เปิดตัวเลขหลังจบโมโตจีพี ยอดเงินสะพัดเกือบ 5 พันล้านบาท
เปิดตัวเลขที่สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ หลังจบศึกจักรยานทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี สนามที่ 17 รายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์” ในจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดอื่น ๆ อยู่ที่ประมาณ 4,493 ล้านบาท
จักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกโมโตจีพี สนามที่ 17 รายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์” ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิจ จ.บุรีรัมย์ แข่งเมื่อช่วงวันที่ 27-29 ต.ค.66 แชมป์ในรุ่นโมโตจีพีเป็นของ ฮอร์เก มาร์ติน นักบิดจากสเปน ส่วนรุ่นรองอย่างโมโตทูแชมป์เป็นของ เฟร์มิน อัลเดเกร์ จากสเปน ขณะที่ก้อง สมเกียรติ จันทรา ได้ที่ 3 ไปครอง
ขณะที่ภาพรวมทางเศรษฐกิจของงานนี้ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยผลสำรวจเบื้องต้น ของการแข่งขันรถจักรยานยนต์ Moto GP สนามที่ 17 โออาร์ ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ 2023 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมงาน จำนวน 179,811 คน สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ในจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดอื่น ๆ ประมาณ 4,493 ล้านบาท
ซึ่งเป็นการใช้จ่ายของผู้เข้าร่วมงาน ประมาณ 3,783 ล้านบาท แบ่งเป็นผู้เข้าร่วมงานชาวไทยที่เดินทางมาร่วมงานประเภทพักค้างและท่องเที่ยว มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย คนละ14,831 บาท
ส่วนชาวต่างชาติ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนคนละ 27,503 บาท ซึ่งยังไม่ได้รวมรายได้จากนักท่องเที่ยวภายในจังหวัดบุรีรัมย์ที่ไม่ได้เข้าร่วมงาน
การแข่งขันในครั้งนี้ได้รับงบประมาณจากภาครัฐและเงินสนับสนุนจากภาคเอกชน ประมาณ 710 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน ถึง 6,426 ตำแหน่ง ตัวเลขนี้เทียบเท่ากับการจ้างงานในระยะเวลา 1 ปีเลยทีเดียว
ขณะที่การถ่ายทอดสดการแข่งขันรถจักรยานยนต์รุ่น โมโต ทู และโมโตจีพี ในครั้งนี้ มีผู้ชมจากทั่วโลก กว่า 800 ล้านคน นับเป็นการได้แสดงอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของจังหวัดบุรีรัมย์ให้ทั่วโลกได้เห็น และได้แสดงถึงศักยภาพของจังหวัดบุรีรัมย์ในการจัดกีฬามาตรฐานโลก
การสำรวจครั้งนี้ สำนักงานปลัดกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ สำนักงานสถิติจังหวัดบุรีรัมย์ได้ทำการเก็บข้อมูลการใช้จ่ายของผู้เข้าร่วมงาน ระหว่างวันที่ 27 -29 ตุลาคม 2566 ไม่น้อยกว่า 1,500 ราย
