'เสี่ยฮง'ลี การ์เดนส์...สู้ไม่ถอย

โดย...วิชยันต์ บุญโชติ

“เสี่ยฮง” วันชัย ลีละศิธร วัย74 ปี กว่าจะเป็นนักธุรกิจระดับแถวหน้าเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ เขาไต่เต้าจากลูกจ้างโรงงานมาเป็นเจ้าของธุรกิจโรงงานปลาป่นเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา จากนั้นหันมาทำธุรกิจโรงแรมเมื่อราว 24 ปีที่แล้ว ภายใต้ชื่อ“ลี การ์เดนส์” ขนาดห้องพัก 200 ห้องบนถนนลีพัฒนา อยู่กึ่งกลางระหว่างถนนนิพัทธ์อุทิศ 1 และ 2

เสี่ยฮงสบช่องทางธุรกิจเมืองหาดใหญ่เติบโตแบบก้าวกระโดด นักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและสิงคโปร์หลั่งไหลเข้ามาเที่ยวหาดใหญ่จนล้น แต่ยังขาดโรงแรมที่มีห้องประชุมสัมมนาและพลาซาที่ครบครัน จึงตัดสินใจทุ่มทุนกว่า 1,000 ล้านบาท สร้างโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า ขึ้นมาอีกแห่งบนถนนเสน่หานุสรณ์ สูง 33 ชั้น ซึ่งสูงที่สุดอยู่ในย่านกลางใจเมืองหาดใหญ่ พร้อมกับเนรมิตรพลาซาเป็นแหล่งช็อปปิ้งครบวงจร มีแฟรนไซส์อาหารชื่อดังเข้ามาเปิดบนพลาซาแห่งนี้ ทั้งแมคโดนัลด์ เคเอฟซี ซิซซ์เล่อร์ สเวนเซ่นส์ ตลอดทั้งร้านค้าและโรงภาพยนตร์ที่ทันสมัยที่สุดไม่แพ้กรุงเทพมหานคร

ห้างดังกลางเมืองแห่งนี้ เริ่มลงมือก่อสร้างเมื่อปี 2540 ซึ่งตรงกับเศรษฐกิจไทยประสบปัญหาฟองสบู่แตก โดยปีดังกล่าวทุกคนจะเห็นแต่ภาพโครงการต่างๆ ถูกทิ้งร้าง นักธุรกิจจำนวนมากล้มไม่เป็นท่าเนื่องจากธุรกิจเจ๊ง แต่นั่นไม่ใช่สำหรับคนอย่างเสี่ยฮง แม้เขาจะกู้เงินต่างประเทศ มาลงทุน แต่ก็ได้ทำประกันความเสี่ยงเอาไว้ ทำให้เสี่ยฮงรอดพ้นวิกฤตต้มยำกุ้งมาได้ และสามารถเดินทางสร้างโรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่า จนสำเร็จ โดยเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวจองห้องพักได้เมื่อกลางปี 2543

อย่างไรก็ตาม โรงแรมแห่งนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องมาประสบกับน้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งใหญ่ เมื่อปลายปี 2543 ทำให้ชั้นใต้ดินและในชั้น 1 เสียหายทั้งหมด แต่สามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเนื่องจากเศรษฐกิจเมืองหาดใหญ่ดีวันดีคืน

กระทั่งปี 2547 เสียงปืนแตกมีเหตุการณ์ปล้นปืนและความไม่สงบลุกลามเข้ามาเมืองหาดใหญ่ เกิดเหตุวางระเบิดที่สนามบินหาดใหญ่ ทำให้เศรษฐกิจหาดใหญ่หยุดชะงัก และในปี 2550 เกิดเหตุวางระเบิดอีกหลายจุดบนถนนสายเศรษฐกิจหลักของเมือง ครั้งนั้นเศรษฐกิจซบเซาอย่างหนัก กว่าจะฟื้นความเชื่อมั่นหาดใหญ่ได้ต้องใช้เวลา 3-4 ปี

