ลายแทงร้านอร่อยเมืองรอง สายโลคอลฟู้ด เซฟรัวได้เลย!
เมื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมมือกับ Booking.com จัดทำลายแทง 'Thai Foodie Map' ร้านเด็ด ร้านอร่อย เสน่ห์อาหารถิ่น ถูกใจสายบ้านๆ ประเดิม 40 ร้าน 8 จังหวัดทั่วไทย งานนี้มาดูกันว่ามีเมนูไหนเด็ด ดวง โดนบ้าง!
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ แคมเปญ 'Thai Foodie Map' คู่มือเดินทางและแผนที่อาหารถิ่นทั่วไทยสำหรับเหล่านักชิม ที่จะรวบรวมร้านอาหารแนะนำในเมืองรองทั่วประเทศไทยให้นักท่องเที่ยวและผู้คนได้เดินทางตามรอย เพื่อตอกย้ำเสน่ห์เมืองไทยที่มีรสชาติอาหารหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ตามท้องถิ่นจนเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญสำหรับการท่องเที่ยวตลอดมา
งานนี้มีเกณฑ์การคัดเลือกสำคัญๆ คือ 1.ต้องเป็นร้านที่อยู่ตามชุมชนและใช้วัตถุดิบในชุมชนเป็นพื้นฐาน 2.ต้องใช้คนในชุมชน 3.พร้อมรับมือกับนักท่องเที่ยวต่างชาติถ้าจะไปทานถึงร้าน ที่สำคัญคือต้องมีทัศนคติที่ไม่ทิ้งลูกค้าและมีบริการที่ดี ซึ่งกว่าจะออกมาเป็น Thai Foodie Map ก็มีการพูดคุย เวิร์คช็อป และเตรียมความพร้อมกับร้านที่ถูกคัดเลือกจนได้ 40 ร้าน 8 จังหวัดเมืองรองมาให้ทุกคนไปตำกัน .. ซึ่งทางโพสต์ทูเดย์ก็จะขอแนะนำอาหารบางเมนูในแต่ละจังหวัด ให้ทุกคนได้พอเห็นหน้าค่าตาว่าน่ากินแค่ไหน
เชียงราย แดนอาหารชนเผ่า
เริ่มกันที่เมืองรอง ที่ไม่มีใครไม่รู้จักกับ เหนือสุดในสยามที่ ‘จังหวัดเชียงราย’ Thai Foodie Map เลือก 5 ร้านโลคอลเน้นๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้านลาบบ่อทอง เฮือนฮิมดอย กาแฟดอยผาหมี ป้าแปงข้าวซอยน้อยไฮโซ และร้านอาหารยูนนานฉิงหอเยียน ซึ่งมีหลากหลายเมนูให้เลือกสรร
อย่างเช่นข้าวซอย แต่สำหรับ Thai Foodie Map เลือกของร้านป้าแปงข้าวซอยน้อยไฮโซ ที่ใครเคยคิดว่าข้าวซอยก็เคยเห็นมาแล้ว ต้องคิดใหม่ เพราะป้าแปงแกทำสูตรของแกเอง เป็น ข้าวซอยบนแผ่นแป้งบางๆ คล้ายพิซซ่า และนำไปนึ่ง รสชาตินุ่มลิ้น กินกับน้ำจิ้มที่สามารถปรุงสูตรเองได้ ที่สำคัญคือราคาสบายกระเป๋า และหากินไม่ได้ที่ไหน นอกจากนี้ยังมีข้าวแรมฟืน ข้าวซอยน้อยห่อหมู ให้ลองสั่งมากิน ... จะว่าไปข้าวซอยนั้นไม่ใช่อาหารเหนืออย่างที่ทุกคนคาดคิด รากเหง้าของข้าวซอยมีหลายทฤษฎี บ้างก็ว่ามาจากก๋วยเตี๋ยวฮ่อ ของสิบสองปันนา และได้รับอิทธิพลจากชาวจีนที่นับถือศาสนาอิสลาม แต่บริเวณสิบสองปันนากับเชียงรายนั้นไม่ได้ไกลกันมากนัก จึงได้รับอิทธิพลต่อกัน บ้างก็ว่ามาจากอาหารเมียนมา ที่ก็มีอาหารแบบคล้ายคลึงข้าวซอยเช่นเดียวกัน
