posttoday

2 ทายาทคนดัง ดาวดวงใหม่ประดับวงการ

16 มีนาคม 2554

คำว่า “ห่วย” ใครๆ ก็ไม่อยากได้รับเกียรติแปะพะยี่ห้อนี้ ทว่าหนุ่มสาวหน้าใส “แนทณัฐชา นวลแจ่ม” กับ “พีชพชร จิราธิวัฒน์” กำลังดังระเบิดระเบ้อจากฉายา “ห่วยขั้นเทพ”  

คำว่า “ห่วย” ใครๆ ก็ไม่อยากได้รับเกียรติแปะพะยี่ห้อนี้ ทว่าหนุ่มสาวหน้าใส “แนทณัฐชา นวลแจ่ม” กับ “พีชพชร จิราธิวัฒน์” กำลังดังระเบิดระเบ้อจากฉายา “ห่วยขั้นเทพ”  

เรื่อง นกขุนทอง / ภาพ ณัฏฐ์ฐิติ อำไพวรรณ

คำว่า “ห่วย” ใครๆ ก็ไม่อยากได้รับเกียรติแปะพะยี่ห้อนี้ ทว่าหนุ่มสาวหน้าใส “แนทณัฐชา นวลแจ่ม” กับ “พีชพชร จิราธิวัฒน์” กำลังดังระเบิดระเบ้อจากฉายา “ห่วยขั้นเทพ” กับการแจ้งเกิดในภาพยนตร์เรื่องแรก “SuckSeed ห่วยขั้นเทพ” แต่ว่าในชีวิตจริงของเขาและเธอไม่ห่วย และไม่ได้มีแค่ความหล่อสวยใสธรรมดาๆ เท่านั้น เพราะมีดีกรีเป็นถึงลูกไม้คนดัง ฝ่ายหญิงเป็นลูกสาวของกีตาร์คิง “แหลม มอริสัน” ฝ่ายชายดูจากนามสกุล “จิราธิวัฒน์” ก็อู้หู!! กันแล้ว

2 ทายาทคนดัง ดาวดวงใหม่ประดับวงการ

แนท ลูกไม้ใต้ต้น แหลม มอริสัน

“แนทณัฐชา นวลแจ่ม” เป็นลูกสาวของ “แหลม มอริสัน” บุรุษผู้ถูกยอมรับว่าเป็นมือกีตาร์ระดับต้นๆ คนหนึ่งของประเทศไทย จนได้รับฉายาว่า “กีตาร์คิง” และตอนนี้น่าจะได้รับฉายาคุณพ่อจอมหวงลูกสาวพ่วงไปด้วย เพราะขนาดทางค่ายหนังจีทีเอชต้องการตัวลูกสาวมาแคสติงเพื่อเล่นภาพยนตร์ คุณพ่อยังไม่ยอมให้มา จนผู้กำกับ (หมูชยนพ บุญประกอบ) ต้องเดินทางบุกไปแคสติงถึงบ้านที่พัทยา ไม่ใช่เพียงเพราะแนทเป็นลูกสาวของกีตาร์คิง แต่เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่เล่นกีตาร์ได้เก่งเข้าตากรรมการเลยทีเดียว

แนท เล่าถึงวินาทีที่ผู้กำกับมาแคสติงถึงบ้านว่า “ประทับใจมากที่ผู้กำกับมาแคสติงเอง คุณพ่อก็ไม่ว่าอะไร ตอนแรกคุณพ่อก็ดูๆ สักพักเห็นมีแคสติงเล่นกีตาร์ คุณพ่อก็เดินไปหยิบกีตาร์ออกมาจากห้องแล้วมาโซโลด้วยเลย (หัวเราะ) ตอนนั้นแนทร้องเพลงซอมบี้ เป็นเพลงที่แนทร้องแล้วมั่นใจที่สุด บรรยากาศตอนนั้นไม่เหมือนแคสติง เหมือนเล่นกับคุณพ่อ คุณพ่อแนทยิ้มหน้าบานมาก เป็นครั้งแรกที่แนทรู้สึกได้เลยว่าคุณพ่อภูมิใจในตัวแนทมากๆ คุณพ่อคือครูคนแรกที่สอนแนทเล่นกีตาร์ แต่ปกติไม่ค่อยได้เล่นกับคุณพ่อ”

