รักพ่อแม่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

วันที่ 13 เม.ย. นอกจากเป็นวันสงกรานต์แล้วยังเป็นวันผู้สูงอายุและความสำคัญของ “ผู้สูงอายุ”

ซึ่งนับวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกที เนื่องจากผู้สูงอายุมีอายุที่ยืนยาวขึ้นจากสภาพแวดล้อมและสังคมที่เปลี่ยนไปแต่อย่างไรก็ตาม การที่ผู้สูงอายุมีชีวิตที่ยืนยาวก็มีประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นอีกหลายประการทั้งเรื่องของการดูแลผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ ช่องว่างของความเข้าใจระหว่างลูกหลาน และผู้สูงอายุในครอบครัว ดังนั้นสถาบันรักลูกจึงเป็นตัวกลางในการให้ข้อมูล และความเข้าใจถึงวิธีการดูแลอย่างถูกต้อง รวมไปถึงการเป็นแหล่งรวมความรู้ใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้สูงอายุ ในอันที่จะดูแลตนเองและปรับตนเองเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีคุณภาพและมีความสุข

โดยทั่วไปแล้วเราเชื่อกันว่าบุตรหลานส่วนใหญ่ได้ทำหน้าที่เลี้ยงดูพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายตามธรรมเนียมปฏิบัติของคนไทยกันอยู่แล้ว หลายคนอาจบอกว่าได้ดูแลบุพการีอย่างดีที่สุด ให้ท่านอยู่ในบ้านที่ทันสมัย โอ่อ่า จัดห้องหับให้อยู่ มีอาหารดีๆ ให้รับประทานทุกมื้อ ทั้งยังมีพยาบาล มีพี่เลี้ยงคอยดูแลตลอดเวลา ไม่เห็นว่าท่านจะเดือดร้อน หรือขาดอะไร

ดูแลให้ครบทั้งร่างกายและจิตใจ

แต่ความเป็นจริงแล้วสิ่งที่จัดหาให้ท่านอาจยังไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า “คุณภาพชีวิต” ที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ หรืออาจไม่ใช่สิ่งที่ท่านต้องการจริงๆ เรายังมีความเข้าใจไม่ถูกต้องในการดูแลคุณภาพชีวิตของท่าน รวมไปถึงไม่ทันระวังสิ่งที่จะกระทบกระเทือนจิตใจของท่าน การดูแลผู้สูงอายุจึงไม่ใช่เพียงดูแลให้ท่านอยู่ดีกินดีเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงเรื่องอื่นๆ ประกอบกันโดยเฉพาะในเรื่องจิตใจ คำพูด การแสดงความรัก ความห่วงใย

หลายครั้งที่มองเห็นผลกระทบในด้านต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ระหว่างลูกหลานและผู้สูงอายุ รักพ่อแม่ต้องดูแลอย่างเข้าใจผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ได้ให้แนวทางในการดูแลผู้สูงอายุเพื่อการอยู่ร่วมกันในครอบครัวอย่างมีความสุข และเพื่อที่สังคมไทยจะได้ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ได้อย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ลูกหลานและผู้สูงวัยสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ กล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ของผู้สูงอายุ อาทิ ความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย คือ ระบบ อวัยวะส่วนต่างๆ หรือแม้กระทั่งความเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจ พร้อมทั้งแนะนำให้ลูกๆ หลานๆ ฝึกคิดในมิติของผู้สูงอายุ และเข้าใจในสิ่งที่ผู้สูงอายุเป็น

เรื่องที่แม่ลูกมักจะขัดใจกัน ฟังดูอาจเป็นเรื่องเบาๆ ขำๆ แต่ในชีวิตจริงทั้งพ่อแม่ลูกอาจจะเครียดจากเหตุการณ์นี้ ตัวอย่างง่ายๆ เช่น การที่เราจ้างพยาบาลมาเลี้ยงดูพ่อแม่ แต่พ่อแม่มักจะโวยวายปฏิเสธว่าไม่ต้องการ บอกว่าดูแลตัวเองได้จะจ้างมาทำไม จะมองว่าเสียดายเงินทอง รวมไปถึงการไม่ยอมรับว่าตัวเองแก่ถึงขนาดต้องมีคนมาดูแล

เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องความรู้สึก ต้องทำให้ท่านเห็นว่าลูกๆ รักและเป็นห่วงจริงๆ หรือพ่อแม่บางคนชอบเสียงดังในที่สาธารณะ ลูกๆก็อายคนอื่น แต่ลืมคิดไปว่าท่านอาจจะเริ่มหูตึง ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะฉะนั้นไม่ต้องอายใคร ถ้าเราทำดีไม่ต้องอายใคร เมื่อแม่เสียงดังก็ไม่ต้องไปอายใคร พ่อแม่และบุตรหลานควรพูดคุยสร้างความเข้าใจ แลกเปลี่ยนความรู้สึกต่อกัน เพื่อเป็นแนวทางในการอยู่ร่วมกันในครอบครัวได้อย่างมีความสุข

รู้จักกตัญญูรู้คุณ

สังคมไทย เป็นสังคมที่รักษาความเป็นไทย รักษาวิถีมนุษย์ มีความกตัญญูรู้คุณ ดูแลกันตั้งแต่ต้นจนจบชีวิตร่วมกัน ทำให้สิ่งที่เป็นเรื่องยากกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น จริงๆ แล้วเรื่องเหล่านี้อาจจะเป็นเรื่องใหม่ ซึ่งเมื่อก่อนเราเรียนรู้จากวิถีชีวิตประจำวัน แต่ว่าวันนี้เมื่อสังคมมันเปลี่ยนเราจำเป็นต้องเพิ่มเติม เปิดประตูรับรู้ข้อมูลใหม่ๆ ร่วมกัน

การอยู่ร่วมกัน พลังความรู้สิ่งเดียวคงยังไม่พอ พลังความรักเราต้องดึงมันออกมา พลังความชื่นใจที่เรามีต่อกัน พลังของความรู้สึกที่ว่าครอบครัวเป็นหัวใจที่จะดูแลซึ่งกันและกัน ถ้าเราดึงเรื่องนี้มาด้วยกันทั้งหมด พลังความรัก พลังครอบครัว และพลังความรู้ เชื่อว่าทุกครอบครัวจะมีสุขภาพที่ดีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

หัวใจสำคัญของการดูแลพ่อแม่นั้น ลูกๆ ควรจะมองไปที่เรื่องจิตใจ และความรู้สึกบ้าง เพราะบางอย่างที่เราคิด อาจคิดแค่ในมิติของเราต้องเข้าใจพ่อแม่อย่างที่เขาเป็น ต้องนั่งอยู่ตรงเขา ถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับเข้าหากัน คุณยังเด็ก ยังไม่ป่วย ต้องยอมเขาบ้าง และวันที่คุณเป็นพ่อเป็นแม่ ตอนที่คุณอายุ 70 ปี ณ ตอนนั้นคุณจะรู้ว่าชีวิตมันไม่ง่ายเลย

ลูกๆ หลานๆ ต้องทำดีให้ท่านทุกวันสม่ำเสมอ จัดสมดุลชีวิตได้ครบถ้วนไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่มีเรื่องให้ต้องนึกเสียดายหรือค้างคาใจ ว่าน่าจะทำอะไรให้ท่านได้มากกว่านี้