อีกภาคชีวิตของ... รอนนี วูด
หากว่าร็อกอยู่ในสายเลือดของ “รอนนี วูด” แล้วละก็ “ศิลปะ”
โดย เพ็ญแข สร้อยทอง
หากว่าร็อกอยู่ในสายเลือดของ “รอนนี วูด” แล้วละก็ “ศิลปะ” ย่อมเป็นดีเอ็นเอของมือกีตาร์ เดอะ โรลลิง สโตนส์ ผู้นี้อย่างแน่นอน
เมื่อเขาปรากฏกายออกสื่อ รอนนี วูด ในวัย 70 ปี ยังคงภาพลักษณ์ของชาวร็อกไว้ได้แน่นเหนียวมั่นคง ทั้งยังดูฟิตปั๋งเสียจนดูแทบไม่ออกว่า เขาเพิ่งจะผ่านการผ่าตัดเพื่อรักษาโรคมะเร็งปอดมาเมื่อไม่กี่เดือนนี่เอง
วันนี้ รอนนี และเพื่อนพ้อง เดอะ โรลลิง สโตนส์ กำลังอยู่ระหว่างทัวร์ในยุโรป แต่ถึงแม้ว่า ตารางการแสดงจะแน่นขนัดแค่ไหน อดีตนักศึกษาศิลปะอย่าง รอนนี ยังคงวาดรูปเสมอเกือบทุกวัน สำหรับเขามันคือ การบำบัด และการบันทึกเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน โดยผลงานที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา ก็ได้คัดสรรและรวบรวมไว้ในหนังสือ ชื่อ Ronnie Wood : Artist ที่เพิ่งออกวางจำหน่ายเพื่อเฉลิมฉลองอายุ 70 ของ รอนนี วูด
มือกีตาร์สุดเก๋าอุทิศหนังสือเล่มนี้ให้กับพ่อแม่และพี่ชายผู้ล่วงลับ “ผมขอบคุณแม่และพ่อสำหรับความอดทนและกำลังใจ ถึงบ้านเราจะหลังเล็กๆ แต่พ่อกับแม่ก็ทำห้องๆ หนึ่งไว้ให้เราได้ทำงานสร้างสรรค์ พี่ๆ ก็ให้กำลังใจผมอย่างมาก พวกเขาอายุมากกว่าผม 10 ปี เขาเป็นศิลปินและนักดนตรีด้วยเหมือนกัน ทุกคนทำทุกอย่างอย่างเป็นธรรมชาติ เรานั่งวาดภาพ และเล่นกันอยู่ในห้องนั้น บางทีพี่ๆ ก็พาเพื่อนที่โรงเรียนศิลปะมาบ้าน สาวๆ ทั้งนั้นเลย ผมก็จะอยู่แถวนั้นแหละ ใส่กางเกงขาสั้นผ้าสักหลาดสีเทา เห็นพวกเขาทำแล้วมันก็สนุกดีนะ มีอะไรให้เล่นเยอะแยะ แถมยังได้ระบายสีด้วย”
แล้วรอนนีน้อยก็เติบโตขึ้นมาและเข้าโรงเรียนศิลปะ เขายังมีความสามารถทางด้านดนตรี เคยเป็นสมาชิกหลายวงก่อนจะเข้าร่วมกับเดอะ โรลลิง สโตนส์ ในปี 1975 เป็นสมาชิกคนสุดท้อง น้องคนสุดท้าย บางครั้งเขาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองเป็น “เด็กใหม่” อยู่ รอนนีเล่าให้นักข่าวฟังว่า หลังมาอยู่ในวงนานถึง 17 ปี เขาถึงได้เอ่ยปากขอเงินค่าตัวเพิ่ม “ก่อนหน้านั้น ยังไม่คิดถึงเรื่องเงิน ผมไปพูดกับเพื่อนในวงว่า ‘พวกเอ็งคิดว่า ข้าควรจะได้เงินเพิ่มอีกหน่อยมั้ย?’ แล้วพวกเขาก็บอกว่า ‘อือ...ก็ดี พวกข้าก็คิดว่าเอ็งจะไม่พูดซะแล้ว คนที่ไม่ได้ร้องขอ แสดงว่าไม่อยากได้เว้ย...เพื่อน”!
