เทรนด์ฮิต รู้จักมิกซ์แอนด์แมชท์ ให้แตกต่าง
ในปัจจุบัน การติดตามเทรนด์ การอัพเดทแฟชั่นใหม่ๆ จากทั่วโลกยิ่งทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นอย่างมาก
ในปัจจุบัน การติดตามเทรนด์ การอัพเดทแฟชั่นใหม่ๆ จากทั่วโลกยิ่งทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นอย่างมาก
โดย..วราภรณ์ ผูกพันธ์
แบรนด์เสื้อผ้าเครื่องประดับ “เวิร์คช็อป” จึงชวนสาวๆ รุ่นใหม่ มาค้นหาสไตล์ที่เหมาะสม เพื่อมิกซ์ แอนด์ แมทช์ และแต่งตัวให้ดูดีโดยไม่ทิ้งความเป็นตัวของตัวเองในช่วงเทศกาลสปริงซัมเมอร์ 2011 ในงาน “See Through Your Style” ณ Main Hall ชั้น M แผนกเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
มิกซ์แอนด์แมชท์ให้ลงตัว
ธนพร ธนากิจอำนวย แบรนด์แมเนเจอร์ Workshop แนะวิธีเลือกเสื้อผ้ามา “มิกซ์ แอนด์ แมทช์” ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองที่สุด เหมาะสำหรับคนที่อยากจะสวยแบบไม่ซ้ำใคร และไม่ตกเทรนด์แฟชั่น การแต่งกายที่ดูดีนั้นไม่ใช่ตามแฟชั่นจ๋าแล้วจบ แต่ต้องดูสิ่งที่เหมาะกับคาแรกเตอร์ของเรา ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะ
ศิโรจน์ขยายความถึง 5 คอนเซปท์ 5 สไตล์ของ Workshop ให้เข้าใจง่ายขึ้น ว่า “แคชชวล” คือ เป็นลุคที่ใส่ง่ายสบายๆ เช่น เสื้อยืดที่มีดีเทล กับกางเกงยีนส์ “เวิร์คกิ้ง” จะเป็นแบบ เซมิเวิร์คกิ้ง คือคนที่เพิ่งเรียนจบและเพิ่งเริ่มทำงาน อยากดูเรียบร้อยแต่ไม่สูงอายุเกินไป ก็นำความเป็นแคชชวลมาปรับใช้ได้ “ วินเทจ” เป็นเทรนด์ที่คนนำเสื้อเก่ามาปรับใช้ใหม่ ยังคงมาแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง “เดนิม” สำหรับผู้หญิงที่มีความแคชชวล และไม่ชอบสไตล์หวานมาก แนะนำให้ใส่กางเกงยีนส์ โดยเลือกจากรูปทรง แล้วเปลี่ยนเฉพาะท่อนบนก็ได้ และ เดอะ บล็อก ซึ่งเป็นศัพท์ที่ใช้ในอินเตอร์เน็ต หมายความว่า เสื้อผ้าในเซ็ตนี้มีการอัพเดทตลอดเวลา เป็นเฟชั่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแคทวอล์ก แต่นำมาปรับเพื่อให้ใช้งานได้จริง และเหมากับประเทศไทยมากขึ้น
สปริงซัมเมอร์ 2011 อะไรฮิต
“การมิกซ์แอนด์แมทช์ในสไตล์ ของ Workshop จะเน้นทุกอย่างทั้งเสื้อผ้า ผ้าพันคอ กระเป๋า รองเท้า และเครื่องประดับ ถ้าผู้หญิงคนนึงจะแต่งตัว จะต้องไม่ใช่สวยแค่ชุด แต่ต้องมีแอคเซสเซอรี่ที่เข้ากับสไตล์ แต่ว่าต้องนำมาประยุกต์ใช้ให้สนุกมากขึ้น วิธีที่ฉลาดในการแต่งตัว และเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์เลย ก็คือ การเลือกและปรับใช้บางชิ้น ให้เข้ากับกับสิ่งงที่เรามี ทำให้ดูเป็นสไตล์เราและยังประหยัดอีกด้วย” ศิโรจน์บอก และบอกต่อว่า เครื่องประดับที่ได้รับความนิยมมาก ๆ คือ ผ้าพันคอ เพราะผ้าพันคอแค่ผืนเดียวสามารถเปลี่ยนผู้หญิงได้หลายลุคมาก เช่น ถ้าทำงาน ก็ใช้พัน หรือคลุมไหล่เวลาอยู่ในห้องแอร์ เวลาไปข้างนอก แค่ใส่เสื้อกล้าม แล้วใส่ผ้าพันคอ ก็จะกลายเป็นเหมือนแอคเซสเซอรี่ชิ้นหนึ่ง และยังช่วยหลบแดดได้ การจับคู่ถือเป็นสิ่งสำคัญ
สำหรับ สปริงซัมเมอร์ปี 2011 นี้ Workshop ก็มี คีย์ ไอเท็ม ได้แก่ ไอเท็มลายริ้วสีสันสดใส, ลายดอกไม้แนววินเทจ, ไอเท็มแบบร็อคๆ สีดำ, ไอเท็มสีพื้นที่ฉูดฉาดได้ใจในสไตล์โมเดอร์นิสท์ โซลิด และ เดนิมแพทเทิร์นแปลกตา เน้นที่รายละเอียด ซึ่งทั้งหมด สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ได้ ตามสไตล์ของแต่ละคน
ศิโรจน์ เสริมอีกว่า หัวใจหลักในการเลือกเสื้อผ้ามามิกซ์แอนด์แมทช์ให้ใส่แล้วดูดีคือ ต้องดูวัตถุประสงค์ หรือโอกาสในการแต่งตัว แพราะจะทำให้เลือกเสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่ได้เหมาะสมมากขึ้น เช่น ถ้าใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น แล้วใส่รองเท้าแตะ ก็คงเหมาะกับการไปเดินจตุจักร แต่ถ้าจะไปเดินสยาม ก็ลองเลือกใส่รองเท้าส้นสูงให้เป็นดูเป็นแฟชั่นมากขึ้น หรืออาจเพิ่มผ้าพันคอบางเบา ถือกระเป๋าเก๋ๆ ก็สามารถไปเดินช้อปปิ้งในห้างได้โดยไม่ขัดเขิน”
“นอกจากจะดูในเรื่องของเทรนด์และสไตล์ของเราแล้ว การเลือกเสื้อผ้า ควรดูที่เนื้อผ้าด้วย เนื่องจากประเทศไทยอากาศร้อน ก็ควรเลือกเนื้อผ้าที่เป็นคอตต้อน ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี ส่วนเรื่องโทนสีก็เป็นสิ่งสำคัญ แค่เปลี่ยนสีท่อนบน หรือเปลี่ยนสีท่อนล่างแค่ชิ้นเดียวก็ทำให้ลุคดูเปลี่ยนไปได้เหมือนกัน อย่างซัมเมอร์นี้ ควรมีเสื้อผ้าสีสดๆ ติดไว้ในตู้เสื้อผ้าสักสี ไม่ได้กำหนดว่าเป็นสีอะไร เพราะทุกสีสวยหมด ขึ้นอยู่กับผู้ใส่ว่าจะมิกซ์อะไรให้เข้ากับอะไร ความจริงแฟชั่นไม่มีถูกหรือผิด อยากให้ทุกคนสนุกกับมัน พอสนุกแล้วก็จะเกิดความมั่นใจ และออกมาจากบุคลิกเราจริงๆ” ศิโรจน์ ทิ้งท้ายด้วยข้อควรรู้เกี่ยวกับแฟชั่นที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง