กินอาหารเป็นยา : 5 แกงใต้กับสมุนไพรไล่โรค

กินอาหารเป็นยา ใส่ใจสุขภาพกับ โพสต์ทูเดย์ ครั้งนี้เราไปกันที่ ร้านกลับนครฯ สุดยอดข้าวแกงปักษ์ใต้ แหล่งรวมอาหารภาคใต้ต้นตำรับคนนครศรีธรรมราช รสชาติจัดจ้าน เผ็ดร้อน เรียกว่าคิดถึงอาหารใต้ทีไรเป็นต้องอยากมาฝากท้องไว้กับร้านนี้ เสน่ห์ของเมนูประจำถิ่นดินแดนด้ามขวานคงต้องยกให้การใส่ภูมิปัญญาท้องถิ่นลงในอาหาร ทั้งสมุนไพร ผักพื้นบ้าน ปรุงแต่งรสชาติด้วยรสที่รังสรรค์จากธรรมชาติ แถมมีสรรพคุณทางยา โดดเด่นในด้านประโยชน์เชิงสุขภาพ คุณประโยชน์นานัปการแบบนี้ มีเมนูไหนน่าสนใจและให้ประโยชน์ด้านใดบ้าง มาดูกัน

เมนูแกงเหลือง 

หรือชื่อที่เราคุ้นเคย "แกงส้มใต้" แกงน้ำใสที่ใส่เครื่องพริกแกงส้ม เติมขมิ้นชันจึงมีสีเหลือง เป็นที่มาของชื่อ "แกงเหลือง" หนึ่งในแกงพื้นบ้านที่ทำง่าย มีรสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม ไม่นิยมรสหวาน เอกลักษณ์คือความเผ็ดร้อนและรสชาติที่เข้มข้นกว่าแกงส้มของภาคกลาง ส่วนผักก็ใช้ได้หลากหลาย อาทิ สับปะรด ยอดมะพร้าวอ่อน หน่อไม้ดอง นิยมแกงกับปลา หรือกุ้ง นับเป็นเมนูที่เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนัก

กินอาหารเป็นยา

พริกแกงส้ม : พริกมีสารไบโอเฟลโวนอยด์ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านออกซิเดชั่น ซึ่งอาจจะช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้  เป็นสมุนไพรช่วยขับเหงื่อ ช่วยย่อย บรรเทาอาการไข้หวัด ลดการอุดตันของหลอดเลือด การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น

ปลากะพง : เนื้อปลาแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม ย่อยง่าย  ไขมันต่ำ มีโอเมก้า และ DHA ซึ่งช่วยในเรื่องการบำรุงสมอง ปลากะพง จัดว่าเป็นปลาที่มีไขมันต่ำเมื่อเทียบกับปลาทะเลชนิดอื่นๆ  คือมีไขมันเพียง 2-4 กรัม ต่อเนื้อปลา 1 ขีด แต่มีโอเมก้า 3 มากเมื่อเทียบกับปลาทะเลด้วยกัน ซึ่งปกติโอเมก้า 3 จะมีอยู่มากในปลาทะเลน้ำลึกที่ราคาค่อนข้างสูง ดังนั้ เราสามารถเลือกทานปลากะพงแทนได้ในราคาไม่แพงและได้รับสารอาหารได้เหมือนเลยทีเดียว

ยอดมะพร้าว : คล้ายกับหน่อไม้สด มีสีขาวนวลกว่าและมีความอวบน้ำ รสหวาน กรอบ  มีแคลเซียมสูง ฟอสฟอรัส  ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ป้องกันโรคกระดูกพรุน ไม่ทำให้อ้วน เพราะมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ และไขมันก็ต่ำ

 

เมนูอื้อไตปลา

หรือไตปลาทรงเครื่อง เมนูเครื่องแน่นรสเผ็ดดุดัน จัดเต็มด้วยสมุนไพร ทั้งข่า ตะไคร้ มะกรูด หอมแดง ขมิ้น พริก กระเทียม ถั่วลิสง เติมรสเปรี้ยวด้วยน้ำมะขามเปียก เพิ่มความกลมกล่มด้วยน้ำกะทิ ขาดไม่ได้คือพุงปลา หรือไตปลา ของดีที่คนใต้ต้องมีติดบ้านเพราะเนรมิตได้หลากเมนู ทั้งยังเป็นวัตถุดิบที่มาจากหนึ่งในวิธีการถนอมอาหารของชาวใต้ เมนูนี้ช่วยให้เจริญอาหารเพราะรสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม เคล็ดลับดับความเผ็ดคือการรับประทานผักเหนาะ หรือผักเคียงคู่กัน แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหากับกระเพาะอาหารหรือเป็นแผลในกระเพาะอาหาร ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดไปก่อน

กินอาหารเป็นยา

ไตปลา : เป็นของหมักดองที่มีโปรตีนสูง นำมาทำแกงโดยใส่พริกแกงที่มีส่วนผสมของสมุนไพรต่างๆ ซึ่งล้วนมีสรรพคุณช่วยแก้ท้องอืด รสเผ็ดร้อนของพริกช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น มีไขมันจากปลาซึ่งเป็นไขมันดี และมีสมุนไพรหลายชนิด

ข่า : รสเผ็ดปร่าและร้อน ช่วยขับลม ขับพิษร้ายในมดลูก ขับลมในลำไส้

หอมแดง : รสเผ็ดร้อน แก้ไข้เพื่อเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ไข้หวัด