ต่อกันกับสายกาแฟ ขึ้นเหนือแล้วจะไม่ลองกินกาแฟก็ยังไงอยู่กับ กาแฟดอยผาหมี กาแฟที่นี่ปลูกด้วยชนเผ่าอาข่า ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่อพยพมาจากประเทศจีนและมาตั้งรกรากที่ดอยผาหมีตั้งแต่ปี 2485 และมีการปลูกกาแฟทดแทนการทำไร่เลื่อนลอยตั้งแต่ในสมัยในหลวงรัชกาลที่ 9 หลังจากได้รับการส่งเสริมก็ทำให้การปลูกกาแฟบนดอยผาหมีปลูกมานานกว่า 50 ปี ซึ่งมีเอกลักษณ์ด้านกลิ่นโดยเฉพาะ เนื่องจากปลูกในภูเขาหินปูน (ดูได้จากบรรยากาศโดยรอบดอยผาหมีที่มีภูเขารูปลักษณ์แปลกตา)
อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยลิ้มลองก็คือ หม้อไฟยูนนาน สาย Hot Pot ชาบู ที่ร้าน ฉิง หอ เยียน ร้านอาหารจีนยูนนานขึ้นชื่อของเมืองเชียงราย แต่ขอบอกว่าสั่งมาหม้อใหญ่กว่าที่คิดให้ระวัง ซึ่งหม้อไฟยูนนานนี้ใช้การเตรียมอาหารที่พิถีพิถัน คนจีนนิยมกินในฤดูหนาวเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย ที่ใครติดใจหม้อไฟของจีนอื่นๆ ก็อยากให้ลองแวะเวียนมากินกัน
กินอาหารเหนือแบบโลคอลที่น่าน
ลงมาอีกสักนิดแต่ยังไม่พ้นภาคเหนือ กับจังหวัดน่าน ที่มีอาหารเหนือให้ทานกันไม่หยุดหย่อนเช่นกัน ร้านที่แนะนำก็อย่างเช่น เฮือนภูคา กิ๋นเส้นน่าน เฮือนฮังต่อกาแฟน่าน ข้าวซอยน้ำเงี้ยวแม่สุณี และวันดาข้าวแกง
ถ้าใครไปเฮือนภูคาอาจจะเห็นชื่อเมนู แกงผักอะยิอะเยาะ ซึ่งแปลว่า แกงผักอย่างละนิดอย่างละหน่อยนั่นเอง สายสุขภาพห้ามพลาด อยากกินผักสบายท้องต้องโดน ซึ่งผักที่ใส่ก็จะแตกต่างไปตามฤดูกาล โดยมีเบสของน้ำซุปที่ใส่ปลาแห้ง
ต่อกันที่ ข้าวกั้นจิ้น ของร้านวันดาข้าวแกง ข้าวกั้นจิ้นได้รับอิทธิพลมาจากชาวไทใหญ่ คำว่ากั้นแปลว่า บีบหรือคั้น บอกถึงวิธีการทำอาหารที่เป็นการใช้ข้าวสวยคลุกกับเลือดหมูและนำมานึ่ง ทานกับผักสด พริกแห้ง หอมเจียว เข้ากันดีมาก
หรือใครอยากลองร้านกาแฟแบบโลคอลอีกสักร้านก็ไปที่ เฮือนฮังต่อกาแฟน่าน ที่บรรยากาศอลังการ ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ และไม่ไกลจากสนามบิน ทางร้านใช้เมล็ดกาแฟหลากหลายพันธุ์จากแหล่งปลูกบนยอดดอยที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน แถมยังมีเค้กต่างๆ ให้บริการอีกด้วย
เลย แซ่บจุกๆ
ไปกันที่ภาคอีสานตอนบนกับจังหวัดเลย ที่สายกินต้องไม่ขับรถเลยอีกต่อไป เพราะมีร้านอาหารที่คนท้องถิ่นแนะนำหลายร้านไม่ว่าจะเป็น ร้านแม่งามอิ่มอร่อยข้าวเปียกเส้น ร้านป้าบัวหวานข้าวปุ้นน้ำแจ่ว ส้มตำป้าโด้ เฮือนหลวงพระบาง และร้านป้าอุ๋มตำซั่วนาบอน แค่ได้ยินชื่อก็นำ้ลายสอ แซ่บซี้ดกันแล้วใช่มั้ยล่ะ!
ประเดิมที่ ตำหลวงพระบาง จากเฮือนหลวงพระบาง ที่เสริฟมาพร้อมกับผักและแคปหมูเข้ากัน เป็นส้มตำที่ได้อิทธิพลมาจากเพื่อนบ้านไทยอย่างลาว ซึ่งใส่กะปิลงไปในส้มตำด้วย แถมเส้นของมะละกอก็ไม่ได้ซอยเล็กแบบที่ไทยแต่จะสไลด์เป็นแผ่นใหญ่ ๆ ได้สัมผัสที่แตกต่างออกไป
แซ่บต่อกันที่ ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว จากร้านป้าบัวหวานข้าวปุ้นน้ำแจ่ว ที่จะบอกว่าใครไม่ได้ไปเลย ก็หาทานยากแน่นอน! เพราะนี่คือของพื้นเมืองจริงๆ เสริฟมาในซุปร้อนๆ และเครื่องในสดสะอาด ปรุงรสด้วยมะนาวสักนิด พริมสักหน่อย ก็เป็นอาหารเช้ากำลังดีที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง หากใครสงสัยว่าร้านป้าบัวหวานนี่เด็ดแค่ไหน แค่เสริช Google คำว่าข้าวปุ้นน้ำแจ่ว ก็ขึ้นมาแล้ว ของเขาดีจริง!
แซ่บไปแล้ว ก็ขอจบที่ ขนมปังญวน ของร้านแม่งามอิ่มอร่อยกันบ้าง อันที่จริงแล้วจานนี้เป็นของกินเล่นที่มาคู่กับข้าวเปียกเส้นเช่นกัน .. ขนมปังญวนนั้นตามประวัติคือได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส และประเทศเวียดนามเอามาพัฒนาเป็นครั้งแรกเพื่อนำไปเลี้ยงทหารในศึกสงคราม ข้างนอกกรอบข้างในนุ่มนิ่มแถมมีไส้กำลังดีเลย
บุรีรัมย์ แดนรสซิ่ง
ไม่ได้มีดีแค่สนามแข่งรถ แต่ที่นี่มีร้านอาหารที่ควรค่าแก่การไปปักหมุด ไม่ว่าจะเป็นร้านตำแหลก ณ ประโคนชัย พรรณีกุ้งเผา ร้านแซ่บอีสาน ป้าน้อยหมี่ยำไทย และจิ้งนำขาหมู
เริ่มต้นด้วยร้านเล็กๆ ที่แอบอยู่ในรั้วโรงเรียนอนุบาลกระสัง อย่าง ป้าน้อยหมี่ยำไทย ที่นำแป้งก๋วยเตี๋ยวแผ่นใหญ่มาซอยเป็นเส้นเล็ก กับน้ำยำรสชาติดีคลุกเคล้าเครื่องสมุนไพร เผ็ดจัดจ้าน แต่ใครไม่ชอบเผ็ดสั่งไม่เผ็ดได้ เปิดประสบการณ์อาหารมากมาย รับรองว่าคนต่างถิ่นไม่เคยกินมาก่อน
ต่อด้วย ขาหมูหมั่นโถว ที่ร้านจิ้งนำขาหมู ตำนานขาหมูเมืองนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เข้าไปในร้านเน้นบรรยากาศคุ้นเคย ร้านนี้เน้นทานขาหมู ซึ่งตุ๋นยาจีนจนเปื่อย คู่กับหมั่นโถวเนื้อนุ่ม มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดาหรือใส่ไส้งาดำ
มาถึงบุรีรัมย์ก็ต้องมีของแซ่บๆ ติดปากต้องห้ามพลาด ตำป่าแคบหมู ร้านตำแหลก ... ตำป่าก็คือ ส้มตำที่ใส่เครื่องเมนูเยอะมาก อะไรดี อะไรเด็ดใส่เข้าไปเลยจ้า โดยที่นี่เป็นร้านที่มีชื่อเสียงความอร่อยคู่กับบุรีรัมย์มานาน จนเปิดหลายสาขาในจังหวัดเดียวได้เลย เด็ดขนาดไหนต้องลอง
นครศรีธรรมราช ประตูสู่อาหารภาคใต้
ลงใต้กันดีกว่า และแน่นอนว่ามาภาคใต้ทั้งทีอาหารทะเลก็ต้องจัดเต็มสูบ และไม่ลืมอาหารท้องถิ่นหากินยาก ไม่ว่าจะเป็นร้านขนมจีนแม่ยายเส้นสดน้ำแกงปูม้า ร้านไทยโอชา ร้านอาหารริมเลซีฟู้ด ร้านขนำติ่มซำ และร้านโกโด่งข้าวมันแกงประตูชัย