อัจฉรา ลีละศิธร บุตรสาวของเสี่ยฮงเล่าให้ฟังว่าปี 2553 หาดใหญ่ยังต้องผจญวิกฤตน้ำท่วมใหญ่โถมซ้ำอีก ส่งผลให้ชั้นใต้ดินและชั้น 1 เสียหายหนัก หลังผ่านมรสุมน้ำท่วมลี การ์เดนส์ ครั้งที่ 2 จึงถือโอกาสทำการรีโนเวตห้างครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี ทั้งในส่วนของโรงแรมและในส่วนของพลาซา โดยใช้งบ 100 ล้านบาท ทำการปรับโฉมส่วนของพลาซา จนเสร็จสมบูรณ์ ปี 2554

“เราต้องการจะพลิกโฉมห้างใหม่ให้ดูสดใสขึ้น เป็นแหล่งช็อปปิ้งทันสมัยครบวงจร ศูนย์รวมแฟชั่นของคนรุ่นใหม่ มีการจัดกิจกรรมดึงกลุ่มวัยทีนเข้ามาจับจ่าย ช็อปปิ้ง มีโซนสินค้าขายไอเดีย มีร้านอาหารโออิชิบุฟเฟต์ ชาบูชิ และแบล็คแคนยอน” ลูกสาวเสี่ยฮง เล่าถึงแนวคิดของบิดาที่ทำธุรกิจแบบหัวสมัยใหม่

ลี การ์เดนส์ พลาซ่า เป็นแหล่งช็อปปิ้งมอลล์และเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ถือว่าอยู่ในโลเกชันที่ดีที่สุดของเมืองหาดใหญ่ มีการรีแบรนด์เสร็จสมบรูณ์เมื่อปีที่ผ่านมานี่เอง ตอบโจทย์ลูกค้าแนวทันสมัย จึงไม่แปลกใจเลยที่ห้างแห่งนี้จะคลาคล่ำไปด้วยกลุ่มเด็กวัยรุ่น กลุ่มครอบครัว และกลุ่มคนทำงาน มีงานกิจกรรม งานอีเวนต์ เป็นแหล่งรวมวัยรุ่นและมีดารา นักร้อง มาจัดกิจกรรมมากที่สุด ในห้างนี้เคยเป็นสถานที่คัดเลือกเดอะ สตาร์ ภาคใต้ และในวันเกิดเหตุมีการคัดเลือกนักแสดงน้องใหม่รายบริสุทธิ์ของบริษัทบอร์ดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ค่ายจัดละครดังช่อง 3 มีดาราและมีวัยรุ่นอยู่กันเต็มห้าง

คนร้ายได้คาร์บอมบ์หาดใหญ่ เมื่อวันที่31 มี.ค.ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายที่ไม่อาจประเมินได้ แม้ได้ทำประกันภัยครอบคลุมไว้ทั้งหมดแล้วกับบริษัท กรุงเทพประกันภัยและเมื่อคราวน้ำท่วมก็มีประภัยช่วยผ่อนหนักเป็นเบาไว้ได้ แต่ครั้งนี้เป็นภัยจากน้ำมือมนุษย์ ผลเสียนอกจากตัวเงินแล้ว ผลกระทบด้านจิตใจและความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่จะหลั่งไหลเข้ามา การเสียโอกาสในการค้าในธุรกิจยังยากที่จะประเมินได้

เสี่ยฮง บอกว่า แม้จะเจอเหตุการณ์รุนแรงหนักขนาดนี้ ก็จะไม่ยอมแพ้ และยังปลุกให้ชาวหาดใหญ่ร่วมกันสู้ร่วมกันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ จะพยายามทำให้ห้างลี การ์เดนส์ พลาซ่า ฟื้นขึ้นมาโดยเร็วที่สุด เมื่อใดที่ทางเทศบาลอนุญาตให้เข้าใช้อาคาร ก็จะเปิดในส่วนของโรงแรมทันทีเพราะพื้นที่ของโรงแรมไม่เสียหายอะไร แต่ในส่วนอาคารด้านล่างและในส่วนของพลาซา ต้องให้ผ่านการตรวจสอบโครงสร้างอย่างละเอียดก่อน ซึ่งจะเร่งฟื้นฟูให้เปิดบริการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

“อย่าให้ผู้ก่อความไม่สงบรู้ว่ามาทำแบบนี้ แล้วเราจะถอย เราต้องอยู่หาดใหญ่ต่อไป ใช้ชีวิตให้เป็นปกติ แต่ก็ไม่ประมาท มาตรการรักษาความปลอดภัยจะต้องเข้มข้นขึ้น” วันชัย กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นยืนยันชัดสู้ไม่มีถอย