ปณิธานปีใหม่ ตั้งเป้าลงมือทำ
ดร.สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ & กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สลิงชอท กรุ๊ปปีใหม่นี้... "จะลดน้ำหนัก"
ดร.สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ & กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป
ปีใหม่นี้... "จะลดน้ำหนัก"
"จะเลิกบุหรี่"
"จะเก็บเงินแต่งงาน"
"จะขายของออนไลน์"
"จะเรียนภาษาอังกฤษ"
"จะเรียนปริญญาโท"
ท่านคุ้นๆ กับความตั้งใจเหล่านี้บ้างไหมคะ เมื่อถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หลายคนมักเริ่มทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาและเริ่มตั้งเป้าหมายว่าจะทำอะไรใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ในปีใหม่ที่เราเรียกว่า New Year's Resolution แต่จะมีกี่คนที่ทำได้ดั่งฝัน...
"ไม่มีเวลา ยุ่ง ไม่มั่นใจ ทำได้แค่ช่วงต้นๆ ใจไม่แข็งพอ"
และนี่คงเป็นตัวอย่างเหตุผลที่ทำให้เราไม่พร้อมที่จะทำสิ่งที่มุ่งมั่นไว้เมื่อต้นปี ประกอบกับ 365 วัน มันช่างยาวนาน แต่ละวันก็มีเรื่องโน้นเรื่องนี้เข้ามาจนทำให้ลืมความมุ่งมั่นเหล่านี้ไประหว่างปี กว่าจะมารู้ตัวอีกทีก็สิ้นปีเสียแล้ว ก็กลับมาเริ่มตั้งเป้าหมายกันใหม่ วนเวียนไปเช่นนี้เป็นวัฏจักร
ทำไมความมุ่งมั่นเหล่านี้ถึงไม่สำเร็จ จอห์น คอตเตอร์ (John Kotter) กูรูด้านผู้นำอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา ผู้เขียนหนังสือ Leading Change ได้พูดถึงหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงไว้อย่างน่าสนใจว่า "หัวใจสำคัญสำหรับทุกๆ การเปลี่ยนแปลง คือ การเปลี่ยนพฤติกรรม" แล้วทำอย่างไรจะทำให้พฤติกรรมใหม่เหล่านี้กลายเป็นนิสัยที่ถาวร
ดิฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารท่านหนึ่งซึ่งเป็นนักวิ่งอัลตราเทรลมาราธอน ผ่านรายการวิ่งทั้ง 42 กม. 50 กม. และ 100 กม. ผ่านทางภูเขาสูงมาหลากหลายรายการ หลายคนคงสงสัยว่าผู้บริหารส่วนใหญ่มักจะยุ่ง เวลาจะกินข้าวยังแทบไม่มี แต่นี่เอาเวลา 18 ชม. ไปวิ่ง 100 กม.!
ผู้บริหารนักวิ่งอัลตราเทรลมาราธอน คุณวิทยา วรัญญชัยชนะ ผู้อำนวยการประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน บริษัท DellEMC เล่าให้ฟังว่า ในฐานะผู้บริหารองค์กรเทคโนโลยี ในแต่ละวันต้องเจอการเปลี่ยนแปลงที่แรงและเร็ว คู่แข่งคนสำคัญคือเวลา ดั้งนั้นหากขาดสมดุลทั้งทางร่างกาย จิตใจและสมอง อาจทำให้บริหารธุรกิจไม่ได้ประสิทธิผล การมีสุขภาพกายที่แข็งแรงเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดความสมดุลนี้ อย่างไรก็ตามในแต่ละวันมีเรื่องยุ่งมากมายทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวเป็นเหตุผลที่ทำให้ "ไม่พร้อม" ที่จะลุกขึ้นมาออกกำลังกาย ตามปณิธานที่ตั้งใจไว้มาหลายปี แม้จะลองไปสมัครสมาชิกฟิตเนสทั้งแถวบ้านและใกล้ที่ทำงาน มีเทรนเนอร์ส่วนตัว แต่ก็ทำได้แค่ช่วงต้นๆ เท่านั้น จนกระทั่งปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสศึกษาเรื่องผู้นำกับการเปลี่ยนแปลง จึงเริ่มนำมาประยุกต์ใช้กับการเปลี่ยนแปลงเรื่องเล็กๆ ใกล้ตัวก่อน นั่นคือการสร้างพฤติกรรมวิ่ง และพบว่าหัวใจสำคัญการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อยู่ที่กระบวนการมากกว่าผลลัพธ์
1.ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
2.ลงมือทำ
3.หมั่นทบทวน
4.กระทำจนเป็นนิสัย
5.ขยายความสำเร็จ เมื่อเวลามาถึงได้ไปวิ่งรายการ 42 กม.จบ สำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ก็เริ่มตั้งเป้าหมายอันถัดไปที่มีความท้าทายมากขึ้น เช่น รายการ 50 กม. หรือ 100 กม.ต่อไป
"การวิ่งอัลตราเทรลไม่ใช่แค่วิ่งให้จบรายการ แต่เป็นกระบวนการ ที่ผมเรียนรู้กับการลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ไม่เคย พร้อมผ่านการตั้งเป้าที่ ชัดเจน มีวินัย มุ่งมั่นทบทวน พัฒนาตนเองเพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น ข้อคิดเหล่านี้ผมสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการบริหารทีมได้ทั้งสิ้น" คุณวิทยา กล่าว
ฟังเช่นนี้แล้ว ดิฉันคิดว่า ปีใหม่นี้หลายท่านคงมีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง หรือเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง และอยากทำให้มันเกิดผลสำเร็จ ข้อคิดสำหรับผู้นำคือจงตั้งใจทำพฤติกรรมใหม่นี้จนเป็นนิสัย อย่าให้ความไม่พร้อม มาทำให้คุณไม่ได้เริ่ม เมื่อไม่พร้อม ให้เริ่มเลย สุขสันต์วันปีใหม่ค่ะ n