สวยทรงคุณค่า “L’Oréal for the Future” พันธกิจความงามที่ดีต่อโลก
ลอรีอัล กรุ๊ป (L'Oréal Group) ต้องการพลิกโฉมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงมากกว่าที่เคยเป็นมาเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
ลอรีอัล กรุ๊ป ต้องการพลิกโฉมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงมากกว่าที่เคยเป็นมาเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยมีตัวอย่างเป้าหมายสำคัญได้แก่
- ภายในปี 2025 โรงงานและศูนย์กระจายสินค้าของลอรีอัลทุกแห่งต้องไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ (carbon neutral) ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้พลังงานทดแทน 100% โดยในปี 2021 ได้บรรลุเป้าหมายนี้แล้ว 58%
- ภายในปี 2030 พลาสติกใช้ในบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ลอรีอัลทั้งหมด 100% จะมาจากพลาสติกรีไซเคิล หรือ จากแหล่งวัสดุชีวภาพ โดยในปี 2021 ได้บรรลุเป้าหมายนี้แล้ว 21%
- ภายในปี 2030 จำนวน 95% ของส่วนผสมในสูตรผลิตภัณฑ์จะต้องเป็น biobased และมาจากแหล่งแร่ธาตุที่มีมากมายทดแทนได้ โดยในปี 2021 ได้บรรลุเป้าหมายนี้แล้ว 60%
- ภายในปี 2030 ส่วนผสมที่เป็น biobased สำหรับสูตรผลิตภัณฑ์ทั้ง 100% จะสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้และจะมาจากแหล่งยั่งยืน โดยในปี 2021 ได้บรรลุเป้าหมายนี้แล้ว 94%
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา โลกเผชิญกับความท้าทายทางด้านสิ่งแวดล้อมมากมาย ซึ่งเป็นปัจจัยใหญ่ที่ทำให้บริษัทหลาย ๆ แห่งเริ่มหันมาใช้นโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แน่นอนว่า ‘ลอรีอัล’ ก็เล็งเห็นถึงความสำคัญในจุดนี้ไม่แพ้บริษัทใด นำมาซึ่งภารกิจพลิกโฉมครั้งใหญ่
ยกระดับพันธกิจไปอีกขั้น
ลอรีอัลได้ยกระดับพันธกิจไปอีกขั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยมีมา ผ่านโครงการที่มีชื่อว่า “L’Oréal for the Future” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของบริษัทที่มีต่อวิสัยทัศน์ เป้าหมาย และความรับผิดชอบเพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ที่โลกกำลังเผชิญอยู่
โดยวางเป้าหมายใหม่ในปี 2030 ที่สามารถวัดผลกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ตามหลักการด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม (Science Based Targets initiative) พร้อมยกระดับแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญอีกสามจุด ได้แก่
- การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
- การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
- การใช้ทรัพยากรหมุนเวียน
ลอรีอัลไม่เพียงมุ่งลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรงเท่านั้น แต่ยังต้องการลดผลกระทบของกิจกรรมทั้งหมดทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับซัพพลายเออร์และผู้บริโภคของบริษัทฯ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจนั้นคำนึงถึงโลกที่มีทรัพยากรอยู่อย่างจำกัด และเป็นธรรมต่อชุมชนที่บริษัทฯ ทำงานด้วย
เป้าหมายที่กำหนดช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับผลกระทบโดยรวมที่เกิดขึ้นได้ และยังครอบคลุมห่วงโซ่มูลค่าทั้งหมดของบริษัท ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการจัดจำหน่าย ตลอดจนกระบวนการผลิตและการเสาะหาวัตถุดิบ
เคารพบริบทต่าง ๆ ของโลกใบนี้
บรรดานักวิทยาศาสตร์มีความเห็นพ้องต้องกันว่า การก้าวข้ามหรือไม่เคารพ ”บริบทต่าง ๆ ของโลกใบนี้” จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศที่ปลอดภัยของมวลมนุษย์ พันธกิจของบริษัทจึงเป็นการดำเนินงานภายใต้ขีดจำกัดดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น การปรับตัวให้เข้ากับโลกตามหลักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม กำหนดโปรแกรมการพลิกโฉมใหม่ในรูปแบบการดำเนินการภายในด้วยการใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบที่จะก่อให้เกิดผลพวงต่อความหลากหลายทางชีวภาพ แหล่งน้ำ สภาพอากาศ และทรัพยากรต่าง ๆ อันเนื่องมาจากกิจกรรมทั้งหมดของบริษัท พันธกิจนี้ถือเป็นการพลิกโฉมบริษัท เพื่อเคารพบริบทต่าง ๆ ของโลกใบนี้อย่างแท้จริง
