คนคุกปัตตานีก่อเหตุจลาจล

นักโทษเรือนจำปัตตานีตีกันเองถึงขั้นจลาจลตาย3เจ้าหน้าที่ยังคุมสถานการณ์ไม่ได้ รองผู้ว่าฯรุดเรียกถกด่วน

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 ก.ย. ขณะที่นักโทษในเรือนจำกลางปัตตานีกำลังยืนเข้าแถวเคารพธงชาติ ได้มีกลุ่มนักโทษจำนวนกว่า 40 คน กำลังรุมทำร้ายนักโทษด้วยกัน ซึ่งเป็นนักโทษชั้นดีที่เจ้าหน้าที่เรือนจำได้แต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่เรือนจำ กว่า 5 คน จนต้องวิ่งหนีกระเจิงขึ้นไปยังหลังคาเรือนนอน แต่เกิดพลัดตกจากหลังคาเรือนนอน อาการสาหัส 3 คน จากนั้นนักโทษได้รุมทำร้ายซ้ำจนเสียชีวิต

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปนำนักโทษเคราะห์ร้ายดังกล่าวออกจากจุดเกิดเหตุได้ นอกจากนี้นักโทษที่ก่อเหตุได้บังคับให้เจ้าหน้าที่เรือนจำไปปล่อยนักโทษที่มาจากจังหวัดนราธิวาส และยะลา ให้เข้าร่วมกับกลุ่มผู้ก่อเหตุอีกด้วย ทำให้มีนักโทษเข้าร่วมก่อเหตุเกือบ 200 คน

บรรยากาศภายในเรือนจำล่าสุด กลุ่มนักโทษได้แบ่งเป็น 2 พวก โดยมีกลุ่มนักโทษที่ไม่เข้าร่วมก่อเหตุ ซึ่งอยู่แดนนอกมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมดูแล ส่วนนักโทษแดนในที่เข้าข่ายร่วมกันก่อเหตุจลาจล คาดว่ามีกว่า 800 คน จากนักโทษในเรือนจำทั้งหมดกว่า 1,200 คน ซึ่งนักโทษบางรายใช้ผ้าปิดหน้าปิดตาถือไม้เดินไปเดินมารอบๆ กำแพงด้านในเรือนจำ เจ้าหน้าที่ยังได้รับรายงานว่ากลุ่มนักโทษได้ทุบกำแพงด้านทิศตะวันตก คาดว่าจะเตรียมหลบหนี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เสริมกำลังจากโรงพักต่าง ๆ เพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์

ด้านนายอาวุธ สุวรรณโณ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดปัตตานี กล่าวว่าหลังได้รับแจ้งว่ามีนักโทษในเรือนจำก่อหวอดทะเลาะวิวาทกันเป็นกลุ่มใหญ่ จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เรือนจำ พร้อมแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำตรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองพร้อมชุดปราบจลาจล กว่า 300 นาย เข้ามายังที่เกิดเหตุเพื่อควบคุมสถานการณ์ แต่เนื่องจากภายในเรือนจำมีผู้ก่อเหตุเป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปภายในเรือนจำได้ มีเพียงเจ้าหน้าที่ของเรือนจำบางส่วนเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ต่อมาในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ เกิดเหตุจลาจลในเรือนจำ จ.ปัตตานี ได้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นนักโทษจำนวน 1 ราย ซึ่งตกจากหลังคาเรือนจำ และมีสาเหตุเบื้องต้นมาจากนักโทษทะเลาะกันเอง

อย่างไรก็ตามนักโทษภายในเรือนจำยังมีการต่อรองกับเจ้าหน้าที่ผู้คุมอยู่ ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจังหวัดปัตตานี นำโดยผู้ว่าราชการและทางตำรวจ ยังคงประชุมเครียดเพื่อแก้ไขสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง