เรียนรู้เพื่อเข้าใจ ไมค์ พอสเนอร์

เมื่อเป็นหนุ่มสาวเราเรียนรู้ เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่เราเข้าใจ

โดย...เพ็ญแข

 

เมื่อเป็นหนุ่มสาวเราเรียนรู้ เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่เราเข้าใจ

จำไม่ได้เหมือนกันว่าใครที่เป็นเจ้าของคำพูดนี้ รู้แต่ว่า “เท่” และ “จริง”

จริงที่เมื่อตอนเป็นหนุ่มสาวเรามักจะตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจกับทุกอย่างรอบข้าง เรา “รู้สึก” กับทุกสิ่ง ก่อนจะได้เรียนรู้ ทั้งเรื่องบวกและลบ จากการเรียนรู้ทำให้เราเข้าใจในเวลาต่อมา แม้ผู้ใหญ่ทุกคนจะเคยผ่านประสบการณ์แบบนั้นมา แต่ใช่ว่าทุกคนจะจดจำความรู้สึกและการเรียนรู้แบบเดิมๆ ได้ บางครั้งเราก็ต้องการอะไรสักอย่างหรือใครบางคนมากวนตะกอนอดีตให้ฟุ้งลอยขึ้นมา

อย่างที่ผู้เขียนมีอัลบั้ม 31 Minutes to Takeoff และ ไมค์ พอสเนอร์ มากระตุกให้นึกถึงบางสิ่งที่ได้เรียนรู้เมื่อครั้งเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย

หนุ่มวัย 22 จากดีทรอยต์ เขาเพิ่งจะเรียนจบทางด้านสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยดุ๊ก ด้วยเกรดเฉลี่ยแบบเริ่ดหรู ไมค์ พอสเนอร์ ไม่ใช่เด็กเรียนที่ละเลยต่อเรื่องราวอื่นๆ ความสนใจอย่างหนึ่งของเขาก็คือ ดนตรี

เขาหยิบเรื่องราวที่มองเห็นรอบตัวขณะใช้ชีวิตในหอพักนำมาแต่งเพลง ไม่ว่าจะเป็นมุมมองความคิดอ่านที่เขามีต่อสังคมล้อมข้าง การก้าวข้ามจากวัยรุ่นไปเป็นผู้ใหญ่ รวมทั้งชื่อเสียงที่เดินทางมาหา หลังเรียนจบ ขณะที่เพื่อนๆ กำลังมองหางาน ไมค์ ก็ได้เซ็นสัญญากับสังกัดเจ เรคอร์ดส และพร้อมที่จะนำบทเพลงซึ่งแต่งไว้ให้เพื่อนๆ ฟังมาประกอบกันเป็นอัลบั้มส่วนตัวชุดแรกสำหรับคนฟังทั่วโลก

ไมค์ ให้สัมภาษณ์ว่า งานเพลงของเขาเกิดขึ้นเพื่อนำผู้คนมารวมตัวกัน คงจะหมายถึง สีสันที่ทำให้คนมาร่วมสนุกด้วยกัน นอกจากนี้เขายังจำกัดแนวทางดนตรีของตัวเองเสียใหม่ว่าเป็น อาร์แอนด์บีของเด็กหอ (ชาย)

อัลบั้มนี้มีโปรดิวเซอร์ชื่อดังอย่างเช่น เบนนี บลังโก, สมีซิงตันส์, ซิสโก แอ็ดเลอร์ ฯลฯ มาร่วมงานด้วย แถมมีคณะนักร้องเสียงดีอย่าง บอยส์ ทู เมน และ ทราวิส บาร์เกอร์ แห่งบลิงค์–182 ที่มาร่วมร้อง

 

ดนตรีของอัลบั้ม 31 Minutes to Takeoff คือ การผสมผสานระหว่างป๊อป อาร์แอนด์บี และแดนซ์ โดยมีกลิ่นอายงานจากปี 1980-1990 กรุ่นอวล เสียงที่โดดเด่นเห็นทีจะหนีไม่พ้นซินธีไซเซอร์

หลายเพลงมีท่อนฮุกและจังหวะที่โดนใจ อย่างเช่น Please Don’t Go อิเล็กโทรป๊อปที่ผสมอาร์แอนด์บีเข้ามา โดยมีเสียงซินธ์สร้างสีสัน Cheated มาในจังหวะสนุกชวนแดนซ์ แถมด้วยท่อนฮุกติดหู Cooler Than Me เป็นอีกหนึ่งเพลงอิเล็กโทรป๊อปซึ่งมีท่อนดิสโก้กระแทกใจและสุดแสนป๊อป

Bow Chicka Wow Wow, De j a vu และ Do U Wanna? เป็นเพลงในจังหวะกลางๆ แทร็กแรกนั้นมีร็อกมาสร้างเสน่ห์ เพลงต่อมาเป็นอาร์แอนด์บีในสไตล์ปี 1990 เช่นเดียวกับ Do U Wanna? ส่วน Gone In September เป็นป๊อปกลิ่นอายอะคูสติกร็อก ขณะที่ Save Your Goodbyes และ Synthesizer นั้นมาในแนวบัลลาดซินธ์ป๊อป

ศิลปินนำประสบการณ์ส่วนตัวมานำเสนอผ่านเนื้อเพลง Cooler Than Me เล่าถึงผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองเจ๋งกว่าใครๆ ขณะที่ Bow Chicka Wow Wow เป็นเพลงเรียกหญิง เข้าสู่โหมดหม่นๆ โกรธๆ กับการรำลึกถึงแฟนเก่า (ที่ไม่เลิฟแล้ว) กับเพลง Cheated บางท่อนของเนื้อหานั้นแรงใช่ย่อย

Gone In September เป็นเพลงเลิกหญิง ซึ่งน่าจะสร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับคนดูได้ไม่น้อย เพราะความแปลกต่างออกไปจากเพลงอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อมี ทราวิส บาร์เกอร์ แห่งบลิงค์–182 มาร่วมร้อง เนื้อหาใน Please Don’t Go นั้นคือ การออดอ้อนหญิงให้อยู่ต่อ นอกจากนี้ ไมค์ ยังพูดถึงชื่อเสียงความโด่งดังของตัวเองใน Delta 1406 ซึ่งเป็นแทร็กที่ค่อนข้างจะย้อนยุคไปสักนิด

นั่นคือ สิ่งที่คนอายุ 22 อย่าง ไมค์ เรียนรู้ ขณะคนที่โตกว่าเขาอาจจะเข้าอกเข้าใจเรื่องเหล่านี้ทั้งหมดทั้งสิ้นแล้ว

ด้วยตัวงานและภาพลักษณ์ ทำให้เรารู้สึกว่า ไมค์ พอสเนอร์ ละม้ายคล้ายคลึงกับ จัสติน ทิมเบอร์เลค อยู่หน่อยๆ เสียงร้องระดับเทอร์เนอร์ของเขานั้นไพเราะไม่เลว สิ่งที่ยังขาดอยู่ก็คงจะเป็นเอกลักษณ์ในตัวเองที่จะทำให้เขาโดดเด่นแตกต่างไปจากคนมาก่อน ไม่ว่าจะ เอคอน, เนโย ฯลฯ อีกทั้งดนตรีนั้นถ้าจะพูดตรงๆ ก็คงต้องบอกว่า ไม่ได้สดใหม่จนน่าตื่นเต้น แต่ถึงอย่างไร ... นี่ก็นับเป็นงานชุดแรกที่น่าพึงพอใจ

ไมค์ นำเพลงที่เคยแต่งให้เพื่อนๆ ร่วมหอพักฟังกันสนุกๆ มาทำจริงจังเป็นเรื่องเป็นราวและเป็นอาชีพ ผลงานที่ได้ออกมานี้ก็คงจะถูกอกถูกใจบรรดาเด็กมหา’ลัย โดยเฉพาะพวกที่อยู่หอชายอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้แล้วเพลงของหนุ่มคนนี้ก็ยังกระตุ้นให้คนฟังบางคนได้จดจำความรู้สึก รวมทั้งการเรียนรู้แบบเดิมๆ ที่เคยผ่าน ก่อนจะก่อตัวตนเป็นเช่นปัจจุบัน