แม้จะเล่นกีตาร์ได้ถูกใจผู้กำกับ แต่แนทยังต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาแคสติงอีกตั้ง 3 รอบ กว่าจะได้เป็นนางเอกครั้งแรก และได้เข้าสู่วงการบันเทิงสมความตั้งใจ “เหมือนความฝันของเด็กคนหนึ่งที่อยากเล่นหนัง อยากเล่นดนตรี แล้วอยู่ดีๆ หนังเรื่องนี้ก็ตอบโจทย์ความฝันของแนททั้งสองอย่าง คือ ได้แสดงและได้เล่นดนตรี และถ้าหนังเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับดนตรี คุณพ่อก็คงไม่สนับสนุน พอผู้กำกับเล่าเรื่องให้ฟัง คุณพ่อก็บอกมันน่าสนใจนะ ก็เชียร์เต็มที่ คุณพ่อให้กำลังใจมาก ใจจริงคุณพ่ออยากให้แนทเป็นศิลปิน แต่แนทอยู่ไกล มันไม่มีโอกาสมากกว่า แต่ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้วก็คว้าไว้ และถ้าหนังเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับดนตรี ผู้กำกับคงไม่มาหาถึงที่บ้าน”

แนท ยอมรับว่าการที่เป็นลูกสาวของ แหลม มอริสัน มีส่วนช่วยทำให้เธอมีทุกวันนี้ “แนทโชคดีที่เกิดเป็นลูกพ่อ ซึ่งคุณพ่อเป็นคนที่น่ารักมาก เหมือนเป็นบุญของคุณพ่อ เพราะไม่งั้นแนทคงไม่มาถึงจุดนี้ได้ คุณพ่อไม่เคยบอกว่าต้องเล่นกีตาร์ คุณพ่อตามใจลูกสาวมาก คือแนทอยากทำอะไร คุณพ่อเต็มที่ เช่น อยากเรียนเต้นก็เรียน อยากรำก็รำ คุณพ่อบอกว่าคนเราไม่ชอบให้ใครมาบังคับ เพราะมีความชอบเป็นของตัวเอง ชอบอะไรก็ทำอันนั้น อยากให้แนทเรียนรู้ด้วยตัวเอง”

แต่อย่างไรก็ตาม การเป็นลูกสาวของกีตาร์คิงก็เป็นเหมือนไม้บรรทัดวัดความสามารถทางด้านนี้ของแนทไปโดยปริยาย “คนส่วนใหญ่คิดว่าเเนทเล่นกีตาร์เก่ง ตรงนี้แนทก็รู้สึกกดดัน แนทแค่พอเล่นได้ แต่ไม่ได้เล่นเก่งเหมือนพ่อ แต่ท่าทางแนทเกินร้อยค่ะ เพราะดูคุณพ่อมาตั้งแต่เด็ก แต่ฝีมือยังไม่เท่า ต้องฝึกอีกเยอะ (หัวเราะ) คุณพ่อก็ไม่ได้คาดหวังให้แนทเก่ง คุณพ่อดีใจมากกว่าที่เเนทกลับมาเล่น เพราะแนทห่างจากการเล่นไปพักใหญ่ เล่นแล้วเจ็บนิ้ว ก็เลยร้องอย่างเดียวดีกว่า แต่หนังเรื่องนี้ทำให้แนทกลับมาเล่นกีตาร์แบบจริงจังอีกครั้ง”

ท้ายสุด แนท บอกว่าหนังเรื่องนี้เปิดโลกทัศน์ “แนทได้เรียนรู้ชีวิตใหม่ๆ ได้ทำฝันของตัวเองให้เป็นจริง หนังเรื่องนี้สอนให้แนทรู้ว่า แม้ว่าที่ผ่านมาชีวิตเราจะทำอะไรได้ไม่ดี ไม่สำเร็จ บางครั้งอาจจะห่วยไปบ้าง แต่ถ้าเราพยายาม ทำทุกอย่างเต็มที่ ชีวิตเราก็จะประสบความสำเร็จ กลายเป็นเทพได้เหมือนกัน”

