ณัฐา เลิศทัศนวงศ์ ทายาทรุ่น 2 ร้านตัดสูทแบรนด์ดัง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เครื่องแต่งกายที่หรูเลิศ คัตติงเนี้ยบ

โดย.. วราภรณ์

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เครื่องแต่งกายที่หรูเลิศ คัตติงเนี้ยบ ก็ช่วยส่งเสริมบารมีให้ผู้สวมใส่ดูโก้หรูสมฐานะ เปิ้ลณัฐา เลิศทัศนวงศ์ ผู้บริหารสาวทายาทรุ่นที่ 2 World Group ร้านตัดสูทชื่อดังที่มีช่างตัดฝีมือประณีตจนดึงดูดใจนักท่องเที่ยวแขกบ้านแขกเมืองระดับประมุขของประเทศ อาทิ กษัตริย์ตองกา สวีเดน จอร์แดน บาห์เรน บรูไน หรืออดีตนักร้องชื่อก้องของเมืองไทยอย่าง อำพล ลำพูน ก็รู้ดีถึงข้อนี้ และเปิ้ลเองก็เข้ามาช่วยสานต่อธุรกิจและยังคงเน้นการให้บริการตัดเย็บสูทที่คัตติงเป็นเลิศ โดยเธอนั่งบริหารประจำอยู่ที่ร้านเวิลด์กรุ๊ป (World Group) ตั้งอยู่ใกล้ๆ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ

สาขานี้ตั้งอยู่ที่นี่มานานกว่า 40 ปี และให้บริการแขกระดับไฮเอนด์ที่พักอยู่ในโรงแรมได้แวะเวียนไปตัดสูทอยู่บ่อยๆ บางคนตัดสูทครั้งละ 10 ชุดก็มี

ปัจจุบัน ณัฐาเข้ามาช่วยคุณพ่อคุณแม่บริหารงานนาน 10 ปีแล้ว โดยรั้งตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ผู้บริหารรุ่น 2 เปิดฉากเล่าว่า ร้านตัดสูทที่คุณพ่อคุณแม่ช่วยกันบุกเบิกและวางรากฐานจนแข็งแกร่งและขยายธุรกิจออกไปอีก 5 ร้าน ที่จับกลุ่มเป้าหมายแตกต่างกัน และขยายไลน์มาตัดเย็บเสื้อผ้าสุภาพสตรีด้วย โดยหนึ่งร้านอยู่บนถนนเจริญกรุง อีกหนึ่งร้านอยู่ในโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล อีกหนึ่งอยู่ที่ออล ซีซั่น ถนนวิทยุ และใกล้ๆ โรงแรมแชงกรีลา

“เปิ้ลคลุกคลีกับธุรกิจของคุณพ่อคุณแม่มาตั้งแต่เด็ก ยุคแรกคุณพ่อตัดสูทให้ทหารสหรัฐที่เข้ามาทำงานในเมืองไทย เราจึงเน้นลูกค้าต่างชาติเป็นหลัก พอเรียนจบด้านธุรกิจระหว่างประเทศจากเอแบค เปิ้ลก็เข้ามาช่วยบริหารงานเลย แต่การบริหารร้านเสื้อผ้าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเต็มไปด้วยรายละเอียดปลีกย่อยเยอะ

เรื่องคัตติงเราจะให้ความสำคัญ เราจะแบ่งช่างออกเป็นแผนกๆ เช่น ช่างตัดเย็บซับใน ช่างตัดกางเกง ช่างเย็บ ช่างเสื้อเชิ้ต ช่างติดกระดุม การทำงานด้านการตัดเย็บทุกอย่างต้องละเอียดประณีต ต้องรวดเร็ว เพราะแขกมาพักที่โรงแรม 23 วันก็ต้องกลับประเทศ เราก็ต้องตัดเย็บทั้งประณีต เร็ว ต้องหาวัสดุเนื้อผ้า จึงเป็นงานที่ละเอียด จุกจิก แล้วยังต้องดิวกับคนเยอะ เลยมีปัญหาต้องแก้ไขอยู่เสมอ”

เหล่าคนดังๆ ก็มักพิถีพิถันในการเลือกช่างเสื้อผ้าประจำตัวของเขาเหมือนกัน ณัฐา เล่าว่า อย่างกษัตริย์ตองกามาเป็นลูกค้าตั้งแต่ยังดำรงตำแหน่งเป็นมกุฎราชกุมารอยู่เลย จึงมีความผูกพันกันค่อนข้างมาก และต่างรู้สึกชื่นชมในผลงานการตัดเย็บของช่างที่ร้าน

“ลูกค้าส่วนใหญ่มักชอบที่การตัดเย็บเสื้อสูทของทางร้านมาก เพราะช่างที่เก่งจริงๆ จะสามารถตัดเสื้อนอกได้เข้ากับรูปร่างของผู้สวมใส่ สูทตัดกับสูทสำเร็จรูปจริงๆ แล้วไม่เหมือนกัน สูทที่สั่งตัดจะช่วยแก้ไขจุดบกพร่องของตัวเรา เช่น บางคนไหล่ลาดเทไม่เท่ากัน หรือคนที่หลังค่อม เวลาใส่เสื้อสำเร็จด้านหน้าก็จะทิ่มลง ด้านหลังก็เชิดขึ้น แต่ช่างตัดจะสามารถช่วยแก้ได้หมด อย่างบางคนแขนยาวไม่เท่ากัน หลังค่อม หรือมีพุง การวัดตัวตัดจะช่วยแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้ได้ ทำให้ผู้สวมใส่มีความมั่นใจ

ที่สำคัญคือ การดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ ไม่เอาเปรียบลูกค้า จึงเป็นที่ไว้วางใจและกลับมาใช้บริการอยู่เสมอ” แม้ณัฐาศึกษาจบด้านการตลาด ไม่ค่อยถนัดด้านตัดเย็บ แต่ณัฐาก็มีความสุข เพราะเธอชอบแฟชั่นและติดตามสไตล์การแต่งกายของสุภาพบุรุษจากแมกกาซีนทั้งไทยและหัวนอกอยู่เป็นประจำ เธอบอกถึงเทรนด์ของเสื้อสูทว่า ปีนี้ลายสก็อตตาใหญ่ๆ 2 กระดุมกำลังมาแรง

“เสื้อสูทก็มีแฟชั่น สมัยก่อนสูทจะเป็นสีเรียบๆ ดำ น้ำเงิน คนไทยนิยมใส่สีพื้น ไม่ค่อยชอบมีลูกเล่น แต่ปัจจุบันสูทดูมีลูกเล่นมากขึ้น ถ้าแบบเป็นทางการหน่อยเสื้อกับกางเกงเนื้อผ้าเดียวกัน ผูกไท ก็จะดูเป็นลุคนักธุรกิจ แต่หากอยากดูลำลองก็จะเลือกสวมสูท เสื้อยืด เข้ากับกางเกงยีนส์ ผู้ชายยุคนี้กล้าแต่งตัวมากขึ้น เสื้อสูทมีสีสัน ตอนนี้ผู้ชายนิยมมาตัดทักซิโดเพื่อเป็นชุดแต่งงานกันเยอะ แสดงว่าผู้ชายช่างแต่งตัวมากขึ้น เปิ้ลจะมีความสุขมากกับการช่วยเลือก ช่วยแนะนำสุภาพบุรุษที่กำลังจะตัดชุดแต่งงาน เราก็ต้องถามว่า เจ้าสาวจะแต่งตัวเป็นอย่างไร เพื่อช่วยออกแบบให้เสื้อผ้าแมตช์กัน เวลาลูกค้าออกมาหล่อดูดี เราก็มีความสุข” ณัฐา เลิศทัศนวงศ์ ผู้บริหารสาวทายาทรุ่นที่ 2 World Group เล่าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม