ใครจะหยุด...กำปั้นปาเกียว

ถนนหนทางในกรุงเทพฯ ช่วงเช้าวันอาทิตย์

 
โดย...พิธานอนันต์ พูลสมบัติ

ถนนหนทางในกรุงเทพฯ ช่วงเช้าวันอาทิตย์ ส่วนใหญ่การจราจรมักจะไม่ค่อยจอแจหรือมีรถยนต์พลุกพล่านนัก แต่เชื่อว่าเช้าวันนี้ถนนจะยิ่งโล่งกว่าปกติ เพราะมีการถ่ายทอดสดคู่มวยหยุดโลก “แมนนี ปาเกียว VS เชน มอสลีย์” ทางช่อง 7 สี ซึ่งทำศึกกำปั้นกันที่ลาสเวกัส, สหรัฐ ช่วงกลางคืนวันที่ 7 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น

ปาเกียว ขึ้นป้องกันแชมป์รุ่นเวลเตอร์เวต องค์กรมวยโลก (WBO) พร้อมกับมุ่งหน้าสร้างสถิติต่อยอด 6 ปีที่ไม่แพ้ใครต่อไป หลังพบกับความปราชัยครั้งล่าสุดตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. 2005 โดยปาเกียว พ่ายคะแนน เอริก โมราเลส (เม็กซิโก) แชมป์รุ่นเฟเทอร์เวต 130 ปอนด์ในขณะนั้นแบบไม่เอกฉันท์ หลังมีแผลแตกจากอุบัติเหตุหัวชนกันในยกที่ 5

การชกครั้งนี้ “แพ็คแมน” ปาเกียว ดีกรีแชมป์โลก 8 รุ่น ได้รับการการันตีค่าเหนื่อยถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 600 ล้านบาท) ขณะที่ “ชูการ์ เชน” มอสลีย์ อดีตแชมป์โลก 3 รุ่น จะได้รับประมาณ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 150 ล้านบาท) โดยทั้งสองฝ่ายต่างมั่นใจว่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะในไฟต์นี้

อย่างไรก็ตาม จากการชั่งน้ำหนักครั้งล่าสุดต่อหน้าผู้ที่สนใจเข้ามาติดตามดูถึง 6,500 คน ณ การ์เดน อารีนา ในเอ็มจีเอ็ม แกรนด์ โฮเต็ล ที่ลาสเวกัส เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ปาเกียว เจ้าของสถิติชนะ 52 (น็อก 38) แพ้ 3 เสมอ 2 มีน้ำหนักตัว 145 ปอนด์เท่านั้น ขณะที่ มอสลีย์ ชนะ 46 (น็อก 39) แพ้ 6 เสมอ 1 ชั่งได้ 147 ปอนด์เต็มพิกัดรุ่นพอดี

สำหรับการแถลงข่าวของมวยคู่นี้ค่อนข้างเรียบง่าย ต่างมีหน้าตายิ้มแย้มด้วยกันทั้งคู่ ไม่หวือหวา ปะทะคารม ประจันหน้าหาเรื่องกัน หรือทำราวกับจะชกกันนอกสังเวียน เหมือนกับหลายๆ คู่ที่เราเคยเห็น โดยทั้งคู่ต่างเคารพซึ่งกันและกัน

“รู้สึกยินดีที่ก่อนชกไม่มีสงครามน้ำลาย หรือการปะทะกันนอกเวที ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเด็กๆ ที่กำลังมองนักมวยเป็นแบบอย่าง ผมกำลังรอที่จะขึ้นชกกับมอสลีย์เพื่อแฟนๆ และแน่นอนผมจะไม่ประมาท มันไม่ใช่งานง่ายแน่ เขา (มอสลีย์) มีหมัดและฟุตเวิร์กที่ดี เหมือนกับยังอายุแค่ 31-32 เท่านั้น” ปาเกียว ที่ไร้ปราชัยมาถึง 6 ปี โดยชนะมา 13 ไฟต์รวด กล่าว

นอกจากนี้ ยอดมวยตากาล็อกยังถ่อมตัวอีกด้วยว่า มอสลีย์เป็นนักมวยที่แข็งแกร่งกว่าและดีกว่าเขา รวมทั้งยังมุ่งมั่นซ้อมมาอย่างหนักเพื่อไฟต์นี้

ด้านมอสลีย์ซึ่งเป็นรองด้านความหนุ่มแน่น แถมผลงาน 5 ไฟต์ล่าสุด ชนะ 2 แพ้ 2 เสมอ 1

ทำให้หลายคนมองว่าน่าจะพ้นช่วงพีกของการเป็นยอดนักชกไปแล้ว แต่เขาก็มั่นใจว่าฟิตหนักที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียว หลังมีโอกาสดีๆ แบบนี้ และก็ยืนยันมุ่งมั่นให้ได้รับการชูมือซะก่อน ถึงค่อยมาว่ากันว่าใครเป็นรอง

“ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องนั้น ผมเคยเป็นมวยรองมาหลายไฟต์แล้ว ผมใช้ชีวิตพร้อมกับดูแลสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ รวมทั้งยังมีความกระตือรือร้นตลอดเวลา แม้ผมไม่ได้ชกมวยก็ยังดูหนุ่มกว่าวัย” มอสลีย์ กล่าว

ทั้งนี้ นับเป็นการขึ้นสังเวียนครั้งแรกของปาเกียว หลังจากเอาชนะคะแนน อันโตนิโอ มาการ์ริโต (เม็กซิโก) แบบขาดลอย แย่งแชมป์รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวต สภามวยโลก (WBC) มาครอง พร้อมกับเป็นเข็มขัดแชมป์โลกเส้นที่ 8 เมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่ไฟต์ล่าสุดของมอสลีย์ คือ การเสมอกับ แซร์จิโอ โมรา (เม็กซิกันอเมริกัน) ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2010

 

n2 เทรนเนอร์โวแทนนักมวย

เฟรดดี โรช ยอดเทรนเนอร์ชาวอเมริกันของปาเกียว ออกมากระตุ้นให้ลูกศิษย์ของเขาพยายามเอาชนะน็อกมอสลีย์ให้ได้ เพื่อตอกย้ำให้ชาวโลกรู้ว่าปาเกียวเหนือกว่าฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ เยอะ แม้จะไม่ได้ชกกันซะที เพราะเมย์เวเธอร์ นักมวยอเมริกันที่ยังไม่รู้จักคำว่าแพ้ เคยเอาชนะมอสลีย์ได้แค่คะแนนเท่านั้น

“เราไม่ได้ตั้งเป้าไว้ที่การชนะน็อกในไฟต์นี้ แต่ถ้ามีโอกาสปาเกียวต้องรีบจัดการเผด็จศึกทันที เพราะไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับมอสลีย์ได้มาก่อน หากคุณทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ มันเหมือนบทพิสูจน์ว่าคุณสุดยอดกว่าคนอื่นๆ ผมอยากให้ปาเกียวพิสูจน์ให้เมย์เวเธอร์ได้เห็นกันชัดๆ” โรช กล่าว หลังคุมปาเกียวซ้อมหนักเหมือนเมื่อครั้งขึ้นพิสูจน์ฝีมือกับ “สุดหล่อ” ออสการ์ เดอ ลา โฮยา เมื่อ 3 ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ โรช ยังเสริมอีกว่า ปาเกียวซ้อมมาเยี่ยมมาก ไม่เคยเห็นสภาพร่างกายสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อนเลย เพราะรู้ดีว่าต้องเจอคู่ชกอย่างมอสลีย์ที่ทั้งหนัก ไว ฉลาด แถมประสบการณ์สูง

ด้าน นาซีม ริชาร์ดสัน เทรนเนอร์ของมอสลีย์ ก็มั่นใจในความเก๋าและพลังหมัดของนักมวยตัวเอง เพราะตัวใหญ่ธรรมชาติ ส่วนปาเกียวรูปร่างเตี้ยกว่า และต้องเพิ่มน้ำหนักขึ้นมาชกอยู่เสมอ

