อัล-อัตติยาห์ อัจฉริยะนับขับจอมแม่นปืน
อัล-อัตติยาห์ เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักขับจากแดนอาหรับรายแรกที่คว้าแชมป์ศึกแรลลีหฤโหด “แรลลี ดาการ์ 2011” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่มีหลายคนไม่ทราบมาก่อนว่าเขามีดีกรีเป็นนักกีฬายิงเป้าบินทีมชาติกาตาร์ด้วย....
อัล-อัตติยาห์ เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักขับจากแดนอาหรับรายแรกที่คว้าแชมป์ศึกแรลลีหฤโหด “แรลลี ดาการ์ 2011” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่มีหลายคนไม่ทราบมาก่อนว่าเขามีดีกรีเป็นนักกีฬายิงเป้าบินทีมชาติกาตาร์ด้วย....
โดย...สไปเดอร์แมว
ขึ้นชื่อว่าเป็น “นักกีฬา” แล้ว ไม่ว่าจะเป็นชนิดไหนก็ตาม เชื่อเถอะว่า พวกเขาหายใจเข้าออกเป็นกีฬาและติดตามการแข่งขันหลากหลายประเภท ไม่ใช่เพียงแค่ชนิดกีฬาที่ตัวเองถนัดเท่านั้น
นอกจากจะติดตามความเคลื่อนไหวแล้วนักกีฬาชื่อดังหลายคนยังนำพาตัวเองไปเล่นกีฬาชนิดอื่นด้วย อย่างเช่น มิชาเอล ชูมักเกอร์ แชมป์โลกฟอร์มูลาวัน 7 สมัย ที่มักลงเตะฟุตบอลการกุศลเป็นประจำ
อัล-อัตติยาห์
หรืออย่างในบ้านเราก็มี แสนชัย ส.คิงสตาร์ โคตรมวยไทยแห่งยุคที่เคยถูกดึงตัวไปทดสอบฝีเท้ากับ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด มาแล้วเมื่อฤดูกาล 2009
อย่างไรก็ตาม โบราณกล่าวไว้ว่า “อย่าจับปลาสองมือ” ดังนั้นนักกีฬาส่วนใหญ่จึงมุ่งมั่นในกีฬาที่ถนัด ส่วนกีฬาอื่นที่ชื่นชอบก็เล่นเป็นงานอดิเรกขำๆ เสียมากกว่า
แต่มีนักกีฬาบางคนบอกว่า จับปลาสองมือก็ได้เหมือนกันนะจ๊ะตัวเธอ
เขาคนนั้นคือ นาสเซอร์ อัล-อัตติยาห์ ยอดนักขับแรลลีวัย 40 กะรัตชาวกาตาร์
อัล-อัตติยาห์ เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักขับจากแดนอาหรับรายแรกที่คว้าแชมป์ศึกแรลลีหฤโหด “แรลลี ดาการ์ 2011” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่มีหลายคนไม่ทราบมาก่อนว่าเขามีดีกรีเป็นนักกีฬายิงเป้าบินทีมชาติกาตาร์ด้วย!!!
แชมป์แรลลี ดาการ์คนล่าสุดรายนี้เคยไปประลองความแม่นระดับโอลิมปิกมาแล้ว และผลงานโบแดงชิ้นล่าสุดคือ การคว้าเหรียญทองประเภทสกีตทีมชาย และเหรียญทองแดงสกีตบุคคลชาย ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2010 ที่กว่างโจว เมื่อปลายปีที่ผ่านมานี่เอง
“การขับแรลลีช่วยผมมากในการยิงปืนในแง่ของสมาธิและความมั่นใจ”
อัล-อัตติยาห์ เล่าให้ฟังว่า เขาเริ่มเข้าสู่วงการขับแรลลีเมื่อปี 1990 ซึ่งขณะนั้นยังเป็นหนุ่มเอ๊าะๆ วัย 20 ปี และได้แชมป์ติดไม้ติดมือบ้างในการแข่งขันภายในประเทศ ก่อนจะเริ่มสนใจการยิงปืนจากจุดเริ่มต้นเมื่อได้ออกทริปท่องเที่ยวล่าสัตว์กับคุณพ่อ
จากนั้น อัล-อัตติยาห์ เริ่มฝึกปรือฝีมือและเข้าแข่งขันจนความแม่นไปเข้าตาโค้ชสหพันธ์ยิงปืนของกาตาร์ จึงเข้ามาสนับสนุนทั้งเรื่องของการฝึกซ้อมและส่งแข่งขันยิงเป้าบินรายการต่างๆ จนในที่สุดก็ได้โควตาลุยศึกโอลิมปิก 1996 ที่แอตแลนตา และจบด้วยอันดับที่ 15
แต่หลังจากนั้น อัล-อัตติยาห์ ก็ต้องเลือกว่าจะ “แข่งรถ” หรือ “ยิงปืน”
“ในช่วงนั้นวงการมอเตอร์สปอร์ตในแถบตะวันออกกลางยังไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก ผมจึงมุ่งมั่นมาในทางยิงปืน โดยพยายามผลักดันตัวเองไปฝึกซ้อมและลงแข่งทั่วโลก”
อัล-อัตติยาห์ เอาจริงเอาจังกับการยิงเป้าบินและตีตั๋วลุยโอลิมปิกได้ทุกสมัยตั้งแต่ปี 2000 ที่ซิดนีย์ และปี 2004 ที่เอเธนส์ ซึ่งเขาทำผลงานดีที่สุดคือการคว้าอันดับ 4
อย่างไรก็ตาม จุดพลิกผันที่ทำให้กลับมาสู่วงการแข่งรถอีกครั้งคือในปี 2003 เมื่อวงการมอเตอร์สปอร์ตของกาตาร์อยากได้นักขับลงแข่งในรายการ กาตาร์ อินเตอร์เนชันแนล แรลลี ซึ่งตอนนั้นไม่มีนักขับชาวกาตาร์ได้แชมป์เลยตั้งแต่ปี 1993 และหวยก็มาออกที่ อัล-อัตติยาห์ ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โดยคว้าแชมป์ได้อย่างสวยงาม จากนั้นก็กวาดแชมป์แรลลีได้สารพัด จนได้แข่งแรลลี ดาการ์ ครั้งแรกเมื่อปี 2005
เมื่อมาแข่งแรลลีในระดับที่สูงขึ้น ทำให้มีผลกระทบต่อเวลาในการฝึกซ้อมยิงปืนที่น้อยลงจนทำผลงานในโอลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่งไม่ดีเท่าที่ควร คืออันดับที่ 15 ก่อนที่ อัล-อัตติยาห์ จะเริ่มแบ่งเวลาระหว่าง “แข่งรถ-ยิงปืน” ได้เหมาะสมขึ้นจนคว้าเหรียญทองกว่างโจวเกมส์ และต่อด้วยแชมป์แรลลี ดาการ์ได้อย่างสุดยอด
“การได้แชมป์ดาการ์เป็นฝันของผม แต่มันจะเป็นยิ่งกว่าฝันเสียอีกถ้าผมสามารถคว้าแชมป์ดาการ์แล้วต่อด้วยการได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่ลอนดอน”
จะอัจฉริยะสุดยอดไปไหนครับเนี่ย คุณอัล-อัตติยาห์...