เปิดร่างกฏหมาย 9 ฉบับ ครบ.ไฟเขียวเข้าสภา

21 กันยายน 2554

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ก.ย.

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ก.ย.

โดย...ทีมข่าวการเมือง

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ก.ย. มีประเด็นถกเถียงกันถึงการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ที่ค้างอยู่ในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ว่าสมควรจะไฟเขียวในรัฐบาลชุดนี้เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาต่อไปหรือไม่ อย่างไร โดย นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอว่า บรรดาร่างกฎหมายที่เคยผ่านที่ประชุมสภาวาระ 1 ควรเดินหน้าต่อไป ส่วนที่ไม่ผ่านก็ให้ตกไป

ทว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ทักท้วงว่า หากยึดหลักการของ นพ.สุรวิทย์ จะขัดมติ ครม. เมื่อวันที่ 6 ก.ย. เพราะมติ ครม.วันนั้น เห็นควรให้เจ้ากระทรวงไปหารือกับหน่วยงานตัวเองว่ามีร่างกฎหมายฉบับใดควรเดินหน้าต่อหรือยุติ ซึ่ง วิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข สนับสนุนแนวคิด ร.ต.อ.เฉลิม

เปิดร่างกฏหมาย 9 ฉบับ ครบ.ไฟเขียวเข้าสภา

ในที่สุด ครม.มีความเห็นว่าควรกำหนดกรอบการผลักดันร่างกฎหมายใหม่ 1.ให้รัฐมนตรีกลับไปหารือกระทรวงเพื่อยืนยันร่างกฎหมายกลับมาอีกครั้ง 2.ร่างกฎหมายที่ สส.เคยเสนอ 11 ฉบับ ซึ่งมีเนื้อหาคาบเกี่ยวกับภาคประชาชนเคยเสนอให้วิปรัฐบาลกลับไปพิจารณาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม นพ.สุรวิทย์ เสนอว่า ร่างกฎหมายที่ประชาชนเข้าชื่อเสนอมา 9 ฉบับ ก็ควรเห็นแก่ประชาชน ให้เดินหน้าโดยรัฐบาลยืนยันไปเลยซึ่งที่ประชุม ครม.ก็เห็นชอบตามนี้

ทางโพสต์ทูเดย์ตรวจสอบร่างกฎหมาย 9 ฉบับ มีดังนี้

1.ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข นำโดย สารี อ๋องสมหวัง กับประชาชนเสนอ

2.ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ที่ได้รับผลกระทบจากระบบบริการสาธารณสุข นำโดย อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล กับประชาชนเสนอ หรือที่เรียกกันว่า “ร่างกฎหมายมีดหมอ” ถือเป็นร่างกฎหมายร้อนที่ถกเถียงกันอยู่ขณะนี้ โดยเป็นความพยายามจากภาคประชาชนให้ออกกฎหมายได้รับการคุ้มครองความเสียหายจากบริการทางการแพทย์ แต่ก็ได้รับการต่อต้านจากบุคลากรทางการแพทย์อยู่ในขณะนี้ .

3.ร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุข นำโดย ไพศาล บางชวด กับประชาชน เสนอเป็นร่างกฎหมายที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือหมออนามัย ทำงานมีวิชาชีพรองรับ การให้บริการกับประชาชนจะเป็นไปตามมาตรฐานที่มีการกำหนดไว้ มีมาตรฐานวิชาชีพมาควบคุมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเช้าวานนี้ตัวแทนสาธารณสุขก็มายื่นหนังสือกดดันรัฐบาลให้ผ่านกฎหมาย

4.ร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพแพทย์แผนไทย นำโดย อร่าม อามระดิษ กับประชาชนเสนอเป็นร่างกฎหมายมุ่งยกระดับวิชาชีพแผนไทยให้มีสภาวิชาชีพเหมือนแพทย์ในปัจจุบัน คือจะต้องมีการขึ้นทะเบียนและจะมีสภาองค์กรวิชาชีพเป็นของตัวเอง ทั้งนี้เป็นการรักษาไว้ซึ่งวิชาชีพแพทย์แผนไทยไม่ให้สูญหายไป

5.ร่าง พ.ร.บ.องค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค นำโดย สารี อ๋องสมหวัง กับประชาชนเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นความพยายามให้มีการตั้งองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคใหม่ให้เป็นองค์กรอิสระ เพราะที่ผ่านมาการทำงานผ่านสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มักถูกวิจารณ์มีอำนาจแค่เสือกระดาษ อีกทั้งให้มีงบประมาณพร้อมจะคุ้มครองผลประโยชน์ประชาชน

6.ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย นำโดย ภูมิ มูลศิลป์ กับประชาชนเสนอเป็นร่างกฎหมายให้ประชาชนมีสิทธิเข้าชื่อเสนอกฎหมายให้คล่องตัวยิ่งขึ้นหลังจากที่เคยมีร่างกฎหมายลักษณะเดียวกันนี้เมื่อปี 2542 ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 แต่ก็ยังไม่ได้สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมีส่วนร่วมในการเสนอกฎหมายอย่างแท้จริง

7.ร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม นำโดย วิไลวรรณ แซ่เตีย กับประชาชนเสนอเป็นร่างกฎหมายเพื่อช่วยเหลือเรื่องแรงงานนอกระบบ ที่จะมีการประกันตนเองโดยที่มีรัฐสมทบเงินให้ด้วย

8.ร่าง พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล นำโดย สุธีรา วิจิตรานนท์ กับประชาชนเสนอเป็นร่างกฎหมายปรับโครงสร้างองค์กรปกครองส่วนตำบลใหม่ประเด็นหนึ่งคือ ปลดล็อกวาระดำรงตำแหน่งไม่ต้องมีวาระ

9.ร่าง พ.ร.บ.ตั้งจังหวัดฝาง นำโดย บดินทร์ กินาวงศ์ กับประชาชนเสนอ เป็นความพยายามของคนในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เห็นว่ามีความพร้อมหลายด้านทางภูมิศาสตร์ อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สมควรให้เป็นจังหวัดที่ 78 ของประเทศไทย

 

Thailand Web Stat