2 ทายาทคนดัง ดาวดวงใหม่ประดับวงการ

พีช ไม่ได้มีดีแค่หน้าตานามสกุลดัง

ที่ผ่านมาเคยเห็นแต่หนุ่มน้อยหน้าใส “พีชพชร จิราธิวัฒน์” ทายาทธุรกิจห้างสรรพสินค้าชื่อดังของเมืองไทย เป็นเซเลบริตีรุ่นเยาว์ที่ออกงานสังคมกับคุณพ่อคุณแม่ “ธีระยุทธชนัดดา จิราธิวัฒน์” แต่ต่อไปนี้งานอีเวนต์ต่างๆ จะมีหนุ่มพีชเป็นทั้งเซเลบและศิลปินมาร่วมงาน นี่ขนาดภาพยนตร์ยังไม่ลงโรงฉาย อัลบั้มเพลงที่ทำกับค่ายสมอลล์รูมยังไม่ได้เข้าห้องอัด พีชก็กลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมไปเสียแล้ว

แม้หน้าตาจะจัดว่าหล่อ มีสไตล์ของตัวเอง นามสกุลจะดัง แต่พีชก็เข้ามารับบทเด่นตามขั้นตอนเหมือนนักแสดงคนอื่นๆ ซ้ำยังใช้เวลาแคสถึง 5 ครั้ง กว่าจะได้รับคำตอบที่ให้เขาก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัว

“5 รอบครับ ถึงแคสติงผ่าน (หัวเราะ) ผมตื่นเต้นมาก ก่อนเรื่องนี้ก็เคยมาแคสติงเรื่องอื่นๆ ก็ตื่นเต้นทุกครั้ง เขาให้แนะนำตัวก็พูดผิด รวนไปหมด คือถ้ามีโอกาสการเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงก็เป็นอะไรที่น่าลองครับ เพราะคนที่ได้ทำจริงๆ ในวงการนี้น้อยมาก ผมไม่ได้เดินตามรอยพี่แพร (พิมพิศา จิราธิวัฒน์ศิลปินค่ายสมอลล์รูม) แต่มันเป็นความชอบและเป็นโอกาสของเราพอดี เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตของผม ซึ่งผมเต็มที่กับการทำงานมากๆ” พีช เล่าถึงบันไดเข้าสู่วงการบันเทิง

ด้วยคาแรกเตอร์สนุกสนาน ขี้เล่น บ้าพลังของพีช ไม่ต่างจากบทที่ได้รับในภาพยนตร์ เป็นความลงตัวที่ทำให้เกิดเสน่ห์แก่เขาจนเป็นหนุ่มเนื้อหอมในนาทีนี้ “ตัวจริงผมไม่หยิ่งเลยครับ ถ้าคนไม่รู้จักก็เหมือนในหนังนะ เป็นคนร่าเริง ไร้สาระ แต่ในหนังจะอารมณ์แปรปรวน ผมไม่ขนาดนั้น และไม่ได้เล่นดนตรีอวดหญิง (หัวเราะ) ปกติผมก็เล่นดนตรีอยู่แล้ว ผมเล่นเพราะชอบจริงๆ และหนังเหมือนส่วนหนึ่งในชีวิตผม คือ วัยรุ่นคนหนึ่งที่ฝันอยากมีวงดนตรี อยากเป็นศิลปิน”

นามสกุลจิราธิวัฒน์ ทำให้พีชเป็นที่สนใจมากกว่าเป็นเด็กหนุ่มโนเนม “ก็เป็นไปได้ แต่ว่าเหนือจากนั้นมันเป็นเรื่องฝีมือ ถ้าฝีมือดีก็ดี มันเหนือกว่าเราใช้ชื่อเสียง แต่ถ้าฝีมือไม่ดี นามสกุลก็ช่วยอะไรไม่ได้ครับ การที่เรามีคุณพ่อคุณแม่เป็นที่รู้จักก็เหมือนเป็นดาบสองคม แต่เราก็ระวังตัวเอง ดูแลตัวเองตลอด ก็ไม่มีเรื่องแย่ๆ เรารู้ตัวว่าเรากำลังทำอะไรดีไม่ดี”

แม้ตอนนี้จะมุ่งมาสู่วงการบันเทิง แต่ในอนาคตพีชเลือกเรียนเกี่ยวกับบัญชีเพื่อนำมาใช้ในการบริหารธุรกิจของครอบครัว “มาทำงานตรงนี้คุณพ่อคุณแม่ก็เป็นห่วงครับ แต่เราก็แบ่งเวลาได้ เลยสบายๆ แต่ก็จะมีเตือนเรื่องการวางตัวแล้วก็การพูดจา แต่ก็ไม่ได้เตือนอะไรมาก เพราะปกติก็อบรมมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว”