"ไม่ได้บ้าแต่รัก..ทำแล้วสุขใจ"ป้าวัย59ปรนนิบัติสามีแม้จะตายไปนาน9ปี
ป้าวัย59ยังปรนนิบัติซักรีดเสื้อผ้ากราบไหว้รูปสามีเหมือนยังชีวิตแม้จะจากไป9ปีแล้วเผยทำแล้วสุขใจแม้ใครจะหาว่าบ้า
ป้าวัย59ยังปรนนิบัติซักรีดเสื้อผ้ากราบไหว้รูปสามีเหมือนยังชีวิตแม้จะจากไป9ปีแล้วเผยทำแล้วสุขใจแม้ใครจะหาว่าบ้า
นางสมนาง เชียรประโคน อายุ 59 ปี เจ้าของบ้าน บ้านเลขที่ 332/7 ม.7 ถนนภักดีดำรง ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แสดงออกถึงความรักที่มีต่อสามีแม้ว่าจะเสียชีวิตไปแล้วนานถึง 9 ปี ยังคงปรนนิบัติและใช้ชีวิตเหมือนกับสามียังคงมีชีวิตอยู่ โดยเก็บเสื้อผ้าชุดที่สามีชอบใส่ไว้ในตู้แล้วจะนำออกมาซักรีดทุกเดือนเวลานอนก็จะนำรูปสามีไปวางไว้ข้างๆ และห่มผ้าให้เหมือนกับสามีนอนอยู่ด้วย และก่อนนอนก็จะกราบรูปสามีทุกคืน เวลาไปไหนมาไหนก็จะบอกกล่าวตลอด
นางสมนางเล่าให้ฟังว่าแต่งงานอยู่กินกับนายโน้ต เชียรประโคน สามีมาตั้งแต่อายุ 20 ปีแล้ว ตอนยังมีชีวิตก็รักและดูแลกันมาโดยตลอด กระทั่งเมื่อปี 2553 สามีป่วยและเสียชีวิตลงก็รู้สึกเสียใจมากแต่ด้วยความที่รักและผูกพันกับสามี จึงตัดสินใจเก็บชิ้นส่วนกระดูกที่เผาแล้วของสามีไว้ 1 ชิ้นใส่ไว้ในผะอบแก้ว เพื่อไว้ระลึกถึง แม้หลายคนจะหาว่าตนเองบ้าก็ตามแต่ก็ยืนยันว่าจะทำแบบนี้ตลอดไปเพราะทำแล้วมีความสุข ทำแล้วรู้สึกสบายใจ และไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือทุกปีจะต้องทำอาหารไปเลี้ยง และซื้ออุปกรณ์การเรียนไปแจกจ่ายให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนต่างๆ ปีละ 4 แห่ง ตามคำสั่งเสียของสามีด้วย เพราะตอนสามียังมีชีวิตทำงานเป็นนักการภารโรง และจะรักเอ็นดูเด็กๆ มาก เวลาไปทำงานเห็นเด็กนักเรียนที่ยากจนไม่ค่อยมีเงินซื้ออะไรกิน ก็จะชอบให้เงินเด็กนักเรียน จึงได้สั่งเสียไว้และหลังจากสามีเสียชีวิตก็ทำตามคำสั่งเสียมาตลอด
"สิ่งที่ทำเป็นการแสดงความรักเคยปรนนิบัติหรือดูแลแบบไหนก็ยังจะทำแบบนั้นให้เหมือนกับว่าสามียังไม่ได้จากไปไหน เพราะความรักไม่จำเป็นจะต้องแสดงออกเฉพาะตอนที่ยังมีชีวิตแม้จะจากไปแล้วก็ยังสามารถแสดงความรักที่มีต่อกันได้ ซึ่งสิ่งที่ตนเองทำก็รู้สึกสบายใจและมีความสุข และลูกๆ ก็ไม่ได้ห้ามหรือว่าอะไร" นางสมนาง กล่าว