เริ่มกันที่อาหารทะเลอย่าง ปลาหมึกไข่ต้มหวาน จากร้านอาหารริมเล ซีฟู้ด ที่นอกจากบรรยากาศริมทะเลจะดีแล้ว อาหารก็อร่อย โดยเฉพาะปลาหมึกไข่ต้มหวาน ซึ่งเป็นเมนูเด็ดประจำร้าน ด้วยปลาหมึกไข่ตัวอวบๆ ต้มแบบพื้นบ้านหวานๆ เค็มๆ กินกับข้าวอร่อยลืม
ต่อด้วย ข้าวมันแกง จากร้านโกโด่งข้างมันแกงประตูชัย ร้านน้ำชาฟีลย้อนยุค ที่หนึ่งในเมนูน่าลองคือข้าวมันแกง อันที่จริงข้าวมันแกงเป็นอาหารท้องถิ่นโดยแท้ที่หากินที่ไหนยาก ที่จังหวัดสงขลาก็จะมีข้าวมันแกงในแบบฉบับของตัวเองที่ต่างออกไป เป็นอาหารที่คาดว่าจะมีรากเหง้ามาจากชาวมลายูหรือมาเลเซีย ซึ่งมี 'นาซีเลอมัก' หรือข้าวมันมลายู เป็นสำรับอาหารประจำชาติ
ปิดท้ายด้วย ติ่มซำ เพราะมานครศรีธรรมราชแต่ไม่ได้กินติ่มซำก็คงมาไม่ถึง Thai Foodie Map แนะนำร้านขนำติ่มซำ นอกจากจะมีขนมจีบกุ้งตัวโตๆ แล้ว ที่นี่ก็ยังมีติ่มซำต่างๆ ไว้บริการอีกเพียบ รวมไปถึงใครอยากกินบะกุ๊ดเต๋ก็มีจ้า
ตรัง มันปังจริงๆ
อีกจังหวัดหนึ่งของดินแดนใต้ ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะธรรมชาติดี ทะเลดี เกาะดี และอาหารก็ดีอีก กับร้านโลคอลเด็ดๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้านยกยอ จีบขาวติ่มซำ ขนมเปี๊ยะปิ้งบ้านพะยูน ร้านอาหารจีนดำ และหมูย่างโกอึ้ง
ต้องเร่ิมจากของดีของเด็ด ของขึ้นชื่ออย่าง หมูย่างตรัง จากร้านหมูย่างโกอึ้ง ที่หนังกรอบสีเหลือง ส่วนใหญ่ใช้หมูพันธุ์เล็กซึ่งทำให้มีมันน้อย โดยมีประวัติว่าหมูย่างเมืองตรังเป็นอาหารที่มีมานานกว่า 80 ปีเลยทีเดียว
แนะนำอีกสักเมนูกับ ขนมเปี๊ยะไส้หมูย่างตรัง จากร้านขนมเปี๊ยะปิ้งบ้านพะยูน ยังไม่พ้นไปจากหมูย่าง แต่เมนูนี้มาในรูปแบบของทานเล่นกันบ้าง ที่มาพร้อมแป้งบางๆ หอมๆ ไส้แน่น โดยมีเอกลักษณ์คือการนำมาย่างหรือปิ้งแทนการอบหรือทอดนั่นเอง ตัวขนมเปี๊ยะมีหลากหลายไส้ ทีเด็ดก็จะเป็นไส้หมูย่างเมืองตรังที่อยากให้ได้ลองชิม นอกจากนั้นก็ยังมีไส้ทุเรียนไข่เค็ม เผือกหอม ถั่วเค็มโบราณ มันม่วง ฯลฯ ที่สำคัญคือแพ็คเกจเหมาะเป็นของฝากเหลือเกิน
และไม่พลาดกับอาหารทะเลกับเมนู หมึกดำ จากร้านยกยอ ที่บอกว่าต้องกิน ถ้าไม่กินเหมือนมาไม่ถึงจ้า โดยร้านนี้นอกจากจะตั้งอยู่ริมหาดปากเมงแล้ว ก็ยังเป็นร้านอาหารทะเลที่ราคาโลคอล แถมยังได้กินอาหารทะเลสดๆ ฟินแน่นอน
สมุทรสงคราม ถิ่นปลาทูแม่กลอง
กลับมาใกล้ๆ กันบ้างกับภาคตะวันตกเริ่มที่สมุทรสงคราม ร้านที่ทาง Thai Foodie Map แนะนำได้แก่ ร้านอาหารครัวแม่อุไร ก๋วยเตี๋ยวหมูย่างกะทิสดอัมพวา ร้านคุณย่าก๋วยเตี๋ยวมะพร้าวอ่อน ครัวย่าโรมคลองโคน และร้านอาหารริมน้ำ
เริ่มกันที่เมนู ปลาทูซาเตี๊ยะ จากร้านอาหารครัวแม่อุไร เมนูนี้เป็นต้นตำรับอาหารของแม่น้ำแม่กลองเลยทีเดียว เนื่องจากปลาทูของแถบนี้มีความอร่อยชื่อเสียงดังระเบิดเถิดเทิง โดยสันนิษฐานว่าเป็นอาหารที่ชาวเลเมืองแม่กลองทำกินระหว่างออกเรือลากอวนปลาทู รสชาติจะออกหวานเค็ม และมีความหอมจากขิง
