ใช้ความผิดเป็นบทเรียน “ลุงโทนี่” ชายผู้ดีขึ้นเพราะ'หน้าหมี'และ'ยาสูบ'

เรื่อง : วิรวินท์ ศรีโหมด เรียบเรียง : รัชพล ธนศุทธิสกุล

ภาพ :  ณัฐพล โลวะกิจ,อมรเทพ โชติเฉลิมพงษ์

ชีวิตนักรบย่อมมีบาดแผล ทุกๆ เส้นทางชีวิตคนย่อมต้องมีความผิดพลาด แต่นั้นมันจะไม่มีสาระสำคัญอันใดเลยหากไม่นำความผิดพลาดในอดีตมาแก้ไขและทำในสิ่งที่ดีขึ้น

“โทนี่” หรือชื่อนามสกุลจริงตามบัตรประชาชน “เจริญศํกดิ์ โพธิ์ศรีชัย” ว่ากันว่าเป็นคนที่ด่า “ไอ้หน้าหมี” แล้วไพเราะที่สุด ว่ากันว่าเป็นคนที่ไลฟ์สดขายของได้เป็นล้านๆ บาทคนแรกๆ ของเมืองไทย และว่ากันอีกว่าเขาคงจะตายหายไปแล้วหลังถูกจับปรับเงินกว่า 11 ล้านบาท แต่เขาไม่ยักกะซี้แหงแก๋แถมยังเกิดใหม่ขึ้นเป็นเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์อย่างมีความสุข

หากอยากจะรู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาทำได้แบบนี้? ก็คงต้องย้อนกลับไปเรียนรู้ชีวิตของเขาตั้งแต่แรกเริ่มเช่นเดียวกับสับเซตของการแก้ปัญหาทางออกคือต้องแก้ที่ทางต้นเหตุ

เด็กร้อยเอ็ดเฮ็ดทุกอย่าง

ดอกไม้งามก็เพราะได้ปุ๋ยดีชีวิตของลุงโทยูทูปเบอร์คนดังก็ไม่ต่างกัน  ลุงโทนี่เกิดและเติบโตที่จ.ร้อยเอ็ด อ.เมยวดี จนถึงวัยหนุ่มกระทงต้องสร้างชีวิตและเพียรศึกษา พ.ศ. 2539 จึงได้เดินทางมายังมหานครกรุงเทพฯ ทิ้งบ้านนาอดีตไว้เบื้องหลัง ซ่อนบุคลิกนิสัยคนต่างจังหวัดขี้อายไว้ในใจ เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

“ขายอะไรไม่เป็นเด็กๆ ไม่ค่อยกล้าพูดขี้อาย มาเริ่มกล้าก็ตอนเรียนที่ราชภัฏสวนสุนันทา เราไม่มีเงินก็ต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ตอนนั้นก็มาขายสายเสื้อในแบกะดินหน้าราม ขายนาฬิกา คือการขายทุกอย่างที่ขายได้จนจบเก็บเงินเก็บทองเริ่มจะเปิดกิจการเป็นของตัวเอง มีที่ดังๆ ก็ร้านส้มตำถาดอาบทรัพย์ที่จตุจักรใช้นางแบบเสิร์ฟ นายแบบเสิร์ฟ ดังมากจนเปิดร้านขายของในห้าง เปิดร้านอาหารรับทัวร์คนจีนที่พัทยา

“จากนั้นโดนโกงเป็นหนี้ 4 ล้าน ไม่เหลืออะไร หนีไปอยู่อเมริกา วีซ่าท่องเที่ยว แต่ก็แอบทำงานร้านอาหาร ก็เก็บเงินเก็บทองจนมาเปิดบริษัทนำเข้าอุปกรณ์มวนยาเส้น ตรงนี้ที่เราต้องสร้างคาแรคเตอร์งานขายมันต้องมีเพราะถ้ามีจุดขายอะไรๆ มันก็ง่าย มันก็เลยดาร์คๆ แต่จริงๆ ไม่ใช่แบบนั้น”

แต่เป็นแบบนี้เติบโตมาด้วยนิสัยชอบช่วยเหลือชอบทำบุญจากคำสอนของพ่อแม่ พบเจอคนด้อยโอกาสหรือพิการก็มักจะช่วยเหลืออุปการะดูแล

