บางกะปิซมพิษน้ำท่วมร้านค้ายอดหายวูบ
ความกังวลที่มีต่อสถานการณ์น้ำ ส่งผลใหย่านการค้าของบางกะปิต้องชะงักงันจากกำลังซื้อที่หดหายอย่างต่อเนื่อง
ความกังวลที่มีต่อสถานการณ์น้ำ ส่งผลใหย่านการค้าของบางกะปิต้องชะงักงันจากกำลังซื้อที่หดหายอย่างต่อเนื่อง
“บางกะปิ” จัดเป็นย่านที่มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่นและมีความพลุกพล่านทางเศรษฐกิจสูงที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร หากแต่ภาพความจอแจที่คุ้นเคยในวันนี้กลับดูเงียบเหงาไปถนัดตา ร้านรวงหลายแห่งเริ่มทยอยปิดหนีกระแสน้ำที่กำลังคืบคลานเข้าสู่พื้นที่ในเวลาอันใกล้ ความกังวลดังกล่าวส่งผลให้การหมุนของกงล้อทางเศรษฐกิจในพื้นที่อ่อนแรงลง ตกอยู่ในภาวะชะงักงันและรอวันแน่นิ่งไปกับสายน้ำ
วรรณา ภูลายเรียบ เจ้าของร้านมิ่งเมืองในตลาดแฮปปี้แลนด์ เล่าว่า ความตึงเครียดจากสถานการณ์น้ำท่วมในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลต่อธุรกิจค้าขายเสื้อผ้าของเธออย่างรุนแรง จากยอดขายที่เคยทำได้ 5-6 พันบาท/วัน กลับหดหายเหลือเพียงไม่ถึง 1 พันบาท ทำให้มีรายได้ไม่พอจ่ายค่าเช่าแผงในเดือนนี้
ผู้ค้ารายนี้วิเคราะห์ถึงยอดขายหดหายไป ว่าน่าจะมีสาเหตุหลักมาจากการที่คนพยายามออมเงินเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน อีกทั้งผู้คนในย่านบางกะปิล้วนเป็นคนต่างจังหวัด โดยเฉพาะจากภาคใต้ เมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้จึงมีคนเป็นจำนวนมากเลือกที่จะลี้ภัยกลับไปยังบ้านเกิดเป็นการชั่วคราว
“ช่วงนี้ป้างดติดตามข่าวน้ำท่วม ดูแต่ละครเพื่อคลายเครียด เพราะวันๆขายได้แค่ 3-4 ตัว เลยยังไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนค่าเช่าแผงเดือนนี้ หากจำเป็นก็ต้องใช้ทุนเก่าที่สะสมไว้หมุนเวียน แต่ถ้าน้ำท่วมนานก็ต้องหยุดขาย ตั้งแต่ขายของมาครั้งนี้ถือว่าลำบากและหนักที่สุด ” วรรณา ระบายความในใจ
พงศ์ธร กฤษวิ คนขับรถตู้โดยสารเส้นทาง เดอะมอลล์ บางกะปิ – ลาดกระบัง กล่าวในทำนองเดียวกันว่า ยอดผู้โดยสารในขณะนี้หายไปกว่าครึ่ง ทำให้มีรายได้เหลือเพียงวันละ 800-900 บาท จากที่เคยมีรายได้เฉลี่ยวันละ 2 พันบาท โดยนอกจากผลกระทบในแง่จำนวนคนที่ลดลงแล้ว ตนยังได้รับผลกระทบจากเส้นทางเดินรถที่เริ่มมีน้ำท่วมขังอีกด้วย ทำให้ต้องปรับมาใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ซึ่งไม่สามารถจอดรับผู้โดยสารรายทางได้แทน
“แม้ว่าบางกะปิน้ำยังไม่ท่วมเราก็อ่วมแล้ว เพราะวินรถตู้ที่นี่เป็นจุดต่อรถขนาดใหญ่ของคนย่านนี้ พอลาดพร้าว นวมินทร์ท่วมคนก็หายเลย บางเที่ยวมีคนเดียวสองคน นี่ถ้าน้ำมาถึงและท่วมสูงคงต้องหยุดวิ่ง รถพังไปไม่คุ้ม มี 2 คันที่ฝืนแล้วน้ำเข้าเครื่องต้องซ่อมใหญ่” พงศ์ธร กล่าว
วันดี พันธ์ชนะ เจ้าของร้านเครื่องประดับในเดอะมอลล์ บางกะปิ ก็ประสบชะตากรรมไม่ต่างกัน เมื่อยอดขายลดลงไปจากวันละหลายหมื่น เหลือเพียง 1 - 1.2 พันบาท เธอเล่าว่าสินค้าฟุ่มเฟือยในตอนนี้มีขายขายลดลงทุกชนิด แม้ว่าจะยังมีคนมาใช้บริการห้างสรรพสินค้าอยู่แต่ก็จะใช้จ่ายไปกับสินค้าประเภทอาหารเท่านั้น
“ที่บ้านตอนนี้ก็ท่วมแล้ว ก็ต้องลุยออกมาขาย จะกลับบ้านต่างจังหวัดเส้นทางก็ยังปิดอยู่ ฟังข่าวมาว่าอีก 3-4 วันน้ำจะท่วมบางกะปิทั้งหมด เพราะขณะนี้น้ำล้อมไว้ทุกทิศแล้ว แต่จะรอดูอีก 1-2 วัน ก่อนจะปิดร้าน”
นอกจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับธุรกิจร้านค้าต่างๆแล้ว กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในพื้นที่บางกะปิก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ จากการทยอยปิดร้านค้าของผู้ประกอบการชาวไทย
หลุยส์ รามัญ แรงงานต่างด้าวในศูนย์การค้าตะวันนา เปิดเผยว่า ร้านค้าในตะวันนาส่วนใหญ่จะใช้แรงงานต่างด้าวในการขนของและเฝ้าร้าน แต่ร้านค้าบางแห่งปิดหนีน้ำท่วมปิดหนีน้ำท่วมไปตั้งแต่เดือนที่แล้ว ทำให้แรงงานต่างด้าวบางส่วนก็เลือกที่จะกลับบ้านเป็นการชั่วคราวเพราะกลัวน้ำท่วมด้วยเช่นกัน แต่ร้านที่ตนทำงานอยู่ด้วยยังไม่ปิด ทำให้ยังมีงานทำและมีรายได้อยู่