posttoday

เด็ก vs กาแฟ ดื่มวัยไหนจึงเหมาะ?

11 มกราคม 2562

กาแฟ ทุกวันนี้ไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องดื่ม หากกลายเป็นไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตไปแล้ว เนื่องจากในกาแฟมี “กาเฟอีน” (Caffeine) ซึ่งถือว่าเป็นสารเสพติดอย่างหนึ่ง

เรื่อง คาเอรุ ภาพ เอเอฟพี, อีพีเอ

กาแฟ ทุกวันนี้ไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องดื่ม หากกลายเป็นไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตไปแล้ว เนื่องจากในกาแฟมี “กาเฟอีน” (Caffeine) ซึ่งถือว่าเป็นสารเสพติดอย่างหนึ่ง

กาเฟอีน มีผลกระทบอาจทำให้เกิดการนอนไม่หลับ กล้ามเนื้อสั่นกระตุก ปวดหัว ปวดท้อง ขาดสมาธิ และทำให้หัวใจเต้นเร็วผิดปกติได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเด็กแล้ว อาจจะเข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโตของกระดูกได้ เนื่องจากกาเฟอีนจะเข้าไปรบกวนการดูดซับแคลเซียม ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กได้

นอกจากนี้ บรรดาวัยรุ่นที่ชื่นชอบกาแฟประเภทที่มีการใส่นม ผสมวิปครีม มากด้วยน้ำตาล หรือกาแฟที่มีแคลอรีเยอะๆ นั้น ก็อาจนำไปสู่โรคอ้วน กระดูกผุ และฟันผุได้ด้วย จึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจว่า เด็กอายุเท่าไรจึงจะสามารถเริ่มดื่มกาแฟตามคุณพ่อคุณแม่ ที่เดินเข้าร้านกาแฟเป็นว่าเล่นได้บ้าง รวมทั้งเด็กสมัยนี้ที่ชอบนัดกันติวในร้านกาแฟนั้น ควรจะดื่มกาแฟในปริมาณเท่าไรดี

แค่จิบเล็กๆ น้อยๆ คงไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร แต่ถ้าดื่มเกินขนาดเป็นประจำทุกวันก็นับว่าเริ่มน่าเป็นห่วง ในหลายประเทศ อย่างสหรัฐและแคนาดา จึงมีกฎหมายว่าด้วยการเสพกาเฟอีนในเด็ก (อายุต่ำกว่า 18) ออกมาอย่างชัดเจน ว่าไม่ควรเกิน 45 มิลลิกรัม/วัน (เทียบเท่ากับกาเฟอีนที่มีในน้ำอัดลม อย่างโค้กหรือเป๊ปซี่ 1 กระป๋อง ซึ่งก็รวมถึงน้ำอัดลมด้วยนั่นเอง) เพื่อที่จะให้เด็กๆ ได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ตามศักยภาพที่ควรจะเป็น

เด็ก vs กาแฟ ดื่มวัยไหนจึงเหมาะ?

นอกจากนี้ จากผลสำรวจหลายๆ ครั้ง กาเฟอีนมีผลทางลบต่อหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งระบบประสาท โดยกาเฟอีนไม่ได้มีเฉพาะในกาแฟเท่านั้น แต่ยังมีในน้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่ให้พลังงาน (Energy Drinks) ซึ่งนิยมดื่มกันในหมู่วัยรุ่นอีกต่างหาก แอนดี เบลลัตติ คุณหมอชาวอิตาเลียน ผู้ทำวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของกาเฟอีน แนะนำว่า ทางที่ดีเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ควรที่จะแตะของพวกนี้ (กาแฟ น้ำอัดลมที่มีกาเฟอีน และเครื่องดื่มให้พลังงาน) เลยจะดีกว่า

ขณะที่ แคสซี บียอร์ก นักโภชนาการจากสแกนดิเนเวีย เห็นว่า ไม่มีคำตอบที่จะถูกต้องชัดเจนสำหรับกรณีนี้ “เพราะว่า การดื่มกาแฟเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยกระตุ้นให้เกิดชีวิตชีวา และมีสมาธิ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมเท่าไรต่อเด็กๆ เพราะอาจจะไปกีดกั้นการดูดซับสารอาหารบางอย่างที่จำเป็นต่อร่างกายได้

สำหรับผู้ใหญ่ ปริมาณกาเฟอีนที่แนะนำคือ ไม่ควรเกิน 200-300 มก. ต่อวัน ถ้าเป็นเด็กก็หารลงสักครึ่งหนึ่งเลย เพื่อความปลอดภัย” แคสซี กล่าว

เด็ก vs กาแฟ ดื่มวัยไหนจึงเหมาะ?

ด้าน อเล็กซ์ คาสเปโร บล็อกเกอร์ และโค้ชทางด้านสุขภาพ ก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันที่ว่า กาแฟเป็นสิ่งที่เด็กก็ดื่มได้ในปริมาณที่เหมาะสม

“เด็กตัวเล็กกว่าผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้น ปริมาณกาเฟอีนที่จะเสพเข้าไปก็ต้องปรับลดลงตามน้ำหนักและความใหญ่ของร่างกาย แต่จริงๆ แล้ว ผลวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับกาแฟก็คือ ไม่ได้มีส่วนในการยับยั้งการเจริญเติบโตของร่างกายแต่อย่างใด สิ่งที่น่าเป็นห่วงกว่าคือ กาแฟใส่ครีมและน้ำตาลปริมาณมากๆ น้ำอัดลมและเครื่องดื่มให้พลังงานที่มีปริมาณของน้ำตาลสูงต่างหาก ที่ส่งผลกระทบต่อเด็กให้เกิดโรคอ้วนและโรคอื่นๆ อย่างเช่น เบาหวาน เช่นเดียวกับเด็กที่ชื่นชอบรับประทานของหวานเลย

สำหรับการดื่มกาแฟทำให้เกิดการปัสสาวะบ่อย แสดงว่าจะมีการขับกาเฟอีนออกไปจากร่างกาย ถ้าลูกหลานของเราชอบดื่มกาแฟที่ไม่ใส่ครีมและไม่หวานเกินไป แถมยังออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลเท่ากับเด็กที่ติดของหวาน น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มให้พลังงานที่มีรสหวานหรอกครับ”