“ชอบเป็นผู้ให้” เขากล่าวถึงตนเองตั้งแต่เด็กจนถึงวัยหนุ่มใหญ่ที่มีสีผมดอกเลาขาวทั้งหัวที่เป็นที่มาของชื่อ ‘โทนี่’ แทน ‘ศัก’ ชื่อเล่นเดิมของตัวเอง

“ช่วงมีไลฟ์เฟซบุ๊กเมื่อประมาณ 2 ที่แล้วที่คนเรียก แรกๆ เรารู้ก็ไม่รู้มารู้ตอนหลัง คือที่เขาเรียกเขาก็คงเพราะเราหัวหงอก เรามีอายุแล้ว คนก็เลยเรียกลุงๆ ลุงโทนี่ ตั้งแต่ตอนนั้นและเรียกมาตลอด จนหลังมีคดีความเป็นข่าวโดนจับเรื่องบุหรี่ปรับ 11 ล้านบาท หลังคดีความจบตอนนี้ เขาก็เรียกกันอยู่”

‘ตะเว็นยังขึ้น’ ล้มก็ต้องลุก

หลังจากคดีใครต่อใครก็คิดว่าลุงโทนี่คงจะกลายเป็นเพียงอดีตพ่อค้าคนดังในโลกออนไลน์และหายไปการหน้าจอ แต่ไม่ใช่สำหรับโทนี่เขาไม่มีความไม่กล้า ความอาย ในชื่อเสียงอย่างที่หลายต่อหลายคนมักจะเป็นๆ และเลือกที่จะขุดหลุมฝังตัวเอง

“เราไม่ได้ไปค้ายา ไปฆ่าคนตาย ถือว่าครั้งนั้นเป็นบทเรียนของผม ความผิดพลาดทำให้เรารู้และเรามาปรับปรุงแก้ไขทำสิ่งที่มันดีขึ้น เพราะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ทุกคนต้องไปข้างหน้า เมื่อวานมันผ่านมาแล้ว มันเป็นได้แค่ข้อคิด มันย้อนไม่ได้ ทุกสิ่งอย่างไม่สามารถย้อนกลับไปได้ อยู่กับวันนี้ให้ได้แล้วก็พรุ่งนี้ให้ได้”

คิดได้ดังเช่นนั้นโทนี่ช่วงหลังจากจบคดีความก็เลยหันมารับจ้างไลฟ์สดขายของให้กับลูกค้าแทนเพราะตนเองนั้นมีความชำนาญในการขายจนเก็บเงินสร้างอาณาจักรของตัวได้ใหม่อีกครั้ง

“เราถนัดทางด้านนี้ แค่ไม่หวือวาแบบครั้งก่อน ก็ขายมาเรื่อย รับจ้างไลฟ์สดของขายให้ เอาของตัวเองมาขายบ้าง ก็เก็บเล็กผสมน้อย จนมาทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ชื่อลุงโทนี่ฟาร์ม”

โดยตั้งอยู่ที่ ถ.คอกวัว ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ มีการเลี้ยงวัว ควาย หมู หนูพุก เป็ด ไก่ นก ต่างๆ นานา สร้างรายได้เมื่อหน้าฝนที่แล้วแค่ขี้วัวอย่างเดียวทำเงินสูงเกือบถึง 1 ล้านบาทเลยทีเดียว

“คือเราไม่ท้อ นั้นคือสิ่งอันดับแรก ถ้าคุณโดนอะไรเข้าไปอย่าหยุด อย่าท้อ เพราะบางสิ่งบางอย่างไม่จำเป็นต้องทำแบบเดิมก็ได้ เราเอาบางสิ่งบางอย่างมาปรับใช้มันก็สามารถที่จะทำได้ มันสามารถที่จะต่อยอดธุรกิจอื่นๆ ได้เหมือนกัน แต่บางคนอาจจะเคยโดนเรื่องนั้นเรื่องนี้แล้วหยุด คุณอาจจะคิดผิด คุณลองคิดทำต่อแต่ทำแบบมาประยุกต์ใช้กับสิ่งใหม่”

มีความสุขหลายๆ เด้ออ้ายเด้อ

กว่า 30 ปีของการเป็นคนธรรมดาไร้ชื่อ วันหนึ่งเข้ามากรุงเทพฯ และแจ้งเกิดโด่งดังถามคน 100 คน ในทั้งหมดตอบว่ารู้จัก ทว่า ณ แม้แต่ตัวเองจะย้ายถิ่นฐานมาปักหลักที่ต่างจังหวัดในป่าดง แต่ก็นั้นแหล่ะที่ทำให้เขาพบสัจธรรมความจริงของชีวิตตัวเองที่สุขสมและลงตัว

