทราบถึงกุศลเจตนาแล้วก็สาธุ เพราะต้องการให้หลอมละลายอัตตาของเรานั่นเอง

การอยู่ที่วัดหนองป่าพง ไม่ว่ายุคสมัยใดพระอาคันตุกะอยู่ได้เพียงแค่ 7 วัน แม้จะมีจดหมายแนบจากพระราชาคณะมหาเถระฝากมาก็ตาม ครบวันที่ 7 ผมต้องออกพ้นนอกวัดไปจำวัดอื่น 1 คืน จึงกลับเข้ามาใหม่ได้ ราวกับออกไปต่อวีซ่าฉันนั้นแล

หมู่คณะของวัดหนองป่าพง บอกได้คำเดียวว่าเป็นสถานที่ฝึกจิตฝึกใจและฝึกตนที่ดีของพระสงฆ์ในสายกรรมฐานเป็นอย่างมาก การส่งเสียงคุยกันนั้นเกือบจะไม่มีให้ได้ยิน ยามบ่ายใครเผลอจำวัดไม่ภาวนาจะเป็นเป้าหมายที่ต้องพิจารณาตัวเอง

วันหนึ่งพระฝรั่งที่นามว่า ชยสาโร มาที่วัดหนองป่าพง ผมได้พบท่านและได้สนทนาธรรมกัน บอกเลยชื่นชอบเพราะท่านเป็นพระที่ไม่มีทิฐิมานะถือตัวแต่ประการใด

นามเดิมของท่าน ฌอน ชิเวอร์ตัน เป็นชาวอังกฤษ เมื่อบวชพระแล้วได้รับฉายาจากพระโพธิญาณเถระ (หลวงพ่อชา) ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ว่า ชยสาโร ท่านอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์มากว่า 33 ปีแล้ว ปัจจุบันพำนักอยู่ที่สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

 ชีวิตท่านเกิดมาเพื่อสิ่งนี้โดยตรง เพราะเมื่อคราวหนึ่งบิดาของท่านต้องการให้สอบชิงทุนเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อของประเทศอังกฤษ แต่ท่านไม่ปรารถนาสิ่งนั้น กลับเฝ้าคิดเสมอว่าคนเราเกิดมาทำไม เกิดแล้วอะไรมันคือสิ่งที่สูงสุดของการที่ได้มาเป็นมนุษย์ ท่านก็หาหนังสือหลายเล่มมาอ่าน จนกระทั่งได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา จึงเริ่มเข้าใจว่า สัจธรรมคือความจริง

จึงออกจากบ้านร่อนเร่ไปหาประสบการณ์ในต่างประเทศ ทั้งในอิหร่าน ซึ่งลำบากมาก หรือแม้แต่ไปฝึกตนเป็นฤๅษีที่อินเดียท่านก็เคยไปมาแล้ว ท่านใช้เวลาค้นหาสิ่งที่เรียกว่า สัจธรรม ตั้งแต่อายุ 17 ปี จนกระทั่งเมื่อครบ 2 ปีผ่านไป ท่านได้กลับประเทศอังกฤษและได้มีโอกาสพบกับพระอาจารย์สุเมโธ พระฝรั่งลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา เมื่อปี 2521 จึงศึกษาธรรมและถือศีล 10 กับพระอาจารย์สุเมโธ จากนั้นจึงเดินทางมาที่ประเทศไทย

แม้ฝึกกับพระอาจารย์สุเมโธแล้ว แต่หลวงพ่อชาท่านก็ไม่บวชให้ ท่านให้มาเรียนรู้เพิ่มเติมอีก และเมื่อท่านถามว่าอยากบวชไหม ถ้าตอบว่า อยากบวช หลวงพ่อจะไม่บวชให้ แต่ถ้าตอบว่า แล้วแต่หลวงพ่อจะเห็นสมควร หลวงพ่อชาท่านก็จะบวชให้ แล้วในปี 2523 หลวงพ่อชาท่านได้เป็นพระอุปัชฌาย์ในการบวชเอง

แม้บวชแล้วท่านก็ฝึกภาษาไทย ทั้งพูด ทั้งอ่าน ทั้งเขียน แถมเขียนหนังสือสวยมาก ต้องบอกว่า เวลาฟังท่านบรรยายธรรมแล้ว ผมมักจะเกิดความรู้สึกแปลกๆ บางอย่างขึ้นมา ทั้งๆ ที่สิ่งที่ท่านบรรยายนั้นไม่ได้มีศัพท์แสงหรือคำบาลีในพระไตรปิฎกอะไรทั้งสิ้น แต่ฟังแล้วมันจับใจ มันกินลึกไปถึงจิตวิญญาณอย่างมาก อาจจะเป็นไปได้ว่าเพราะท่านใช้หัวใจพูด ไม่ได้ใช้ตำราพูด

หัวใจที่ผ่านการปฏิบัติธรรมมาอย่างเนิ่นนาน หัวใจที่ได้รับการอบรมมามาก บางครั้งคราวดูเหมือนจะอ่านใจผู้คนทั้งหลายออกด้วยซ้ำไป ผมเคยถามท่านแบบตรงๆ ซึ่งหน้าว่า

“ท่านเคยเห็นเทวดาไหม”

ท่านมองแล้วเอามือชี้ไปที่ญาติโยมที่อยู่ในศาลา พร้อมกับพูดขึ้นว่า

“นี่ไงๆ เทวดาทั้งนั้น...เห็นบ่อยเลยเทวดาแบบนี้”

นี่คือ ปัญญาแห่งธรรม ปัญญาที่ผมชื่นชอบและหลงใหลยิ่งนักเวลาที่ท่านบรรยายธรรม   นอกจากนี้ท่านยังทำโครงการมากมายเพื่อสนับสนุนเยาวชนไทยและคนไทยที่นับถือพระพุทธศาสนา ในปัจจุบันท่านเป็นที่ปรึกษาให้โรงเรียนปัญญาประทีป เป็นโรงเรียนวิถีพุทธแบบโรงเรียนประจำ อยู่ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นโรงเรียนที่ผู้ปกครองยุคใหม่ปรารถนาจะให้ลูกเข้ามาเล่าเรียนศึกษามากที่สุด แต่ทว่ารับจำนวนจำกัด เพราะที่นี่นอกจากสอนในเชิงวิชาการอย่างดีแล้ว ยังสอนในเรื่องของการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและมีคุณธรรมด้วย

ใครที่มีโอกาสเดินทางไป อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไปกราบท่านได้ที่สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี แล้วจะรู้สึกปีติในหัวใจในเวลาที่ได้กราบพระสงฆ์แท้ๆ ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย

Thailand Web Stat