posttoday

สนช.ประเดิมชงออกกฎหมายคุมสื่อลามกอนาจารเด็ก

19 กุมภาพันธ์ 2558

สนช.เสนอ กม.คุมเข้มสื่อลามกอนาจารเด็ก มีไว้ในครอบครอง ผลิต นำเข้า มีโทษทั้งจำทั้งปรับ รัฐบาลขอพิจารณา 20 วันก่อน ส่งกลับให้ลงมติ

สนช.เสนอ กม.​คุมเข้มสื่อลามกอนาจารเด็ก มีไว้ในครอบครอง ผลิต นำเข้า มีโทษทั้งจำทั้งปรับ   รัฐบาลขอพิจารณา 20 วันก่อน ส่งกลับให้ลงมติ

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ประชุมสภานิติบัญญัติ(สนช.)  พิจารณาร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา  ​ที่ น.ส.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร สนช. กับคณะ เป็นผู้เสนอ โดย ​สาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้เพื่อ กำหนดให้ความผิดเกี่ยวกับการครอบครองสื่อลามกอนาจารเป็นความผิดเฉพาะการมีไว้ครอบครองเพื่อการค้า เพื่อการแจกจ่าย หรือเพื่อการแสดงอวดประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาหรือทำให้แพร่หลายด้วยประการใดๆ ประกอบการค้า หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการค้า โดยไม่ได้แยกประเภทของสื่อลามกอนาจารผู้ใหญ่และสื่อลามกอนาจารเด็ก

ทั้งนี้ การครอบครองสื่อลามกอนาจารผู้ใหญ่ ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่สามารถกระทำได้ แต่สื่อลามกเด็กเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ประกอบกับ การผลิตสื่อลามกอนาจารเด็กเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาชัดแจ้ง นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าว เป็นปัจจัยหนึ่งซึ่งก่อให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก สมควรที่จะกำหนดให้มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา

สำหรับกฎหมายฉบับนี้ ถือเป็นร่างกฎหมายแรกที่ทางสมาชิก สนช.เป็นผู้นำเสนอ​เข้าสู่การประชุมของ สนช. ​ โดยมีสมาชิก สนช. จำนวน 50 คน เป็นผู้ร่วมเสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยสาระสำคัญของร่างนี้ คือ กำหนดคำนิยามคำว่า 'สื่อลามกอนาจารเด็ก' ไว้ในมาตรา 1 ของประมวลกฎหมายอาญา กำหนดให้ผู้ใดที่มีวัตถุหรือสื่อลามกอนาจารของเด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไว้ในความครอบครอง  โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ​หากผู้ใดมีวัตถุหรือสื่อลามกอนาจารของเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไว้ในความครอบครอง ฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งกรณีการผลิต มีไว้ นำเข้า ส่งออกพาไปหรือทำให้แพร่หลายของสื่อลามกอนาจารของเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการค้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

น.ส.จินตนันท์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้พยายามผลักดันกฎหมายฉบับนี้ มา 8 ปี 4 รัฐบาล แต่ไม่สำเร็จ  มีประชาชนเข้าร่วมลงรายชื่อกว่า 2 หมื่นรายชื่อ  โดยหวังว่าเรื่องนี้จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ทั้งเรื่องการกำหนดนิยามสื่อลามกอนาจารให้ครอบคลุมกับเทคโนโลยีที่พัฒนาไปหลายสื่อและรูปแบบ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องเร่งแก้ไข

คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี สนช.​ อภิปรายว่า  เห็นด้วยกับหลักการกฎหมายที่การกำหนดให้ผู้ครอบครอง จำหน่ายผลิต ​ ให้มีมีโทษหนักกว่าสื่อลามกอนาจารผู้ใหญ่  แต่เห็นว่า​บทกำหนดโทษ มาตรา 4 เพ่ิมโทษจำคุกเป็นไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท นั้นอาจไม่สอดคล้องกับการวางหลักเกณฑ์เทียบเคียงที่ให้โทษจำคุก 1 ปี เท่ากับโทษปรับ​2 หมื่นบาท ดังนั้น หากเทียบกับโทษไม่เกิน 3 ปีโทษควรจะเป็น  6 หมื่นบาท หรือไม่ 

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.​ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม  แจ้งต่อที่ประชุมว่า การเสนอร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เป็น การเสนอของสมาชิกสนช. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 14 วรรค 5  ซึ่ง รัฐบาลอาจสามารถขอรับไปพิจารณาก่อน สนช.จะมีการลงมติพิจารณารับหลักการได้จึงจะขอฟังความเห็นจากตัวแทนรัฐบาลก่อน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า การเสนอขอแก้ไขกฎหมายอาญา ซึ่งถือเป็นกฎหมายหลักของประเทศ มีปัญหาที่จะต้องพิจารณาว่าจะกระทบกับกฎหมายเดิมที่มีอยู่แล้วหรือไม่ หรือตามเหตุผลที่เสนอร่างพ.ร.บ. ที่อ้างถึง อนุสัญญาสิทธิเด็กฯ นั้นจะต้องตรวจสอบให้ท่องแท้ว่าการจะอนุวัติเนื้อหาตามอนุสัญญาครบถ้วนหรือไม่ รวมทั้งจะต้องพิจารณาว่าซ้ำซ้อนกฎหมายเดิม  รวมทั้งอัตราโทษที่มีสมาชิกตั้งข้อสังเกตดังนั้น รัฐบาลจึงขออนุญาตนำกลับไปพิจารณา 20 วันนับจากวันที่ได้รับแจ้งและเสนอความเห็นกลับมายังสนช. ก่อนเข้าสู่การพิจารณารับหลักการต่อไป

Thailand Web Stat