ตะไคร้ : แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหารและขับเหงื่อ

เมนูคั่วกลิ้ง 

อาหารใต้อีกจานที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นได้อย่างชัดเจน รสเผ็ดร้อนมาจากทั้งพริกสด พริกแห้ง และสมุนไพร สีเหลืองเด่นของคั่วกลิ้งที่เคลือบหมูสับหรือไก่สับเป็นสีของขมิ้น เมื่อนำไปผัดจะใส่สมุนไพรซอย เช่น ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด เพิ่มลงไป รสชาติทั้งเผ็ด ทั้งร้อน สุดจัดจ้าน เมื่อเห็นร้านอาหารไหนขายคั่วกลิ้งจะรู้ทันทีว่าเป็นอาหารภาคใดไปไม่ได้นอกจากอาหารใต้ 

กินอาหารเป็นยา

ขมิ้น : เคอร์คูมิน สารสีเหลืองที่มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งมีสรรพคุณเป็นยาช่วยรักษาแก้ท้องอืดท้องเสีย ปัจจุบันยังค้นพบว่าช่วยป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายจากสารพิษ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เมื่อกินขมิ้นพร้อมกับอาหารจะช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้ และยังช่วยทำลายไวรัสที่ปนเปื้อนมากับอาหารได้  คั่วกลิ้งจึงจัดเป็นอาหารเป็นยาอย่างแท้จริง

เมนูแกงพริกซี่โครงหมู

จานเด็ดเผ็ดร้อนน้ำขลุกขลิก กินกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใคร ใช้ซี่โครงหมูผัดกับพริกแกงเผ็ด ก่อนเคี่ยวในน้ำพริกแกงสุดเข้มข้นนานกว่า 5 ชั่วโมงจนรสชาติแทรกซึมเข้าถึงเนื้อใน เสน่ห์ของจานนี้นอกจากเครื่องแกงรสชาติถึงใจ คือตัวซี่โครงหมูที่มีเนื้อและกระดูกอ่อนมาให้แทะเพลินๆ ค่อยๆ เลาะเนื้อที่เปื่อยนุ่มออกจากซี่โครงที่ชุ่มน้ำแกง อรรถรสอยู่ตรงนี้นี่แหละ

กินอาหารเป็นยา

เครื่องแกงเผ็ด : ทั้งพริก หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ข่า และผิวมะกรูด ที่นำมาตำให้ละเอียดจนได้พริกแกง มีคุณสมบัติต่างๆ เริ่มตั้งแต่ช่วยระบบไหลเวียนของเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นช้า ป้องกันการเกิดมะเร็ง ด้วยพริก, ต่อที่ กระเทียม มีฤทธิ์ในการลดระดับคอลเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต, ตะไคร้  มีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด ลดความดันโลหิต ตลอดจนป้องกันการเกิดมะเร็ง, หอมแดง  ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด, ข่า  มีฤทธิ์ต้านเชื้อรา แบคทีเรีย และยีสต์ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกมะเร็ง, ผิวมะกรูด  มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดความดันโลหิต เป็นต้น นอกจากนี้ การนำเครื่องเทศสมุนไพรดังกล่าวมาบดตำด้วยกันทำให้สารพฤกษเคมี หรือสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพต่างๆ ออกมาผสมรวมกัน และออกฤทธ์ทั้งเสริมหรือต้านกันจนก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อสุขภาพด้วย

เมนูหมูผัดเคย

หรือหมูผัดกะปิ จานนี้เป็นอาหารที่ดูธรรมดาหาทานง่าย ใช้เนื้อสัตว์อย่างเนื้อหมูมาผัดกับเคย หรือกะปิ เครื่องปรุงติดครัวที่มีกันทุกบ้าน ผัดรวมกัน เพิ่มรสชาติให้อร่อยด้วยรสหวานนิดๆ จากน้ำตาลปี๊บ ขาดไม่ได้คือ สะตอ ผักประจำถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของทางใต้ ความอร่อยของจานนี้เคล็ดลับอยู่ที่การใช้กะปิอย่างดีที่ส่งตรงจากนครฯ ไม่เค็ม ไม่เหม็น ผัดจนเคลือบชิ้นหมูก่อนแล้วค่อยใส่สะตอเม็ดอวบ กรุบกรอบ รสมัน กลิ่นเย้ายวนตามลงไป 

กินอาหารเป็นยา

เคย หรือกะปิ : มีเเคลเซียมสูง เพราะทำมาจากเคย สัตว์ทะเลขนาดจิ๋วที่กินได้ทั้งตัว มีไอโอดีน สารแอนตี้ออกซิเเดนท์ แอสตาเเซนทิน ทั้งยังช่วยให้สมองทำงานดีด้วยโอเมก้า 3 

สะตอ : ชูกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ มีแร่ธาตุและวิตามินที่มีประโยชน์หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน แคลเซียม คาร์โบไฮเดรต เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินเอ บี และซี ช่วยขับลมในลำไส้ แก้ปัสสาวะพิการ ไตพิการ ช่วยลดน้ำตาลในเส้นเลือดได้ กินสะตอเป็นประจำ ป้องกันโรคเบาหวานได้ด้วย แถมมีใยอาหาร ช่วยให้การขับถ่ายคล่อง ลดอาการท้องผูก ป้องกันการเกิดริดสีดวงทวาร 

คิดถึงถิ่นกลิ่นแกงใต้ ลิ้มรสมือแม่ครัวนครฯ มือหนักจัดใหญ่ มาได้ที่ ร้านกลับนครฯ รับรองไม่ผิดหวัง

เรื่องและภาพ : วารุณี มณีคำ