posttoday

ผู้ประสาทวิชา มหาปุริสลักษณะ

13 มีนาคม 2554

โดย...อ.ตุ้ย วรธรรม

โดย...อ.ตุ้ย วรธรรม

ตํารามหาปุริสลักษณะที่มีอยู่ในคัมภีร์ไตรเพท ซึ่งใครที่ร่ำเรียนตำรานี้แล้วย่อมสามารถล่วงรู้ถึงลักษณะของบุคคลที่จะมาอุบัติตรัสรู้เป็นศาสดาเอกของโลกและเป็นจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ในโลก ซึ่งพระพุทธเจ้าของเราก็ทรงมีพระลักษณะต้องตามตำรานี้

เป็นต้นว่า พระองค์ทรงมีพื้นฝ่าพระบาทราบเรียบเสมอกัน ไม่กิ่วพร่องเป็นช่องเช่นเท้าของเราท่านทั้งหลายก็หาไม่ ขณะเมื่อทรงเหยียบลงก็ถูกต้องพื้นเหมือนกัน เมื่อยกจากพื้นก็ยกขึ้นพร้อมกัน

นอกจากนี้ ที่ฝ่าพระบาททั้งสองข้างยังประกอบด้วยลายลักษณะกงจักรข้างละหนึ่งอยู่ตรงกลางพระบาท และจักรนั้นมีกำหนึ่งพันกำซึ่งประกอบด้วยกงและดุมบริบูรณ์

ที่ส่วนภายนอกกรอบกงจักรนั้นก็มีรูปมงคลร้อยแปดประการซึ่งเรียกว่า อัฏฐุตรสตมงคล เช่น มีรูปหอกแก้ว รูปดอกพุดซ้อน รูปสายสร้อย รูปสายสังวาล รูปถาดทอง เป็นต้น เป็นบริวารล้อมกงจักรใหญ่ท่ามกลางพระบาททั้งซ้ายและขวา

พระองค์ทรงมีส้นพระบาทยาวประหลาด แบ่งเป็นสี่ส่วน ส้นพระบาทของพระองค์มีสีแดงงาม นิ้วพระบาทและนิ้วพระหัตถ์ยาวเรียวดุจนิ้ววานร พื้นฝ่าพระบาทแดงละเอียดอ่อนนุ่ม ทั้งฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทวิจิตรด้วยลวดลายเป็นตาข่าย พระองคุลีชิดติดกันจนน้ำมิอาจชำแรกแทรกลงไป เป็นต้น

นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงไว้ซึ่งพระลักษณะอย่างน้อยอีก 80 ประการ ซึ่งเรียกว่าพระอสีตยานุพยัญชนะ ซึ่งมีอยู่ในพระวรกายของพระองค์ เช่น นิ้วพระหัตถ์และนิ้วพระบาทขาวเหลืองงามวิจิตร นิ้วพระหัตถ์ต้นเรียวปลายแหลมงาม พระนขา (เล็บ) ทั้งยี่สิบมีสีแดง ลักษณะงอนงามช้อนขึ้นเบื้องบน มิได้ค่อมลงในเบื้องต่ำเหมือนเล็บของเราท่าน

ทรงมีพระบาททั้งสองเสมอกัน มิได้ย่อมใหญ่กว่ากันแม้แต่เท่าเมล็ดงา พระเกศาดำสนิท เส้นพระเกศาละเอียดอ่อน ทรงมีเส้นพระเกศามิได้รู้สยองยุ่ง ทรงมีเส้นพระเกศาเวียนเป็นทักษิณาวัฏ ทรงพระดำเนินอย่างพญาหัตถีอาชาไนย ทรงมีพระลีลางดงามองอาจดุจพญาไกรสรราชสีห์ เป็นต้น

แล้วตำรามหาปุริสลักษณะนี้ใครล่ะเป็นคนเขียนขึ้นมาจนกลายมาเป็นหลักสูตรวิชาทำนายบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในโลก

และคงจำกันได้ว่าพราหมณ์ชื่ออัญญาโกณฑัญญะที่ต่อมาได้บวชในพระพุทธศาสนาแล้วปรากฏนามว่าพระอัญญาโกณฑัญญะได้นำตำรานี้มาเป็นเครื่องทำนายสิทธัตถะราชกุมารถึงขั้นฟันธงทางเดียวว่าสิทธัตถะราชกุมารจะได้ออกผนวชและได้ตรัสรู้เป็นศาสดาเอกของโลกพันเปอร์เซ็นต์

ผู้ถ่ายทอดวิชานี้ คือ มหาพรหมชั้นสุทธาวาสองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นพระอริยบุคคลชั้นอนาคามีในพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน
โดยมหาพรหมท่านนี้ได้ระลึกถึงพระพุทธศาสนาด้วยความห่วงใยได้รู้แจ้งแก่ใจว่าพระมหาบุรุษจะลงมาอุบัติในนครกบิลพัสดุ์และจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในโลกนี้ แต่จะไม่มีผู้ใดได้ล่วงรู้ถึงพระพุทธลักษณะเพราะขาดความสนใจในพระพุทธศาสนา โดยเหตุที่ว่าในขณะนั้นเป็นเวลาว่างเว้นจากพุทธกาลมาช้านานถึงพุทธันดรหนึ่ง

มหาพรหมองค์นี้จึงแปลงกายเป็นมหาพราหมณาจารย์ผู้วิเศษลงมาแล้วเพิ่มวิชาการว่าการมหาปุริสลักษณะเข้าไปอยู่ในคัมภีร์ไตรเพท เรียกว่า “พุทธมนต์” จากนั้นสั่งสอนบรรดาศิษย์ให้ได้รู้ถึงพุทธลักษณะ

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีการศึกษาเล่าเรียนตำรานี้สืบๆ กันมา ซึ่งคนที่เรียนตำรานี้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์จะต้องเป็นคนที่มากด้วยวาสนาบารมี เช่น โกณฑัญญะพราหมณ์ จนสามารถทำนายได้ว่าพระสิทธัตถะจะออกผนวชและได้ตรัสรู้เป็นศาสดาเอกของโลก