“เชนมีประสบการณ์จากไฟต์ใหญ่ๆ มากกว่า แถมมีทั้งพลังหมัดและความเร็วอีกด้วย และหากเชนเริ่มชกมวยอาชีพตั้งแต่อายุ 16 ปี (เหมือนปาเกียว) ก็คงกลายเป็นแชมป์โลกตั้งแต่รุ่น 112 ปอนด์ (ฟลายเวต) แล้วเช่นกัน ผมจึงไม่เห็นจะประทับใจอะไรเลย เมื่อมีคนบอกว่าปาเกียวเริ่มชกมาจากรุ่น 106 ปอนด์ก่อนขึ้นมาอยู่จุดนี้”

ริชาร์ดสัน ยังบอกอีกว่า มอสลีย์เป็นนักมวยที่มีไอคิวสูง และเมื่ออายุมากขึ้นก็สามารถปรับตัวเองให้เหมาะสมกับอายุได้ จึงมั่นใจว่าด้วยทักษะที่ดีของนักชกอเมริกันจะสามารถปรับตัวและสไตล์การชก เพื่อรับมือกับนักมวยฟิลิปปินส์ได้แน่ ไม่ว่าปาเกียวจะมาแผนไหนก็ตาม

nคู่ชกรายต่อไปของปาเกียว

หากไฟต์นี้ปาเกียวยังคงไร้เทียมทาน รักษาแชมป์เอาไว้ได้ แล้วใครล่ะจะเป็นคู่ต่อกรคนต่อไป ถ้าไม่ใช่พวกเหยื่อเดิมๆ ที่หวังแก้มือพร้อมรับเงินก้อนโต เพราะ ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ ก็ติดคดีทำร้ายร่างกาย ไม่รู้จะรอดรึเปล่า หรือถึงรอด ก็คงอีกนานทีเดียวกว่าจะได้ตะบันกันให้รู้ฝีมือ

คนแรกที่น่าสนใจ คือ อาเมียร์ ข่าน (อังกฤษ) แชมป์รุ่นไลต์เวลเตอร์เวต สมาคมมวยโลก (WBA) วัย 24 เจ้าของสถิติ ชนะ 25 (น็อก 17) แพ้ 1 ส่วนอีกคน คือ ซาอูล อัลวาเรซ (เม็กซิโก) แชมป์รุ่นไลต์มิดเดิลเวต สภามวยโลก (WBC) ที่ยังแพ้ไม่เป็น โดยมีสถิติ ชนะ 36 (น็อก 26) เสมอ 1

ข่าน นักชกถิ่นผู้ดีเชื้อสายปากีสถาน เคยปากดีออกมาโม้ลั่นว่า ตัวเขามีทั้งพลังหมัดและสปีดหมัดที่ดีกว่าทั้งปาเกียว และเมย์เวเธอร์ ซะอีก แต่ช่วงหลังกลับเสียงเอื่อยๆ ว่าคงยังไม่ชกกับปาเกียวในช่วงนี้ ก็ไม่แน่ ถ้าผู้จัดเสนอเม็ดเงินก้อนมหาศาล ก็อาจเป็นไปได้

ขณะที่ อัลวาเรซ เคยถึงกับประกาศว่าปีหน้าจะขอสางแค้นให้นักมวยแดนจังโก้ด้วยกัน ที่ต่างตกเป็นเหยื่อกำปั้นของปาเกียวมาแทบจะล้างคอกเลยทีเดียว แต่วัยห่างกันตั้ง 1 รอบ (12 ปี) ไม่รู้จะเจอกันตอนที่ยังพีกด้วยกันทั้งคู่รึเปล่า

“แน่นอนผมอยากจะล้างแค้นให้บรรดายอดนักชกเม็กซิกันหลายต่อหลายคนที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับปาเกียว แต่กว่าผมจะได้ชกกับเขา อย่างเร็วที่สุดคงเป็นปี 2012” อัลวาเรซ กล่าว

ทั้ง 2 คนนี้ถือว่าห่างจากปาเกียวแค่คนละรุ่น โดยข่าน เบากว่า 1 รุ่น ส่วนอัลวาเรซ หนักกว่า 1 รุ่น เรื่องน้ำหนักตัวที่ปาเกียวจะชกด้วยคงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด คงต้องติดตามดูกันต่อไป

ว่าแต่ว่า ปาเกียวจะผ่านมอสลีย์ในวันนี้รึป่าว