“หลายคนถามว่าชีวิตกทม.กับในป่ามันดูน่าเศร้าจากเมืองใหญ่ๆ ที่เราอยู่มา แต่ผมมีความสุขกว่าพวกคุณที่อยู่กทม. เวลานี้มีความสุขมาก ตื่นขึ้นมาไม่สูดอากาศควันลด  อยู่ที่นี้ก็ทำเงินได้ รับจ้างไฟล์สดมีคนส่งของมาให้ขาย ในฟาร์มเราก็มีขายวัว ซื้อมาวันนี้ ขายพรุ่งนี้ นี้คือสิ่งที่เราคิดว่าตัวตนของเราแล้ว ปั่นปลายชีวิตเรา เราก็ปักหลักตรงนี้ ให้กลับกทม.ไม่กลับ ชอบที่นี้และชอบอยู่กับธรรมชาติ

“ใครๆ คิดว่าอยู่ชนบทแล้วจน จริงๆ เลี้ยงวัวควายขายได้ทุกอย่าง อย่างที่บอกไปผมทำเงินได้ 1 ล้าน แต่ใจคุณต้องรักด้วย คือเลี้ยงเขาดูแลเขา เขาก็ให้ผลประโยชน์ มันอยู่ที่มุมมองมากว่า เราเลี้ยงวัวได้ขายขี้ ถ้าติดหมีมีแต่ชิบหาย วันนี้กับวันที่ผ่านมา โคตรมีความสุข”

สุขจากสิ่งธรรมชาติและสุขจากบรรดาแฟนคลับตัวยงที่แวะเวียนมาหาเยี่ยมชมพร้อมกับข้อความรู้การทำฟาร์ม ด้วยมองเห็นในทัศนคติ ‘คิดแล้วลงมือทำ’ ก็ดี ‘การรักครอบครัว’ ก็ดี ฯลฯ สุดแท้แล้วแต่ใครจะได้ไอเดียของยอดนักขายผมดอกสีเลาที่ไลฟ์สดหยาบๆ แต่คุณก็ยอมจ่ายเงินซื้อเหมือนแกโผล่ทะลุหน้าจอไปป้ายยา

“หลักคิดในการทำงานไม่มีอะไรมาก คิดแล้วลงมือทำ ถ้าคิดแล้วไม่ลงมือทำไม่มีทางสำเร็จ หลักในการใช้ชีวิตทุกสิ่งอย่างที่เราทำขึ้นมา อย่าให้เรามีความสุขแค่เราคนเดียว ถ้ามีโอกาสแบ่งปันคนอื่นด้วย เราต้องให้เขามีความสุขด้วย ไม่ว่าครอบครัว คนรอบข้างหรือคนที่เขาชื่นชมเรา เราต้องแบ่งปันความสุขนี้ให้เขาด้วย เพราะความสุขเราหาเมื่อไหร่ก็ได้ ทำตัวเองให้มีความสุขเมื่อไหร่ก็ได้

“ส่วนหลักการสร้างจุดขาย คาแรคเตอร์คนไม่เหมือนกัน จะไปด่ามั่วๆ ได้เจอตีนก็ได้ การด่าของผมมีใครยอมรับไหม ไม่มีใครยอมรับหรอกครับแต่โชคดีอย่างหนึ่ง ผมอดทน สู้ ลุย แรกๆ กระแสตีกลับเยอะไม่เปิดโซเชียลเสพเลย มันปั่นทอนจิตใจ จนมันผ่าน คือทุกคนถ้าจะสร้างคาแรคเตอร์ให้ตัวเองหาให้ตัวเองและคุณก็ต้องพร้อมมือกับมันที่จะเอามาปรับแก้ให้ดีขึ้น” ลุงโทนี่กล่าวทิ้งท้ายพร้อมกับเชิญชวนมาเยี่ยมชมกันได้ทุกคนฟาร์มแห่งนี้ยินดีต้อนรับเสมอ

“ไม่ต้องมาซื้อ แค่มาขี้ใส่ส้วมก็พอใจแล้ว มาๆ เที่ยวมาหากันได้มาเลยครับเชิญครับโทนี่ฟาร์มยินดีต้อนรับทุกท่าน”