ช่อง5ปรับผังสู้ศึกปี'62 ชี้ปีหน้าทีวีดิจิทัลแข่งดุ
ช่อง 5 ปรับผังใหญ่ปีหน้า ลุยเพิ่มคอนเทนต์บันเทิงดึงผู้ชมเพิ่ม พร้อมหารายได้เสริมจากช่องทางออนไลน์ที่โตเท่าตัว
ช่อง 5 ปรับผังใหญ่ปีหน้า ลุยเพิ่มคอนเทนต์บันเทิงดึงผู้ชมเพิ่ม พร้อมหารายได้เสริมจากช่องทางออนไลน์ที่โตเท่าตัว
พ.อ.ชยุตรา เสริมสุข ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนารายการและรายได้ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก หรือ ททบ.5 ช่อง 1 เปิดเผยว่า ภาพรวมของทีวีดิจิทัลในปี 2562 คาดว่าจะมีความแข่งขันกันรุนแรงมากกว่าปีนี้ เห็นได้จากการที่ช่อง 3 และช่อง 7 ออกมาประกาศเปิดผังรายการใหม่ โดยเฉพาะละครไทยที่จะมีความ เข้มข้นมากขึ้น ซึ่งจากการแข่งขันที่รุนแรงดังกล่าว ทำให้ทางสถานีต้องมีการปรับผังรายการในปี 2562 ใหม่ เพื่อรับมือการแข่งขันที่รุนแรง
สำหรับผังรายการใหม่ที่ทางสถานีจะนำมาเสนอให้กับผู้ชมในปี 2562 นั้น ยังคงเป็นไปตามกฎระเบียบของสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ที่สถานีโทรทัศน์บริการสาธารณะจะต้องมีคอนเทนต์ข่าวและสาระความรู้ คิดเป็นอัตราส่วน 70% ส่วนที่เหลืออีก 30% เป็นคอนเทนต์บันเทิง ซึ่งบริษัทจะหันมาให้ความสำคัญมากขึ้น เพื่อให้ ททบ.5 ช่อง 1 มีคอนเทนต์ที่หลากหลายและดูแล้วไม่เครียดจนเกินไป
ทั้งนี้ ในส่วนของคอนเทนต์ใหม่ที่จะนำมาออกอากาศ ทางสถานีได้มีการแบ่งออกเป็น 5 หมวด ประกอบด้วย 1.หมวยรายการข่าว ซึ่งในปีหน้ายังคงเน้นจุดยืน "ถูกต้อง รวดเร็ว เป็นกลาง สร้างสรรค์" ด้วยรายการข่าวจำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย สนามเป้าเล่าข่าว เช้านี้ประเทศไทย เช้านี้มีแต่เรื่อง ช่อง 5 ข่าวเที่ยง ฮาร์ดคอ ข่าว 2019 ข่าวภาคค่ำ จับประเด็นข่าวร้อน ข่าวเด่นภาคดึก คุยข่าวเช้าวันหยุด เวทีข่าวสุดสัปดาห์ และทันข่าว
ด้านหมวดสาระและบันเทิง จะมีซีรี่ส์อินเดียใหม่เรื่อง นันทินี ม่านรักม่านประเพณี ละครไทยเรื่องกล่อมรัก ละครเรื่องอีเหี่ยน เดอะซีรี่ส์ ส่วนหมดสาระ ความรู้ และสุขภาพจะมีรานการรามาชาแนล หมวดกีฬา จะมีรายได้มวยลุมพินี และมวยไทยจตุลังคบาท หมวดอัตลักษณ์ จะมีละครเรื่อง ลูกผู้ชายหัวใจทองคำ เรื่องบังเกอร์วาไรตี้ และอีก 5 เรื่องที่จะทยอยนำมาออกอากาศในปี 2562
พ.อ.ชยุตรา กล่าวอีกว่า การหารายได้จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ช่องทางหลัก คือ 1.จากการขายโฆษณา 2.การจัดอีเวนต์ และ 3.การจัดรายการในรูปแบบต่างๆ ให้กับภาครัฐ ซึ่งรูปแบบของการขายจะเป็นการขายแบบแพ็กเกจ 50% และขายแบบแยก
นอกจากนี้ ทางสถานียังมีแผนจะหารายได้จากช่องทางออนไลน์เพิ่มเติม ภายหลังจากเข้าไปจับมือร่วมกับเฟซบุ๊ก ยูทูบ และอินสตาแกรม ได้ผลการตอบรับที่ดี เห็นได้จากการมีรายได้จากช่องทางออนไลน์ในปี 2561 นี้ที่เติบโตจากปี 2560 มากกว่า 1 เท่าตัว ซึ่งจากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าว ทำให้ทางสถานีมีแผนจะทำการตลาดในช่องทางออนไลน์เพิ่มเติม