พนังกันน้ำพัง!!-เมืองนครสวรรค์จม

พนังกั้นน้ำนครสวรรค์พังกว่า 100 เมตร น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้าท่วมเขตเทศบาล ประชาชนอพยพโกลาหล 

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. พนังกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่นครสวรรค์ได้ส่งพังทลายลง ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมตัวเมืองอย่างรวดเร็ว โดยนายกเทศมนตรีเมืองนครสวรรค์ ได้สั่งให้เปิดสัญญาณไซเรนทั่วเมือง เพื่อให้เร่งอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ไปยังสถานที่พักพิงที่เทศบาลจัดเอาไว้ให้ทั้งหมด 5จุด ขณะที่บรรยากาศการจราจรรอบเมืองติดขัดอย่างหนัก โดยหลายจุดมีน้ำท่วมสูงเกิน1เมตร

สำหรับจุดที่น้ำทะลักเข้าตัวเมืองนครสวรรค์คือพนังกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งติดกับเขตเทศบาลเมืองนครสวรรค์ พบว่า พนังกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณตลาดลาว ถนนโกศรี เทศบาลนครนครสวรรค์ ได้ถูกกระแสน้ำกัดเซาะพังเป็นทางยาวกว่า 100 เมตร ทำให้น้ำทะลักเข้าสู่บริเวณตัวเมืองนครสวรรค์ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทหารส่วนหนึ่งต้องเร่งขนกระสอบทรายและหินเพื่ออุดรอยรั่วของพนังกันน้ำ แต่ไม่สามารถช่วยกันป้องกันการรั่วไหลได้ เนื่องจากมวลน้ำด้านนอกแนวกั้นมีความสูงกว่าแนวกั้นกว่า 2 เมตร และมีความเสี่ยงสูงที่พนังกั้นน้ำจะพังทลายเพิ่มมากขึ้นอีก 

ส่วนบรรยากาศในตัวเมืองยังเป็นไปด้วยความโกลาหล ประชาชนต่างพากันอพยพและขนย้ายทรัพย์สินไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยการจราจรในเมืองติดขัดไม่สามารถเข้าออกได้ เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูงอย่างรวดเร็วทำให้รถยนต์ไม่สามารถวิ่งได้ 

ทั้งนี้ กระแสน้ำเจ้าพระยาได้ไหลผ่านพนังกั้นน้ำ เข้าท่วมถนนโกศรี และเส้นทางน้ำกำลังไหลเข้าท่วม รพ.สวรรค์ประชารักษ์ เจ้าหน้าที่ทหาร ประมาณ 300-400นาย กำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยัง รพ.จิระประวัติ เป็นการชั่วคราวตามแผนรองรับที่เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ 

พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่3 ระบุ สถานการณ์น้ำใน จ.นครสวรรค์ขณะนี้รุงแรงมาก เจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านอพยพประชาชนไปยังศูนย์ที่จัดเตรียมไว้ 5 จุดใน บริเวณเทศบาลนครนครสวรรค์

ด้าน พล.ต.ต.ชฏิล พรหมไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครสวรรค์ กล่าวว่า ทางคณะตำรวจภูธรภาค 6  และตนได้สำรวจคันกั้นดินพังทลายยาวกว่า 100 เมตร และกระสอบทรายบริเวณดังกล่าวเสียหายต่อเนื่อง จากแรงของน้ำ และพบว่าน้ำก้อนดังกล่าวได้ไหลเข้าทะลักเข้าส่วนตัวตลาดเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ชั้นในเและขยายวงกว้าง

เรือชนพนังกั้นน้ำ-ตัดกระแสไฟตัวเมืองนครสวรรค์

อย่างไรก็ตามหลังจากที่พนังกั้นน้ำแห่งแรกได้พังลง ก็ได้เกิดอุบัติเหตุเรือชนพนังกั้นน้ำทำให้เกิดรอยรั่วเพิ่มขึ้นอีก2จุด คือ สะพานนิมมานรดี และป้อม1 ส่งผลให้น้ำเอ่อเข้าท่วมเขตเทศบาลอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เทศบาลต้องตัดกระแสไฟฟ้าภายในพื้นที่น้ำท่วมเพื่อป้องกันอุบัตเหตุ

นายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวว่า ได้จัดเตรียมศูนย์อพยพไว้ 5 จุด ประกอบด้วย สนามกีฬากลางจังหวัดนครสวรรค์ วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคเหนือ วิทยาลัยอาชีวะนครสวรรค์ โรงเรียนนครสวรรค์ 2 และวัดคีรีวงศ์ ซึ่งสามารถรองรับประชาชนได้กว่า 1 หมื่นคน

สำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยของโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์จะเคลื่อนย้ายไปที่สนามกีฬากลางจังหวัดนครสวรรค์เนื่องจากมีอาคารหลังคาปิดขนาดใหญ่สามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวนมาก

 อย่างไรก็ตาม น้ำที่ไหลเข้าท่วมจังหวัดนครสวรรค์จะไม่ไหลลงสู่ จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากมีเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท รองรับน้ำอยู่ ทั้งนี้ ศปภ.จะประกาศแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมก่อนเกิดเหตุ 7 ชั่วโมง แต่กรณีของจังหวัดนครสวรรค์เป็นเหตุสุดวิสัยจึงไม่สามารถประกาศแจ้งเตือนภัยทัน