ไขปริศนา 'ชานมไข่มุก' ทำไมยิ่งกิน ยิ่ง(เสพ)ติด?
นักวิชาการ ถอดรหัสลับความฟินชานมไข่มุก 1 แก้วแม้จะให้พลังงานเท่ากับ เย็นตาโฟ หนึ่งชาม แต่คุณค่าและสารอาหารที่ได้รับนั้นมันแตกต่างกัน
นักวิชาการ ถอดรหัสลับความฟินชานมไข่มุก 1 แก้วแม้จะให้พลังงานเท่ากับ เย็นตาโฟ หนึ่งชาม แต่คุณค่าและสารอาหารที่ได้รับนั้นมันแตกต่างกัน
ใครที่ชื่นชอบในรสชาติ ความหวาน มัน หอม ของตัวชานม ยิ่งได้ความหนึบหนับของเม็ดไข่มุกมาช่วยเพิ่มความฟินขึ้นไปอีกระดับ ที่หลายคนรู้ทั้งรู้ว่ากินบ่อยๆแล้วอาจทำให้อ้วนขึ้นมาง่ายๆ แต่ก็ยังไม่สามารถหักห้ามใจได้ จนกลายเป็นทาสชานมไข่มุก ที่แม้ว่าอยากจะเลิก(กิน)แต่ก็ยังทำไม่ได้ เรามาดูกันว่า อะไรคือสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้หลายคนหลงใหลในเครื่องดื่มเมนูนี้
ชานมไข่มุก 1 แก้ว เท่ากับเย็นตาโฟ 1ชาม
ไชยสิทธิ์ พันธุ์ฟูจินดา อาจารย์ประจำสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธ.) เปิดเผยว่าการบริโภคชานมไข่มุก 1 แก้วให้พลังงาน 240-360 กิโลแคลอรี (Kcal) แบ่งออกเป็น คาร์โบไฮเดรต 45-62 กรัม ไขมัน 0-14 กรัม โปรตีน 0.4-2 กรัม ขึ้นอยู่กับชนิดของส่วนผสมวัตถุดิบ เช่น ครีมเทียม ชนิดของไข่มุก และปริมาณของน้ำตาลที่ให้ความหวาน ขนาดของแก้วชานมไข่มุกที่แตกต่างกัน
การบริโภคชานมไข่มุก 1 แก้ว เปรียบได้กับการรับประทานอาการเมนู เย็นตาโฟ 1 ชาม ซึ่งให้พลังงาน 326 กิโลแคลอรี แบ่งออกเป็น คาร์โบไฮเดรต 41 กรัม,ไขมัน 8 กรัม, โปรตีน 21 กรัม หรือเปรียบเทียบกับปริมาณน้ำตาลที่ได้รับจากชานมไข่มุก เท่ากับข้าว 3-4 ทัพพี
ทำไมกินชานมไข่มุกถึงมีอาการ(เสพ)ติด
การบริโภคขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในรสชาติที่ผู้บริโภคต้องการ ทำให้เกิดการรับประทานซ้ำ จนเกิดการรับประทานทุกวัน จึงนำไปสู่การเสพติดในรสชาติ ทำให้สมองมีการจดจำรสชาติ เกิดความพึงพอใจในรสชาติที่ได้รับอย่างที่ผู้บริโภคต้องการ
เนื่องจากสารที่ประกอบในชานมไข่มุกจะประกอบไปด้วย น้ำตาล แป้ง และไขมัน เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกดูดซึมได้ทันที ทำให้ผู้ที่บริโภครู้สึกสดชื่น
แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าไม่มีการกิน หรือฝืนต่อความต้องการรับประทาน ก็จะทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ถึงผู้บริโภคจะรู้ว่าการรับประทานอาหารที่มีรสชาติหวานส่งผลเสียต่อร่างกาย แต่ก็ยังมีความต้องการ
อย่างไรก็ตาม ไขมันเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกแปรสภาพไปเป็นไตรกลีเซอร์ไรด์ (Thiglycerides) ซึ่งร่างกายจะนำไปสะสมไว้ตามอวัยวะส่วนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามผนังหลอดเลือด จึงทำให้เสี่ยงต่อโรคกลุ่มเรื้อรังไม่ติดต่อ (honestdocs) เช่น โรคเบาหวาน
คำเตือน ควรดื่มชานมไข่มุกไม่เกินวันละ 1 แก้ว
ไชยสิทธิ์ กล่าวว่าล่าสุดจากข้อมูลของนิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้ทำการศึกษาชานมไข่มุก 25 ยี่ห้อ ที่ไม่ใส่น้ำแข็ง พบว่า 23 ยี่ห้อ มีปริมาณของน้ำตาลเกินกว่าที่องค์การอนามัยโลก แนะนำให้บริโภค คือ ไม่ควรบริโภคเกิน 24 กรัม หรือ 6 ช้อนชา ต่อวัน และมีเพียง 2 ยี่ห้อเท่านั้น ที่ไม่เกินเกณฑ์
และมีการตรวจเม็ดไข่มุกของปริมาณสารกันบูด มีการตรวจพบแต่ไม่เกินตามเกณฑ์ที่กำหนดคือ 1,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม โดยพบมากสุด 551 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แต่หากกินในปริมาณที่มากและกินร่วมกับอาหารชนิดอื่นที่มีสารกันบูด ก็อาจส่งผลต่อระบบขับถ่าย และการทำงานที่หนักของตับและไตในการขับของเสียออกจากร่างกาย
สำหรับการบริโภคชานมไข่มุก คือ ควรรับประทานให้พอเหมาะ โดยปกติพลังงานเฉลี่ยของวัยรุ่นชาย/หญิง วัยทำงานจะอยู่ที่ 2000 kcal โดยเมื่อบริโภคชานมไข่มุก 1 แก้ว 360 กิโลแคลอรี จะเทียบเท่ากับพลังงาน 1 ใน 4 ของพลังงานที่ได้รับต่อวันซึ่งเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงเทียบเท่าอาหารจานเดียว 1 จาน
ขณะที่สารอาหารของชานมไข่มุกส่วนใหญ่จะเป็นพลังงานที่ได้รับจากน้ำตาล ในการเติมสารให้ความหวาน และตัวไข่มุกที่ทำจากแป้งมันสำปะหลัง กับน้ำตาลทรายแดง และผงโกโก้
โดยบางผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ชานมสำเร็จรูปแบบผงอาจมีการเติมไขมัน ชนิดอื่นๆ ที่ให้พลังงานที่สูง แต่ไม่มีข้อมูลทางโภชนาการที่บ่งชี้ส่วนประกอบหรือคุณค่าทางโภชนาการที่ชัดเจน ว่าไขมันที่ใช้เป็นไขมันประเภทอะไร มีประโยชน์หรือโทษกับสุขภาพหรือไม่อย่างไร
ดังนั้นการแก้ไขอาจจะรับประทานเพียงชาที่ไม่มีการใส่นม หรือใส่น้ำตาล เพื่อเป็นการคงคุณค่าของคุณประโยชน์ของชาได้เต็มที่ แต่ก็ไม่ควรทานชาในปริมาณที่มากเพราะอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดีต่อร่างกาย ลดพลังงานโดยเปลี่ยนส่วนผสมอาจจะใช้เป็นนมสดแท้ หรือนมสด Low fat แทนการใช้ครีมเทียมผงสำเร็จรูป
รวมถึงเปลี่ยนเม็ดไข่มุกที่ทำจากแป้ง มาเป็นไข่มุกที่ทำจากบุก ก็จะทำให้พลังงานลดลงและมั่นใจในคุณค่าสารอาหารที่เป็นประโยชน์
ดังนั้นควรรับประทานในปริมาณที่จำกัด ไม่ควรเกินวันละ 1 แก้วต่อวัน หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค คือ รับประทานทานหวานน้อยลง หรือรับประทาน ทานวันเว้นวัน หรืออาทิตย์ละครั้ง หรือนานๆ
กินชาไข่มุกแล้วไปออกกำลังกายซะ
อย่างไรก็ตาม การกินชานมไข่มุก หรือ ของหวานชนิดอื่นๆ ต้องหมั่นดูแลสุขภาพร่างกาย โดยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป อาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง หรือคอยตรวจเช็คน้ำหนักของตนเองเสมอ เมื่อน้ำหนักมีการเพิ่มขึ้น ก็ควรงดการรับประทาน หรือ รับประทานให้น้อยลง
กลุ่มประชากรในยุคปัจจุบันมีการบริโภคชานมไข่มุกในปริมาณที่มาก และควรใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการบริโภคชานมไข่มุก เช่น ควรเป็นภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและย่อยสลายได้มาใช้ทดแทนภาชนะพลาสติกหรือหลอดที่ใช้บริโภค
ไชยสิทธิ์ ระบุข้อมูลดังกล่าว ส่วนหนึ่งอ้างอิงจาก ทิวาพร มณีรัตนศุภร เจาะลึกเบื้องหลังชานมไข่มุก:คุณหรือโทษ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล, ภาสวิชญ์ แก้วกัลยา “ชานม” ว่าอ้วนแล้ว เพิ่ม “ไข่มุก” นั้นอ้วนกว่า, กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ นิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และ พชร แก้วกล้า, นักวิชาการด้านอาหาร มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค "ชาไข่มุก" เครื่องดื่มสุดฮิต กินยังไงไม่ให้อ้วน? อาการเสพติดน้ำตาลและภาวะติดหวาน อาการ อันตราย วิธีการเลิก www.honestdocs.co/sugar-addiction-and-sweeteners , www.lovefitt.com/healthy-fact/กินเท่าไหร่ถึงพอดี-ปริมาณอาหารของคนแต่กลุ่มใน-1-วัน