เขากับ คีธ ริชาร์ดส ซึ่งเป็นมือกีตาร์คู่กันก็มีความสัมพันธ์ที่ดี พวกเขามีช่วงเวลาสนุกๆ ด้วยกัน แต่บางครั้งมันก็อดไม่ได้ที่จะมีการเปรียบเทียบ ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยถกเถียงกันว่า ใครเล่นกีตาร์ดีกว่า “เราต้องเรียก เอริค แคลปตัน มาตัดสิน แล้วเขาก็บอกว่า ‘พวกเอ็ง 2 คนไม่เก่งอ่ะ ข้าเก่งกว่า’” 40 กว่าปีผ่านไป พวกเขายังคงอยู่ด้วยกัน “พวกเรายังคงเป็นเหมือนเดิม ในทุกครั้งที่ได้เจอกัน ยังมีเรื่องราวและการผจญภัยอีกมากมายให้เติมเต็ม”
และการผจญภัยครั้งล่าสุดของ รอนนี ก็คือ การต่อสู้กับมะเร็ง “ผมสูบบุหรี่มาเป็นเวลา 50 ปี และก็คิดว่าจะต้องได้รับผลจากการกระทำนี้แน่ ผมไม่เคยเอกซเรย์ทรวงอกมาเป็นเวลา 16 ปี พอไปทำก็เจอจุดดำขนาดใหญ่บนปอด ‘แม่-เอ้ยยย’ ผมคิด”
เขาเข้ารับการรักษาพร้อมกับความคิดเชิงบวก “ถ้าเป็นมะเร็ง ก็ลองไปเอามันออก” แม้จะล้มเจ็บแต่ว่าจิตใจของ รอนนี ยังแข็งแกร่ง หลังผ่าตัดได้อาทิตย์เดียว เขาก็เข้าสตูดิโอไปทำงานเพลงต่อ “มันเหมือนกับเป็นการเฉลิมฉลองที่ผมยังมีชีวิตอยู่ และมะเร็งก็ไม่แพร่กระจาย ซึ่งต้องขอบคุณมากๆ” นี่เป็นเสมือนโอกาสครั้งที่ 2 เพื่อมีชีวิตอยู่กับลูกๆ กับภรรยา ได้ออกทัวร์ และได้ทำทุกๆ อย่างที่อยากทำ
ปัจจุบัน รอนนี วูด ใช้ชีวิตอยู่กับ แซลลี ฮัมฟรีย์ส ผู้สร้างละครเวทีซึ่งมีอายุน้อยกว่าเขากว่า 30 ปี ทั้งคู่มีลูกสาวฝาแฝดที่ยังอายุไม่ถึงขวบ รอนนียังมีลูกจากความสัมพันธ์ครั้งก่อนอีก 4 คน และหลานๆ อีก 6 คน เขาสะสมกีตาร์และภาพวาด รอนนีเป็นเจ้าของภาพวาดของปิกัสโซ และภาพพิมพ์ของเร็มแบรนด์
ในหนังสือ Ronnie Wood : Artist มีภาพสมาชิกวงเดอะ โรลลิง สโตนส์ รวมทั้งภาพเพื่อนพ้องคนดังและคนในครอบครัวรวมอยู่ด้วย เขาหันมาวาดภาพพอร์เทรตอย่างจริงจังตอนปลายทศวรรษ 1980 หลังจากที่สถานะทางด้านการเงินไม่ค่อยมั่นคงนัก รูปเหล่านี้ทำให้เขามีรายได้ และทุกๆ ชิ้นก็ทำให้เขามีความสุข
ระหว่างนั้นเพื่อนๆ เดอะ โรลลิง สโตนส์ ก็สนับสนุน ให้กำลังใจ รวมทั้งวิจารณ์งานศิลปะของ รอนนี อย่างตรงไปตรงมา คีธ ริชาร์ดส์ ซึ่งรับหน้าที่มาเขียนบทตาม ได้ให้คำจำกัดความหนังสือเล่มนี้ว่า...“นี่คือ การประสานกันของวิจิตรศิลป์และดนตรีร็อกแอนด์โรลล์”