สุพินดา หวังทรัพย์คณา รักแม่แม้ไม่ได้บอก(รัก)ทุกวัน
“เราเป็นครอบครัวคนจีน ซึ่งต้องเข้าใจนะว่าเราไม่ได้บอกรักกันทุกวันหรืออะไรแบบนั้น สิ่งที่แม่พูดกับอุ๋ย
“เราเป็นครอบครัวคนจีน ซึ่งต้องเข้าใจนะว่าเราไม่ได้บอกรักกันทุกวันหรืออะไรแบบนั้น สิ่งที่แม่พูดกับอุ๋ย
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์
“เราเป็นครอบครัวคนจีน ซึ่งต้องเข้าใจนะว่าเราไม่ได้บอกรักกันทุกวันหรืออะไรแบบนั้น สิ่งที่แม่พูดกับอุ๋ย จึงมีความหมายกับอุ๋ยมาก” อุ๋ย หรือ สุพินดา หวังทรัพย์คณา พูดถึงมารดา ปารดา ยิ่งวัฒนาไพศาล เจ้าของทรัพย์คณารีสอร์ท ซึ่งปัจจุบันปรับใหม่เป็น อีเดน การ์เด้น รีสอร์ท สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
สุพินดา ในวัย 28 ปี ผู้จัดการทั่วไป โครงการ อีเดน การ์เด้นฯ เล่าถึงมารดาว่า เป็นผู้ที่ชอบการทำงานมาก แม่ทำงานตั้งแต่สาวจนแม้ปัจจุบันอายุเริ่มมากขึ้นในวัย 53 ปี แต่แม่ก็ยังทำงานไม่เลิก ตอนเป็นเด็กไม่สนิทกับแม่ เพราะเป็นช่วงกำลังก่อร่างสร้างตัว โรงงานแปรทองรูปพรรณ ซึ่งต้องทุ่มเทใกล้ชิด เธอและน้องชายน้องสาวอีก 2 คน ต้องดูแลกันเอง
“กลับมาจากโรงเรียนก็เลี้ยงน้อง บ้านของเราอยู่บริเวณเดียวกับโรงงาน พ่อแม่ก็อยู่ในโรงงานนั่นแหละ ส่วนพวกเราเด็กๆ ก็ทำการบ้านคอยฟังเหมือนเหินห่าง แต่พ่อกับแม่ก็อยู่ใกล้ๆ เดี๋ยวก็เจอกันนั่นแหละ เพียงแต่ไม่ค่อยได้ใช้เวลาด้วยกัน” สุพินดาเล่า
แตกต่างจากปัจจุบันที่เธอและมารดากลับกลายเป็นคู่ซี้ เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปสมัยเรียนจบจากอังกฤษ หลังทำปริญญาโทด้านบริหารและการตลาด University of Bath, UK. MSc Management with Marketing สุพินดาเดินทางกลับ ทั้งที่ตั้งใจจะทำงานหาประสบการณ์ก่อน แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น
“ช่วงที่กลับมา สวนผึ้งบูมมาก ก็คิดว่ารีสอร์ตเดิมมีอยู่ นำมารีโนเวตใหม่น่าจะได้ สำรวจตลาดเองเลย และคิดว่าทำได้แน่” สาวน้อยเล่า
ตัดสินใจแล้วลุยเลย รีสอร์ตเก่าของครอบครัวชื่อทรัพย์คณา ถูกปรับโฉมใหม่ทั้งภูมิทัศน์และธีมการตกแต่ง จากรีสอร์ตแบบครอบครัวก็กลายมาเป็นรีสอร์ตไม้ดอกในสไตล์และกลิ่นอายของอังกฤษ ชื่อเปลี่ยนใหม่ล้อกับสวนอีเดน ที่เหมาะเจาะและลงตัวไปหมด (www.edengardenresort.com)
2 ปีที่ผ่านมา เธอลุยงานเต็มที่ วันนี้รีสอร์ตเริ่มอยู่ตัวและเดินได้อย่างมั่นคง ผู้คนตอบรับรีสอร์ตแนวอิงลิช คอตเทจของเธอไม่น้อย ซึ่งก็ภูมิใจมากๆ หากเหนืออื่นใดคือมารดา
“ตอนจบปริญญาตรี ศิลปศาสตร์ ที่ธรรมศาสตร์ ตอนนั้นได้เกียรตินิยมอันดับ 2 แต่แม่ก็ยังเฉยๆ จนมาถึงตอนที่เราทำสวนอีเดนสำเร็จ พอเราทำจริงๆ เราก็ทำได้ เขาก็เหมือนว่าภูมิใจกับเรา” พอแม่เปิดใจพูด กำแพงก็ค่อยๆ ทลายลง
ยิ่งกว่านั้นคือผลพลอยได้ความใกล้ชิด เพราะเมื่อได้คลุกคลีทำงานด้วยกันที่รีสอร์ต คุณแม่ซึ่งเป็นที่ปรึกษาก็ไปด้วยกันทุกที่ อาจจะเพราะห่วงด้วย (ห่วงธุรกิจหรือห่วงลูกสาวคะคุณแม่)
“ทุกวันนี้เราไปไหนไปด้วยกัน เพราะแม่ขับรถไม่เป็น ไปไหนก็ต้องกับอุ๋ยนี่แหละ” สุพินดา เล่ายิ้มๆ
เจออะไรใหม่ๆ จะเลือกมาคุยกับแม่ เอาประสบการณ์ของแม่และความคิดริเริ่มของเรามาผสมกัน ผสมผสานระหว่างสองเจเนอเรชัน แม่เป็นคนหัวสมัย ชอบทำอะไรใหม่ๆ นิสัยนี้ส่งผ่านให้เธอด้วย สองแม่ลูกหากมีเวลาว่าง ไม่พ้นจะพากันไปหาคลาสเรียนอะไรสนุกๆ ตั้งแต่ทำอาหาร วาดรูป ทำเทียน
“แม่เป็นคนเลือกคลาสให้ด้วยซ้ำค่ะ ไปเรียนด้วยกันบ่อยๆ” สุพินดา เล่า
สุดท้ายแล้วแม่เธอว่า ชีวิตเป็นของเรา ทุกอย่างที่ลูกทำ ทุกอย่างที่แม่พยายามให้ลูกเป็น แต่ที่สุดแล้วก็คือลูก ที่เป็นคนได้
“ที่ผ่านมาเขาอาจทำงานเหนื่อย ไม่ได้เลี้ยงเราเท่าที่ควร แต่สุดท้ายเมื่อเราเป็นตามที่เขาหวัง...แม่ก็ปลื้ม ลูกก็ปลื้มค่ะ”