ปืนเถื่อน-ยาเสพติด ฝันร้ายคนเมืองกรุง
ตำรวจยอมรับว่าสังคมของเด็กวัยรุ่นในปัจจุบันเต็มไปด้วยความรุนแรง
โดย...วัสยศ งามขำ
ตำรวจยอมรับว่าสังคมของเด็กวัยรุ่นในปัจจุบันเต็มไปด้วยความรุนแรง เห็นได้จากการก่อเหตุร้ายแรงด้วยการใช้อาวุธปืนสาดกระสุนใส่กันมีมากขึ้น โดยมีสาเหตุสำคัญที่พ่วงมากับการแพร่ระบาดของยาเสพติด ในขณะที่อาวุธปืนก็หาได้ง่ายคล้ายขายในตลาดสด แต่กลับตรวจสอบจำนวนที่แท้จริงได้ยาก
สองเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในเขตรั้วนครบาล ทำให้เห็นว่าสังคมเมืองหลวงกำลังเต็มไปด้วยความรุนแรง และมีแนวโน้มที่รุนแรงมากขึ้น เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 20 ม.ค. เมื่อกลุ่มวัยรุ่นขับรถไล่ล่าสาดกระสุนใส่กันสนั่นเมืองบนถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ หลังออกจากผับย่านพระราม 3 โดยมีสาเหตุมาจากการทะเลาะวิวาทกันระหว่างกลุ่มวัยรุ่นด้วยกันเอง
โดยวัยรุ่นทั้งสองกลุ่มมีอายุเฉลี่ยเพียง 20 ต้นๆ เท่านั้น และที่เลวร้ายก็เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ทันที 3 คน และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเพิ่มอีก 2 คน
แม้ว่าคดีนี้ตำรวจนครบาลจะเร่งปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว สามารถจับกุมคนร้ายไว้ได้แล้ว 5 คน ในจำนวนนี้มีวัยรุ่นที่อายุเพียง 18 ปีด้วย 1 คน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชาวบ้านหายจากอาการหวาดผวาเกรงจะถูกลูกหลง เพราะเด็กวัยรุ่นมีวัยเพียงนี้กลับพกปืนไล่ยิงกันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย และสำคัญที่สุดวัยรุ่นกลุ่มนี้มีประวัติเชื่อมโยงกับยาเสพติดด้วย
อีกคดีที่คล้ายกัน มีการใช้อาวุธปืนยิงกันอย่างอุอาจกลางเมืองหลวง เป็นเหตุการณ์ที่ สมชาย เอี่ยมไพจิตร หรือ เอ เหลือก ที่หลบหนีการปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติดของตำรวจ ชิงรถจักรยานยนต์ที่แม่ค้าตลาดจตุจักรขี่มา แล้วลั่นกระสุนใส่จนแม่ค้าเคราะห์ร้ายตายอนาถบริเวณชุมชนร่วมมิตร ซอยประดิพัทธ์ 5
แม้ว่าตำรวจจะตามไปวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายไปเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ขณะที่ดวลปืนสู้บริเวณหมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ หลังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แต่ก็เป็นเรื่องเขย่าขวัญคนเดินถนนในเมืองหลวงอยู่ไม่น้อย ต้องคอยลุ้นว่าจะกลายเป็นเหยื่อเหมือนแม่ค้าเคราะห์ร้ายไม่วันใดก็วันหนึ่ง
ทั้งสองเหตุการณ์รวมทั้งเหตุความรุนแรงอื่นๆ ที่เกิดจากเด็กวัยรุ่น และคนขี้ยา ทำให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น. ยอมรับว่าเหตุรุนแรงที่เกิดมากขึ้นโดยเฉพาะที่เกิดจากน้ำมือของวัยรุ่น ล้วนมีสาเหตุมาจากยาเสพติดที่แพร่ระบาดอย่างหนักหน่วง และอีกปัญหาที่ควบคู่กันมาคือการแพร่กระจายของอาวุธปืน ทั้งปืนเถื่อนไทยประดิษฐ์และอาวุธปืนแบรนด์เนม ที่หาได้ง่ายขึ้น รวมทั้งมีราคาถูก
“ทุกวันนี้เด็กติดยาเยอะมาก คดีรุนแรงที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นการตีกันไปจนถึงยิงกัน 80% นั้น ผู้ที่ก่อเหตุล้วนมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งนั้น” พล.ต.ต.วิชัย กล่าว และบอกว่ามันคล้ายเป็นปัญหาลูกโซ่ เมื่อมีปัญหายาเสพติดเข้ามาก็จะมีอาวุธปืนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นั่นเป็นเพราะยาเสพติดมีราคาแพง ผู้ค้าจึงพกอาวุธเพื่อป้องกันตัวจากตำรวจ สังเกตได้ระยะหลังนี้เมื่อตำรวจบุกเข้าจับกุมยาเสพติด คนร้ายจะดวลปืนสู้กับตำรวจเสมอ
นอกจากอาวุธปืนเถื่อนแล้ว ยังมีอาวุธปืนที่เล็ดลอดเข้ามาในบ้านเรา ก่อนที่จะฟอกตัวให้เป็นปืนถูกกฎหมาย ซึ่งประเภทนี้อันตรายมาก และยากต่อการตรวจสอบ ตำรวจกำลังจับตาปืนที่นำมาขายตามโครงการต่างๆ ของทางราชการ ที่ให้เจ้าหน้าที่รัฐซื้อในราคาพิเศษ เพราะกังวลว่าอาจจะเป็นช่องทางที่บริษัทเอกชนบางแห่งสวมเอาปืนเข้ามาขาย
พล.ต.ต.วิชัย เสนอความเห็นว่า ทุกวันนี้ตำรวจไม่ได้เป็นคนควบคุมจำนวนอาวุธปืนและตรวจสอบอาวุธปืนที่บุคคลครอบครองอยู่ได้ยาก เพราะการอนุญาตขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทย ถ้าเป็นไปได้อยากให้อำนาจนี้กลับมาอยู่ที่ตำรวจเหมือนเดิม จะได้ควบคุมและตรวจสอบได้ดีกว่า เพราะระบบการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมก็ยังคงอยู่ในอำนาจของตำรวจ การจะพิจารณาอนุมัติให้ปืนกับใคร หรือตรวจสอบจำนวนอาวุธปืนหรือประวัติของปืนก็ทำได้สะดวกขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัญหาวัยรุ่นใช้อาวุธปืนและก่อความรุนแรงส่วนหนึ่งมาจากปัญหาครอบครัวที่พ่อแม่ไม่มีเวลาให้กับลูก ซ้ำร้ายยังถูกเติมเต็มไปด้วยความรุนแรงที่ผ่านทางหน้าจอทีวีและวิดีโอเกม ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่สามารถควบคุมได้ เพราะเกมบางเกมเป็นเกมออนไลน์ ไม่สามารถจำกัดการเชื่อมต่อได้
ดังนั้น การแก้ปัญหานี้จะฝากความหวังให้ตำรวจเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ หลายหน่วยงานต้องทำงานอย่างบูรณาการ โดยเฉพาะกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่น่าจะออกมาเป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้อย่างจริงจัง