ต่อกันที่ใครสายเส้น ก็อย่าลืมแวะ ก๋วยเตี๋ยวมะพร้าวอ่อน จากร้านคุณย่าก๋วยเตี๋ยวมะพร้าวอ่อน ก๋วยเตี๋ยวที่ถูกเสริฟอยู่ในลูกมะพร้าว แถมในสูตรของก๋วยเตี๋ยวก็ยังใส่น้ำและเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปในสูตรก๋วยเตี๋ยวให้ได้ความหอมหวานละมุนด้วย เอาเป็นว่าต้องไปลองทานดู
อีกร้านที่สะท้อนความท้องถิ่นเหลือเกินก็คือ ยำชะคราม จากร้านครัวย่าโรมคลองโคน เพราะใบชะครามเป็นผักพื้นบ้านของจังหวัดสมุทรสงคราม ขึ้นได้ตามดินน้ำกร่อย รสชาติของผักจึงเค็ม นำมายำแบบโบราณใส่กะทิลงไปด้วย แถมมีกุ้งและหมูสับร่วงและเครื่องอีกหลายอย่างเลยทีเดียว
ราชบุรี ต้องแวะ
ที่ราชบุรีนอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ เยอะแยะแล้วก็ยังมีร้านอาหารน่าลองแวะ โดยครั้งนี้มีร้านโลคอลที่แนะนำคือ ร้านครัวตะนาวศรี ร้านครัวเชวา กอบัวอาหารไทย ร้านอาหารครัวดอกเอื้อง และร้านครัวดินศิลปะ
เริ่มกันที่ เมี่ยงปลากะพงสองแผ่นดิน จากร้านครัวดินศิลปะ ร้านบรรยากาศอาร์ตๆที่สร้างจากบ้านดิน โดยมีเมี่ยงปลากระพงสองแผ่นดินเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ที่ว่าสองแผ่นดินก็เพราะมีน้ำจิ้มทั้งสูตรแบบหวานโบราณและน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติจัดจ้าน แล้วแต่ว่าใครจะชอบ ส่วนผักข้างเคียงก็เป็นผักท้องถิ่นแทบทั้งหมด
ต่อกันที่เมนู ยำกอบัว จากร้านกอบัวอาหารไทย ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยร่วมสมัย เป็นร้านแบบโฮมมี่ๆ น่ารัก บรรยากาศอบอุ่น เมนูนั้นก็มีทั้งเมนูโบราณหาทานยากหลายประเภท แต่วันนี้ขอแนะนำยำกอบัว ตามชื่อร้าน ซึ่งหาทานยากมาก เป็นการยำใส่ไหลบัวฝานบางๆ น้ำยำนั้นก็หอมมันและมีความแซ่บในตัว
อีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะคือ ฉู่ฉี่ปลาคัง จากร้านครัวตะนาวศรี ร้านอาหารไทยพื้นบ้านเปิดมานานเป็นสิบปี ที่นี่มีเมนูเยอะมากเหมาะกับคนที่เลือกไม่ได้ว่าอยากกินอะไร และยังพัฒนาสูตรอาหารเป็นของตัวเองหลายอย่าง ฉู่ฉี่ปลาคังก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ควรลอง ... พูดถึงฉู่ฉี่ ภาษาอาจจะแปลกๆ แต่จริงๆ มันคือสูตรการทำตำรับไทยแท้ๆ โดยคำว่าฉู่ฉี่มาจากเสียงเวลาผัดหรือเวลาพริกแกงเดือดนั่นเอง
นอกจากที่แนะนำไปยังมีอีกหลายเมนูที่อยากให้ไปลิ้มลองกับ จานเด็ด ร้านดัง เมนูโดน เมืองรอง ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและ booking.com ร่วมกันจัดทำขึ้นในชื่อ Thai Foodie Map ซึ่งสามารถเข้าไปติดตามได้ตาม #ExploreThaiTaste และต้องกระซิบว่านี่คือ 8 จังหวัดเฟสแรกเท่านั้น!! ติดตามกันให้ดีเพราะจะมีเฟสอื่นๆ ตามมาแน่นอน และหากใครที่รู้จักร้านอื่นๆ ในเมืองรองที่อยากแนะนำก็สามารถติดแฮชแท็กได้เช่นกัน เพื่อสร้างลายแทงขุมทรัพย์ทางอาหารแบบเจ้าถิ่นไปพร้อมๆ กัน!