เพิ่มศักยภาพให้กับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจสู่ความยั่งยืน
การนำลูกค้า ซัพพลายเออร์ และผู้บริโภคเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมดังกล่าวร่วมกัน ถือเป็นความรับผิดชอบของบริษัท ลอรีอัลจึงตั้งเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจงในประเด็นดังกล่าว และเชื่อมั่นว่าการเปิดทางให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าที่สอดคล้องกับคุณค่าของตนเองถือเป็นสิ่งที่สำคัญ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบริษัทจึงได้เปิดตัวเครื่องมือที่ช่วยสะท้อนภาพสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มต้นจากแบรนด์ในเครืออย่าง การ์นิเย่ ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าประเมินผลกระทบของผลิตภัณฑ์ที่ได้ซื้อไป เพื่อให้เกิดการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์อย่างยั่งยืน
แก้ปัญหาความท้าทายระดับโลก
ที่ผ่านมาสตรีเพศเผชิญกับความไม่สมดุลจากวิกฤตทางสังคมโลกมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงจากการตกงาน การสูญเสียรายได้ การเผชิญกับเหตุรุนแรงในประเทศ หรือแม้แต่ความรุนแรงทางเพศ ทางลอรีอัลมีความมุ่งมั่นตั้งใจสนับสนุนสิทธิสตรีมาโดยตลอด จึงกำหนดพันธกิจขึ้นใหม่เพื่อช่วยเหลือสตรีโดยเฉพาะ โดยบริษัทได้จัดตั้งกองทุนการกุศลมูลค่า 50 ล้านยูโร เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรและองค์กรการกุศลในท้องถิ่นที่มุ่งกำจัดความยากจน หรือช่วยเหลือผู้หญิงในแง่มุมด้านสังคมและหน้าที่การงาน พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแก่ผู้ลี้ภัยหญิงและหญิงทุพพลภาพ รวมถึงป้องกันและช่วยเหลือเหยื่อจากความรุนแรง
การแก้ปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศถือเป็นวาระเร่งด่วน ลอรีอัล ได้ทุ่มงบ 100 ล้านยูโร เพื่อจัดตั้งกองทุนที่มีชื่อว่า L’Oréal Fund for Nature Regeneration เพื่อรับมือกับผลกระทบและบรรลุเป้าหมายในการฟื้นฟูระบบนิเวศที่เสื่อมโทรมขนาด 1 ล้านเอเคอร์ รวมถึงดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ 15-20 ล้านตัน และส่งเสริมการสร้างงานใหม่อีกหลายร้อยตำแหน่งภายในปี 2030
โดยงบในส่วนนี้ได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 50 ล้านยูโรแรกจะใช้ไปเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศทางธรรมชาติที่ได้รับความเสียหายไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมของแหล่งน้ำและผืนป่า และอีก 50 ล้านยูโรจะมอบให้กับโครงการสนับสนุนด้านการเงินที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมสนับสนุนการพัฒนาโซลูชันและโมเดลธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรีไซเคิลและการบริหารจัดการขยะพลาสติก
การทำงานโครงการเพื่อความยั่งยืน “L’Oréal for the Future” ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ครอบคลุมทุกๆ แบรนด์ในเครือลอรีอัล จึงเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคที่ต้องการเลือกผลิตภัณฑ์ความงามที่ดีต่อโลก ในประเทศไทย ลอรีอัล มีทั้งหมด 15 แบรนด์หลากหลายกลุ่ม ได้แก่ ลอรีอัล ปารีส, การ์นิเย่, เมย์เบลลีน นิวยอร์ก, ลังโคม, ไบโอเธิร์ม, จิออร์จิโอ อาร์มานี, คีลส์, ชู อูเอมูระ, อีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์, อิท คอสเมติกส์, ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล, เคเรสตาส, ลา โรช-โพเซย์, วิชี่ และเซราวี