ยอดคนดี บุญปั๋น เจริญศิลป์
เรื่อง: สธน เปลี่ยนจันทรสิริตระกูล
เรื่อง: สธน เปลี่ยนจันทรสิริตระกูล
การเป็นคนรวยหรือจนไม่ได้การันตีหรือบ่งบอกความเป็นคนดี ถ้าตราบใดที่คนคนนั้นยังไม่มี “ความกตัญญูกตเวที” เต็มเปี่ยมในหัวใจ ดังคำพระที่ว่า นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา ความเป็นผู้รู้คุณและตอบแทนคุณคนอื่นเป็นเครื่องหมายของคนดี
อย่าลืมว่า คนรวยบางคนก็โกงสมบัติพ่อแม่มา เช่น โกงหุ้น โกงที่ดิน เป็นต้น บางคนวางยาพ่อแม่เพื่อหวังเงินประกัน บางคนไม่พอใจพ่อแม่ เพราะคิดว่าพ่อแม่ลำเอียงแบ่งสมบัติให้ลูกไม่เท่ากันเลยเกิดความแค้น สาปแช่งพ่อแม่ บางคนคิดหาทางฆ่าก็มี
บางคนทุจริตคดโกงยักยอกเงินบริษัท ทั้งที่บริษัทให้งานทำมีเงินเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัว บางคนเป็นศิษย์ล้างครู อกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ เป็นต้น ซึ่งเรื่องแบบนี้มีตัวอย่างให้เห็นมากมายในสังคมไทย
ดังนั้น การที่คนเราจะเป็นคนดีได้นั้นจิตใจจะต้องเปี่ยมด้วยความกตัญญูกตเวทีอย่างแท้จริง คือ เป็นคนที่สำนึกรู้ในบุญคุณที่คนอื่นทำให้แก่ตัวเองอยู่เสมอ (กตัญญู) ไม่ว่าเวลานั้นจะล่วงเลยผ่านวันผ่านเดือนผ่านปีมานานแค่ไหนก็ตามก็ยังหวนระลึกอยู่เสมอ ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมบุญคุณคอยหาโอกาสตอบแทนอยู่ตลอด (กตเวที)
วันนี้มีเรื่องราวของหนุ่มคนหนึ่งที่แม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์ครบ 32 ประการเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ทว่าจิตใจและการกระทำของเขานั้นน่านับถือและควรแก่การชื่นชมอย่างยิ่ง
เขาชื่อ “บุญปั๋น เจริญศิลป์” อายุ 46 ปี เป็นชาว จ.เชียงราย กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ชีวิตตอนเริ่มเป็นหนุ่มใหม่ๆ ได้มาทำงานที่กรุงเทพฯ ที่ย่านเอกมัย ต่อมาพออายุประมาณ 20-21 ปี ได้ประสบอุบัติเหตุเป็นเหตุให้แขนข้างขวาของเขาลีบและใช้งานไม่ได้ตลอดชีวิต และหลังจากร่างกายดีขึ้นได้ย้ายไปทำงานที่ย่านประชาชื่น ตอนนั้นค่าแรง 90 บาท/วัน
จนเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา แขนข้างซ้ายข้างปกติเกิดเป็นฝีขนาดใหญ่ขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ เพื่อนคนบ้านเดียวกันได้แนะนำให้มารักษาที่คลินิกเวชกรรมสุรัตน์ รักษาฟรีบาทเดียว ที่ย่านบางลำพู ซึ่งเป็นคลินิกที่คุณสุรัตน์ วงศ์ชาญศิลป์ นักธุรกิจชื่อดังแห่งย่านบางลำพู สร้างขึ้นเพื่อให้บริการแก่คนไข้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
“ผมมาที่คลินิก วันนั้นคุณสุรัตน์อยู่ที่คลินิกด้วย ท่านก็เดินมาถามผมว่าเป็นอะไรมาเหรอ ผมก็บอกอาการ พอหมอคลินิกตรวจและบอกว่าเป็นฝีต้องผ่าตัด คุณสุรัตน์ก็ไม่รีรอ ส่งตัวผมไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลวชิระถึง 2 ครั้ง และออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
พอดีว่าช่วงนั้นผมตกงานด้วย ทันทีที่คุณสุรัตน์รู้ว่าตกงาน ท่านก็ให้ผมมาทำงานเป็น รปภ.ที่บริษัทของคุณสุรัตน์ ให้ค่าแรงตามกฎหมาย พร้อมที่พักฟรีจนถึงปัจจุบัน ผมนี่รู้สึกซาบซึ้งใจมาก ถือเป็นบุญและความโชคดีของผมที่ได้มาเจอท่าน ซึ่งผมไม่คิดว่าจะมีคนดีๆ แบบนี้ในสังคมไทย
จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลา 9 ปีแล้ว ที่ผมก็ยังทำงานอยู่ในบริษัทของท่าน ผมยังระลึกถึงเหตุการณ์วันนั้นไม่ลืม ยังระลึกถึงพระคุณที่คุณสุรัตน์ได้สงเคราะห์ช่วยเหลือผมอยู่เสมอ
ท่านคือผู้ที่ให้ชีวิตใหม่แก่ผมทุกอย่าง ทั้งช่วยค่ารักษาในการผ่าตัด ทั้งให้งานทำ ให้คุณค่าชีวิตแก่ผมมากมาย ซึ่งหาที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ ในสังคมปัจจุบัน ถือว่าผมโชคดีมากที่ได้เจอผู้ที่ใจบุญที่ช่วยเหลือผมด้วยใจจริงๆ
สิ่งที่ผมทำทุกวันคือ ระลึกถึงพระคุณของท่านอยู่เสมอ และพอช่วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันปีใหม่ของไทย ผมจะเอาดอกไม้ พวงมาลัย พร้อมหัวใจที่สำนึกในบุญคุณท่านและภรรยาของท่านอยู่เสมอ ไปกราบบูชาคุณ ขอให้ท่านมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะถ้าจะเอาอย่างอื่นท่านก็มีหมดแล้ว” บุญปั๋น กล่าว
บุญปั๋น เล่าต่อว่า ทุกปีและทุกครั้งที่เขาไปกราบอวยพร คุณสุรัตน์ก็จะให้พรและข้อคิดดีๆ กลับมาตลอด แล้วเขาก็ได้นำไปปฏิบัติเพื่อเป็นมงคลแก่ชีวิตตลอด
แหม เห็นแล้วต้องชื่นชมคุณบุญปั๋นด้วยใจจริง แม้ร่างกายจะพิการ แต่หัวใจไม่เคยพิการแม้แต่น้อย กลับเต็มเปี่ยมด้วยความกตัญญูกตเวทีอันเป็นเครื่องหมายของคนดีตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา