พท.ดูทางลม!ยังไม่กล้าดันวาระปรองดอง
เพื่อไทย ไม่กล้าดันวาระร้อนปรองดองขึ้นมาถกก่อน ปล่อยรัฐสภารับรองข้อตกลงระหว่างประเทศก่อน เผยขอดูทิศทางลมก่อนอีกครั้ง
เพื่อไทย ไม่กล้าดันวาระร้อนปรองดองขึ้นมาถกก่อน ปล่อยรัฐสภารับรองข้อตกลงระหว่างประเทศก่อน เผยขอดูทิศทางลมก่อนอีกครั้ง
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) เปิดเผยว่า การประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 มี.ค.วิปรัฐบาลจะยังไม่ขอให้ที่ประชุมรัฐสภาเลื่อนญัตติที่ขอให้ที่ประชุมรัฐสภามีมติให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติมาพิจารณาก่อนแต่จะให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาเรื่องข้อตกลงระหว่างประเทศมาตรา 190 ไปตามระเบียบวาระแทน เพราะต้องการสร้างบรรยากาศทางการเมืองที่ดี
"เราจะยังไม่เสนอให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาญัตติของกมธ.ทันทีเพราะวิปรัฐบาลทราบถึงบรรยากาศทางการเมืองในเวลานี้ โดยจะขอให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาระเบียบวาระเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างประเทศตามมาตรา 190 ก่อนถึงจะมาดูบรรยากาศเวลานั้นว่าจะเป็นอย่างไรอีกครั้ง" นพ.ชลน่าน กล่าว
ขณะที่ นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เคยได้หารือกับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯถึงความเป็นไปได้ในการขยายเวลาสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติออกไปเพิ่มเติมจากเดิมที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 18 เม.ย.เพราะเล็งเห็นว่าฝ่ายนิติบัญญัติมีเรื่องค้างพิจารณาจำนวนมากตั้งแต่มีปัญหาน้ำท่วมเมื่อปี2554ทำให้การประชุมสภาฯไม่สามารถดำเนินการได้หลายครั้ง
"ขณะนี้ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่มีความคิดที่จะเสนอให้ขยายเวลาสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติออกไปเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเฉพาะเพราะเราต้องรอดูก่อนว่าการทำงานของคณะกรรมาธิการของนายสามารถ แก้วมีชัย จะดำเนินการได้ทันกับกรอบเวลาปกติของสมัยประชุมนี้หรือไม่" นายอุดมเดช กล่าว
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภา กล่าวว่า ส่วนตัวตอนนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานจากรัฐบาลว่าจะขอให้มีการขยายเวลาสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติเพิ่มเติมจากเดิม 120 วันหรือไม่ แต่ตามขั้นตอนสามารถกระทำได้โดยการตราเป็นพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 129 โดยการให้สส.และสว.รวมกัน หรือสส.มีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสภามีสิทธิเข้าชื่อร้องขอให้นำความกราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการต่อไป