บ้านขนิษฐา เลิศล้ำอาหารไทยโบราณ
บ้านขนิษฐา (Baan Khanitha) ในซอยสุขุมวิท 23 เป็นร้านอาหารไทยโบราณที่มีชื่อเสียงมากว่า 25 ปี มีความโดดเด่นในเมนูอาหารไทยโบราณที่หารับประทานยาก
เรื่อง วรธาร ทัดแก้ว ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน
บ้านขนิษฐา (Baan Khanitha) ในซอยสุขุมวิท 23 เป็นร้านอาหารไทยโบราณที่มีชื่อเสียงมากว่า 25 ปี มีความโดดเด่นในเมนูอาหารไทยโบราณที่หารับประทานยาก รวมทั้งรสชาติและกรรมวิธีการปรุงแบบไทยโบราณขนานแท้ วัตถุดิบคุณภาพสูงมีความสดใหม่จากทั้งไทยและนำเข้า พืชผักต่างๆ ที่ใช้เป็นออร์แกนิกซึ่งปลูกและดูแลด้วยวิถีเกษตรอินทรีย์ ส่งตรงจากไร่บ้านพนาลัย ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งของบ้านขนิษฐา ที่ผลิตวัตถุดิบมาซัพพอร์ตบ้านขนิษฐาและร้านอาหารอื่นๆ ในเครือ
ขณะบรรยากาศร้านซึ่งเป็นบ้านไทยโบราณ 2 ชั้น นอกจากมีเสน่ห์ของความเป็นบ้านไทยในตัวแล้ว ยิ่งผสมผสานกับการตกแต่งร้านด้วยรูปปั้นและรูปแกะสลักแบบโบราณ ผสานกับงานหัตถกรรม รวมไปถึงภาพเขียนที่สวยงาม ประกอบกับที่นั่งรับประทานอาหาร 150 ที่นั่ง มีทั้งแบบอินดอร์และเอาต์ดอร์ ท่ามกลางบรรยากาศที่สดชื่นด้วยต้นไม้สีเขียวทั้งภายในและข้างนอกร้าน ยิ่งถ้าไปร้านตอนค่ำๆ แสงไฟที่ประดับประดาอยู่บนต้นไม้จะยิ่งสาดแสงส่องประกายสวยงามมาก
นอกจากอาหารไทยโบราณดั้งเดิมที่แสนอร่อย วัตถุดิบคุณภาพดี ร้านเก๋ไก๋ในสไตล์แบบไทยๆ แล้วการบริการก็แสนประทับใจ จึงไม่แปลกใจที่บ้านขนิษฐาได้รับการโหวตให้เป็นร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ จากผู้อ่านนิตยสาร Bangkok Dining & Entertainment ถึง 11 ปี ติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2540 เรื่อยมา ไม่นับรางวัลอื่นอีกมากมาย
คุณสมบัติเหล่านี้มาจากผู้หญิงชื่อเดียวกับร้าน ขนิษฐา อัครนิธิกุล อดีตแฟชั่นดีไซเนอร์ผ้าไหมไทยชื่อดัง เจ้าของและผู้ก่อตั้งร้าน ที่เปิดร้านด้วยความตั้งใจ ให้ทุกคนได้รับประทานอาหารไทยโบราณขนานแท้ ที่หารับประทานที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ ด้วยรสชาติและกรรมวิธีการปรุงแบบไทยโบราณจริงๆ โดยมีเมนูมากมายและหลายเมนูเชื่อว่าบางคนไม่เคยรู้จักก่อนซึ่งต้องมาลองให้เห็นด้วยตาและชิมดู ถึงจะรู้ว่ารสชาติอาหารของที่ร้านแน่นอน
