สาเหตุหลักของกลิ่นเหม็นอับบนเสื้อผ้าในหน้าฝน
หน้าฝนแบบนี้ ซักผ้าไม่ดี...ต่อให้ซักกี่ทีก็เหม็นอับ ลองมาดู 5 สาเหตุหลักของกลิ่นเหม็นอับที่เกิดจากการซักและตากผ้าในฤดูฝน
หน้าฝนแบบนี้ ซักผ้าไม่ดี...ต่อให้ซักกี่ทีก็เหม็นอับ ลองมาดู 5 สาเหตุหลักของกลิ่นเหม็นอับที่เกิดจากการซักและตากผ้าในฤดูฝน
1.ชอบซื้อผงซักฟอกราคาถูกกว่า
หลายครั้งที่เราเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ซักผ้าเพราะราคาที่ถูกกว่า แต่ใส่เยอะๆ สุดท้ายกลับรู้สึกว่าผ้ายังไม่สะอาดและมีกลิ่นอับ ต้นเหตุก็คือสารเติมเต็มที่ถูกผสมเพื่อเพิ่มปริมาณของผลิตภัณฑ์ซักผ้า ซึ่งสารเหล่านี้นอกจากจะมีส่วนทำให้เสื้อเหม็นอับและมีกลิ่นบูดได้ง่ายแล้ว ยังทำให้ถังซักผ้าสกปรกเร็วอีกด้วย ทางที่ดีควรใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่เข้มข้น ใช้น้อยแต่เสื้อผ้าสะอาด ซึ่งถือเป็นการป้องกันกลิ่นอับตั้งแต่ขั้นแรกเริ่ม
2.มองน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นเพียงสิ่งที่ช่วยให้เสื้อผ้าหอม
เป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องคาดหวังให้น้ำยาปรับผ้านุ่มมอบความนุ่มให้แก่เสื้อผ้า พร้อมกลิ่นหอมสดชื่นยาวนาน แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้น้ำยาปรับผ้านุ่มก็มีเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถช่วยให้เสื้อผ้าแห้งเร็วขึ้นได้ ช่วยให้หอมมั่นใจแม้ตากในที่ร่ม ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการขจัดกลิ่นอับจากผ้าในหน้าฝน
3.ตากผ้าในที่ร่มแถมอากาศไม่ถ่ายเท
ช่วงหน้าฝนการตากกลางแจ้งคงต้องเลี่ยงกันไป เราจึงต้องหาทำเลที่ตากผ้าแห่งใหม่ที่อยู่ในร่มและไม่ถูกละอองฝน มองหาที่ที่มีอากาศถ่ายเทดีเพื่อระบายความชื้นออกจากผ้าได้ง่าย แต่ถ้ามีข้อจำกัดด้านพื้นที่อาจต้องเลือกใช้พัดลมมาช่วยพัดพาความชื้นช่วยอีกแรง
4.พับเก็บหรือนำมาใส่ทั้งที่ผ้ายังไม่แห้งสนิท
การพับหรือใส่เสื้อที่ยังมีความชื้นอยู่ คือการเพิ่มปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นอับ เพราะเสื้อผ้ายังไม่แห้งสนิท แบคทีเรียก็เติบโตได้ง่าย ดังนั้น ก่อนจะเก็บเสื้อผ้าต้องเช็กให้ชัวร์ว่าผ้าแห้งสนิทแล้วจริงๆ ถ้าหากรีบใส่ก็ควรรีดเพื่อไล่ความชื้นจากเนื้อผ้าก่อนใส่เสมอ
5.แต่งตัวไม่เข้ากับฤดูกาล
นอกจากเสื้อผ้าหนารุ่มร่ามจะทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวแล้ว ยังทำให้การซักและตากผ้าเป็นงานที่ยุ่งยากขึ้นอีกด้วย โดยเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าหนาอย่างเสื้อไหมพรมก็ควรนำมาใช้ในฤดูหนาว ส่วนในฤดูฝนแนะนำให้ใส่เสื้อผ้าที่มีความโปร่งและบางเบา เวลาโดนฝนหรือซัก จะช่วยให้ผ้าแห้งเร็ว ไม่พบเจอกับกลิ่บอับแน่นอน