มู่หลาน... วีรสตรีโลกจารึก

22 มกราคม 2553

เรื่องราววีรสตรีกู้แผ่นดิน ที่หลายคนอาจจะประทับใจจากการ์ตูนดิสนีย์เมื่อหลายปีก่อน ถูกจับมาแปลงโฉมมาขึ้นจอยักษ์เป็นภาพยนตร์มหากาพย์อีกครั้ง....

เรื่องราววีรสตรีกู้แผ่นดิน ที่หลายคนอาจจะประทับใจจากการ์ตูนดิสนีย์เมื่อหลายปีก่อน ถูกจับมาแปลงโฉมมาขึ้นจอยักษ์เป็นภาพยนตร์มหากาพย์อีกครั้ง....

โดย...กาญจนา

เรื่องราววีรสตรีกู้แผ่นดิน ที่หลายคนอาจจะประทับใจจากการ์ตูนดิสนีย์เมื่อหลายปีก่อน ถูกจับมาแปลงโฉมมาขึ้นจอยักษ์เป็นภาพยนตร์มหากาพย์อีกครั้ง ภายใต้การกุมบังเหียนของผู้กำกับ จิงเกิล หม่า ซึ่งเคยมีผลงานอย่าง Butterfly Lovers (ม่านประเพณี ตำนานรักกระบี่ผีเสื้อ) และ Fly Me To Polaris และเป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของเฉินคุน และ จ้าวเหว่ย หลังจากที่ทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาแล้วจาก Painted Skin (พลิกตำนาน โปเยโปโลเย)

มู่หลาน... วีรสตรีโลกจารึก

มู่หลาน ในเวอร์ชั่นที่คนแสดงนี้ มีเนื้อหาที่จริงจังและสมจริงมากขึ้นกว่าเดิม แต่การตีความของหนังก็ยังคงเดิมๆ วนเวียนอยู่กับเรื่องราวของมิตรภาพ รักระหว่างรบ การสูญเสีย และความขัดแย้งในจิตใจระหว่างความสุขส่วนตัวกับการเสียสละเพื่อชาติ ซึ่งไม่ต้องไปดูก็เดาได้ว่าตัวละครหลักของเราจะเลือกสิ่งไหน บวกกับวิธีการดำเนินเรื่องแบบคลาสสิกที่ค่อยๆ ปลุกเร้าอารมณ์เรื่องการรักชาติรักแผ่นดินไปจนพีคในตอนท้าย ทำให้เรารู้สึกเหมือนดูซีรีย์ทีวีฟอร์มยักษ์แบบจิ๋นซี ฮ่องเต้ หรือสามก๊ก ที่ฉายสมัยเด็กแต่ย่นย่อตัดตอนลงมาให้เหลือประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งทำให้มู่หลานกลายเป็นหนังปลุกใจให้รักชาติไปอีกเรื่องได้ไม่ยาก (ซึ่งตอนนี้มีหนังจีนแนวนี้ออกมาชนกันเยอะมาก)
 
สิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้คงเป็น งานด้านภาพและฉากรบที่อลังการ สมจริง แม้ว่าโดนองค์รวมแล้วอาจจะไม่ได้โดดเด่นไปกว่าหนังสงครามโบราณเรื่องอื่นๆ แต่ก็ดูน่าตื่นเต้นแบบมือจิกเบาะได้ในหลายตอน และฉากโรแมนติกแอบซึ้งกันระหว่างคู่พระนางก็ทำได้สวยเพลิน ดูไม่โดดจากฉากสงคราม ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผู้กำกับจิงเกิล หม่า มีพื้นฐานมาจากการเป็นผู้กำกับภาพมาก่อน แต่ในเรื่องบทและชั้นเชิงการเล่าเรื่องยังไม่ค่อยจับใจเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะความพยายามใส่ปัจจัยต่างๆ เข้ามาเพื่อให้มู่หลานต้องลุกขึ้นมาจับดาบสู้เพื่อแผ่นดิน จนบางครั้งรู้สึกเห็นใจมู่หลานว่าจริงๆ แล้วเหมือนเธอถูกบังคับและกดดันจากคนรอบข้างให้เหลือตัวเลือกเพียงทางเดียวเป็นสิ่งที่พวกเขาอยากให้เธอทำ มากกว่าที่เธอจะได้เลือกเอง 

มู่หลาน... วีรสตรีโลกจารึก

การแสดงของจ้าวเหว่ยอยู่ในขั้นดีพอสอบผ่าน สิ่งที่อาจจะขัดใจเราอยู่บ้าง ก็คงเป็นหน้าตาที่ดูหวานและบ้องแบ้วเกินไปหน่อยจนเราเกือบไม่เชื่อว่า เธอจะสามารถปลอมเป็นชายอยู่โดยไม่มีใครสงสัย (นอกจากพระเอกและน้องชาย) อยู่นานถึง 12 ปี และหน้าตาของเธอที่ดูไม่เปลี่ยนแปลงไปตามวัย จนเราอาจจะไม่รู้ว่าเวลาดำเนินไปแค่ไหนถ้าไม่บอก รวมถึงบทหนังที่ทำให้เธอดูฟูมฟายจนเกินงาม เพราะแม่ทัพใหญ่ผู้ (ควร) เข้มแข็งอย่างมู่หลาน กลับน้ำตาไหลพรากในเกือบทุกฉากที่มีคนตาย  แต่ก็มีฉากที่ดูแล้วจับใจเราตอนหนึ่ง เป็นฉากที่เธอกลับมาถึงบ้านหลังสงครามสิ้นสุด หลังเสร็จสิ้นการเฉลิมฉลองชัยชนะและได้รับรู้ถึงความภาคภูมิใจของพ่อแล้ว เธอได้ใช้เวลาส่วนตัวนั่งมองตัวเองในกระจก คล้ายจะถามว่า สิ่งที่ทำมาทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง เพื่อคนอื่น สุดท้ายแล้ว ตัวเธอเอง 'หลงเหลือ' อะไรจากสงคราม ...ตัวตน วัยเยาว์ หรือแม้แต่หัวใจที่ล้วนไม่หวนคืน

ระหว่างที่เดินออกมาหลังดูหนังจบ ก็อดคิดถึงคำของฮัวหู่ พ่อของมู่หลานที่พูดตอนต้นเรื่องไม่ได้ ซึ่งเราคิดว่าเป็นบทสรุปที่ดี (ดีกว่าที่ตัวเธอทิ้งท้ายไว้เสียอีก) ว่า "ในสงครามไม่เคยมีวีรบุรุษ (หรือวีรสตรี) มีแต่คนตายและคนบ้า"

 

มู่หลาน... วีรสตรีโลกจารึก

Mulan
มู่หลาน... วีรสตรีโลกจารึก
ปี  2009
ประเทศ  จีน
ประเภท  ต่อสู้ / สงคราม
ความยาว  113 นาที
กำกับ จิงเกิล หม่า
แสดงนำ จ้าวเหว่ย / เฉินคุน / อู๋จุ้น / เจซี เฉิน

 

Thailand Web Stat