ขอยกมาบางเมนู เริ่มที่ “แกงคั่วเนื้อปูใบชะคราม” ที่เสิร์ฟกับเส้นหมี่ลวก รสชาติอร่อยมาก ความโดดเด่นอยู่ที่การนำใบชะคราม (พืชที่ขึ้นอยู่ตามนาเกลือทางชายฝั่งทะเลด้าน จ.สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม) มาใช้ซึ่งเข้ากับอาหารประเภทแกงคั่ว ผัด หรือยำได้ดี แต่ด้วยเป็นพืชอยู่ตามแนวน้ำเค็มก็จะมีรสเค็ม แต่ทางร้านมีกรรมวิธีขจัดความเค็มก่อนปรุง ขณะที่เนื้อปูใช้ปูก้อนอย่างดี
อีกเมนูที่ลูกค้าต้องสั่งคือ “ต้มยำกุ้งลายเสือ” (กุ้งขนาด 7 ตัว/กก.) ใช้เครื่องต้มยำที่ใช้กันทั่วไป เช่น พริกสด ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เห็ดฟาง แต่สูตรบ้านขนิษฐาจะพิเศษตรงที่ไม่ใช้น้ำมะขาม แต่ใช้มะนาวสดจากไร่พนาลัย ไม่ใช้กะทิและนมสด รสชาติบอกได้เลยพิเศษและแตกต่างจากต้มยำกุ้งทั่วไปแน่นอน รสต้มยำจัดจ้านแต่ต่างชาติกินได้สบาย ส่วนกุ้งเนื้อแน่นและสดมาก
“ปลาหิมะสมุนไพร” รสจัดจ้านแบบไทย เป็นเมนูที่ผสมผสานวัตถุดิบต่างประเทศกับการปรุงในแบบไทยโบราณ โดยใช้ปลาหิมะคุณภาพดีนำเข้า ปรุงด้วยสมุนไพรไทย เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก และพริกไทยสด เนื้อปลาจะนุ่มและหอมด้วยสมุนไพรไทย คำไหนๆ ก็อร่อย ต่อด้วย “ฉู่ฉี่กุ้งนาง” ใช้กุ้งนางขนาด 12 ตัว/กก. สด เครื่องแกงฉู่ฉี่สูตรโบราณ รสชาติออกเผ็ด เค็ม หวาน ราดด้วยกะทิสดและใบมะกรูดซอย เนื้อกุ้งสดและเด้งมาก
เมนูสีสันโดดเด่นวันนี้ก็ต้องยกให้ “กุ้งอยุธยาผัดทรงเครื่อง” เห็นหน้าตาเมนูจะรู้ว่าน่ารับประทานขนาดไหน พระเอกของเมนูนี้คือกุ้งแม่น้ำจากธรรมชาติ เป็นการเอาเนื้อกุ้ง มันกุ้งออกมาผัดกับน้ำพริกเผา โดยใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์และแปะก๊วย รสชาติเผ็ดนิด เค็ม เปรี้ยว หวานตามแบบฉบับอาหารไทยโบราณ ปิดท้ายด้วยข้าวเหนียวมะม่วงเสิร์ฟกับไอศกรีมกะทิ อร่อยมาก ทางใช้มะม่วงน้ำดอกไม้สดจากไร่พนาลัยซึ่งมีทุกฤดูกาลเนื่องจากสามารถทำให้ออกนอกฤดูกาลได้
ปัจจุบันบ้านขนิษฐาได้ขยายความอร่อยออกไปอีก 3 สาขา ได้แก่ สาขาบ้านสาทร ภายใต้การตกแต่งร้านด้วยภาพเขียนของศิลปินชื่อดัง สาขาบ้านสุขุมวิท 53 และสาขาบ้านริมน้ำเอเชียทีค ล่าสุดมีบ้านขนิษฐา ครูสด้วย เช็กอินที่ร้านบ้านขนิษฐา เอเชียทีค ใครที่อยากลิ้มลองอาหารไทยโบราณดั้งเดิมสะดวกร้านไหนไปร้านนั้น อร่อยเหมือนกันทุกร้าน เพราะทุกจานรสชาติคงความแน่นอนเสมอ
บ้านขนิษฐา สุขุมวิท 23 เปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น. โทร.02-258-4181, 02-258-4128