'ปชป.'แฉ 'ศปภ.'จัดซื้อเรือแพง ส่อฮั้วประมูล
สส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงแฉ ศปภ.จัดซื้อเรือแพง ส่อฮั้วประมูล ยื่น ปปช. สอบต่อ
สส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงแฉ ศปภ.จัดซื้อเรือแพง ส่อฮั้วประมูล ยื่น ปปช. สอบต่อ
นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เปิดข้อมูลใหม่การจุดซื้อเรือจำนวน 2,500 ลำ วงเงิน 14,250,000 บาท ของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย(ศปภ.) โดยระบุเป็นชุดข้อมูลที่เตรียมใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศปภ. แต่ไม่ได้อภิปรายและขอถอนตัวไปเองเพราะติดภารกิจต้องไปงานศพมารดา เมื่อกลับมาในช่วงค่ำวันอภิปรายฝ่ายรัฐบาลก็ยังประท้วงไม่จบ และส่วนหนึ่งเพราะความผิดพลาดของฝ่ายค้านเองที่อภิปรายแตะบุคคลอื่นไปทั่วทำให้เข้าทางรัฐบาลในการใช้สิทธิพาดพิง จึงไม่ได้เป็นตามข่าวลือที่ว่าถูกขอร้องจากรัฐบาลไม่ให้อภิปรายแต่อย่างใด
นายวิลาศกล่าวว่า กระบวนการจัดซื้อรายการใหม่ที่พบนั้นเป็นการดำเนินการของศปภ.โดยตรงโดย พล.ต.อ.ประชาเป็นผู้ลงนามและให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)เป็นผู้จัดซื้อโดยใช้งบกลางที่รับจัดสรร ดังนั้นจะอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องไม่ได้อีกแล้ว แม้ ศปภ.กำลังจะปิดตัวไปก็ตาม เพราะความผิดและการตรวจสอบจะมีต่อเนื่อง ในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุด หากไม่อนุมัติปภ.ก็ไปซื้อไม่ได้ เหมือนกับที่ใช้อำนาจสั่งเปิดประตูระบายน้ำอยู่ในวันนี้ และฝากไปยังข้าราชการว่า ตามกฎหมาย ตัวเองคงต้องรับผิดชอบ แต่ ถ้าจะติดคุกก็ให้พารัฐมนตรีไปเป็นเพื่อนด้วย ทั้งนี้มีการการจัดซื้อเรือ รวมทั้งสิ้น 2,500 ลำ วงเงิน14,250,000 บาท แบ่งเป็น 3 รายการ ประกอบด้วย 1.เรือพลาสติกขนาด 7 ฟุต บรรจุ 2-3 คน รวมไม้พาย 2 อัน จำนวน 1,000 ลำ ราคาลำละ 4,500 บาท วงเงิน 4.5 ล้านบาท ซึ่งตนทดลองสั่งซื้อจากบริษัทไทยรุ่งมาเทียบเคียงตกลำละ 2,000 บาทเท่านั้นและยังได้แถมมาอีก 5 ลำ จึงมีส่วนต่างถึง 1,500 บาท และอย่างแพงที่สุดในตลาดหรือขายตามเว็บไซด์อยู่ที่ลำละ 3,000-3,500 บาท
นายวิลาศกล่าวว่า 2.เรือ HDPE ขนาด 3x8x1.4 เมตร บรรจุ 2-3 คน รวมไม้พาย 2 อัน จำนวน 1,000 ลำ ลำละ 6,000 บาท รวม 6 ล้านบาท เมื่อเทียงเคียงกับตัวอย่างที่ชาวบ้านเขตบางแคสั่งซื้อจากร้านย่านมหาชัย เพียงลำละ 3,450 บาท ส่วนต่างถึง 2,550 บาท และลุยน้ำมาส่งถึงที่ ขณะที่เว็บไซด์ขายเพียง 3,000 บาท และ 3.เรือพลาสติกหุ้มไฟเบอร์ขนาด 10 ฟุต บรรจุ 4-5 คน รวมไม้พาย 2 อัน 500ลำ ลำละ 7,500 บาท รวม 3,760,000 บาท ซึ่งตนยังหาราคาตลาดมาเทียบไม่ได้ เลยไปสอบถามราคาเรือเหล็กที่จ.อ่างทองขนาดใหญ่กว่าคือ 12 ฟุต ซึ่งเป็นวัสดุที่ต้องแพงกว่า ยังราคาเพียงลำละ 3,000 บาท จึงมีส่วนต่าง 4,500 บาท ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงแพง หรือเพราะมีตรา ศปภ.ติดที่เรือ ใช้เบ่งได้ เพราะเรือชาวบ้านไปวิ่งกลับโดนจับ
“ประเด็นสำคัญ คือ เป็นการจัดซื้อจากเอกชนที่ประกอบธุรกิจโรงแรมและสปา คือ บริษัทรัชดา รีสอร์ท แอนด์สปา จำกัด อยู่ที่ซอย 3 ถนนรัชดาภิเษก ด้านข้างสถานทูตจีนซึ่งเป็นย่านชุมชนหนาแน่น ที่ร้ายไปกว่านั้นคือเดิมที่ตั้งโรงแรมแห่งนี้เปลี่ยนเจ้าของและขายต่อกันมาเรื่อยๆ โดยดั้งเดิมคือโรงแรมบาร็อค ซึ่งบรรดาเสือสิงห์กระทิงแรดและแท็กซี่กลางคืนรู้จักกันดีเพราะเป็นโรงแรมม่านรูด ต่อมาเปลี่ยนแปลงกิจการเป็นบริษัทศิริพงศ์พืชพล และมาปี 2549 จึงเปลี่ยนมาเป็นบริษัทรัชดา รีสอร์ทฯ ประกอบธุรกิจโรงแรมและห้องพัก โดยมีอัตราค่าเข้าพักที่ค้างคืนวันละ 1,000 บาทพร้อมอาหารเช้า และ ชั่วคราว 450 บาท / 3 ชั่วโมง แม้วันนี้จะไม่เป็นม่านรูดแล้วแต่ยังทำอะไรที่คล้ายกันอยู่เพียงแต่ไม่มีม่านเท่านั้น ดังนั้นเรื่องซื้อเรือของศปภ. จึงเชื่อว่าจะมีเรื่องตามมาอีกเยอะ เพราะเป็นเพียงกรณีเดียวจากที่ซื้อไปทั้งสิ้นหลายหมื่นลำ นอกจากนี้เรือที่ซื้อก่อนหน้านี้ 2 ขนาด ได้แก่ราคา 2.5 แสนบาท จำนวน 30 ลำ ก็ใช้พลาสติกชั้นเดียวซึ่งจะเป็นอันตรายแตกง่าย และขนาดเรือที่ใช้วัสดุ 2 ชั้นยังราคาเพียงลำละ 4-6 หมื่นบาท ทั้งหมดผมจะส่งข้อมูลให้ป.ป.ช.สอบต่อ”นายวิลาศกล่าว