ต้นน้ำคลองอู่ตะเภาใกล้จุดวิกฤตสั่งจับตาหลากถึงหาดใหญ่
กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัย ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ ในช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. 2554
กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัย ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ ในช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. 2554
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไปมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มริมน้ำบริเวณ จ.พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและน้ำล้นตลิ่ง
ทั้งนี้ โครงการชลประทานสงขลา กรมชลประทาน เฝ้าจับตาระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำในพื้นที่ต้นน้ำ ที่สถานีวัดระดับน้ำที่ ต.ม่วงก้อง อ.สะเดา จ.สงขลา สูงถึง 13.5 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) โดยระดับเฝ้าระวังคือ 16.40 ม.รทก. ซึ่งกระแสน้ำจะไหลถึงพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่ภายใน 16 ชั่วโมง โดยที่ระดับน้ำคลองอู่ตะเภาในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ปัจจุบันสูง 2.98 ม.รทก. ระดับเฝ้าระวังที่ 6.30 ม.รทก.
ขณะที่ จ.นครศรีธรรมราช ฝนตกหนักติดต่อกัน 3 วัน ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.เมือง พระพรหม พรหมคีรี และท่าศาลา สูงประมาณ 70 ซม. ขณะที่ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง เกิดคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำชายฝั่ง ทำให้ถนนหมู่บ้านพังชำรุดยาวนับ 100 ม. บ้านเรือนของชาวบ้านหมู่ 2 และหมู่ 3 ถูกกระแสลมคลื่นทะเลซัดพังเสียหายนับ 10 หลัง ชาวบ้านต้องอพยพไปอยู่ที่ปลอดภัย
เช่นเดียวกับที่ จ.สุราษฎร์ธานี ฝนตกหนักนานหลายวันบนภูเขา อ.วิภาวดี และ อ.ไชยา ทำให้น้ำป่าไหลหลากทะลักเข้าท่วมพื้นที่ตอนล่างอย่างรวดเร็ว เช่น ที่ ต.เสวียด อ.ท่าฉาง และชุมชนในเขตเทศบาลตำบลตลาดไชยา อ.ไชยา โดยเฉพาะที่หมู่ 2 บ้านเสวียด และหมู่ 4 บ้านเหนือท่า ต.เสวียด อ.ท่าฉาง กว่า 50 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 2050 ซม.
ส่วนที่ จ.ยะลา หลายพื้นที่เริ่มน้ำท่วมขังแล้ว โดยเฉพาะบนถนนสาย 418 ยะลาปัตตานี มีน้ำท่วมสูงและชำรุดประมาณ 300 ม. การสัญจรลำบาก นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ตาย คือ มะยีดิง สาและมิง อยู่บ้านเลขที่ 126/1 หมู่ 7 ต.ลำพะยา อ.เมือง ซึ่งถูกกระแสน้ำพัดจมเสียชีวิต
ด้าน จ.ปัตตานี น้ำจากเทือกเขาสายบุรีไหลบ่าเข้าท่วมหมู่ 10 บ้านบาโงมูหลง ต.เตราะบอน อ.สายบุรี เช่นเดียวกับในเขตเทศบาลตำบลตะลุบัน มีน้ำท่วมขังสูงหลายจุด เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน