หยดเดียว

โดย...ธนพล ไชยภาษี

กรณีข้อพิพาทหมู่เกาะสแปรตลีย์อาจจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่สั่นคลอนความมั่นคงในภูมิภาคอาเซียนได้ หลายประเทศเริ่มสะสมอาวุธกันมากขึ้น ไม่ว่าจะทั้งเวียดนามและมาเลเซีย

อีกทั้งในขณะนี้ฟิลิปปินส์ยังแสดงท่าทีไม่เกรงใจจีนแม้แต่น้อย ด้วยความที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐ การตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างกองทัพฟิลิปปินส์และสหรัฐเมื่อไม่นานมานี้ ก็ไม่ได้มีขึ้นเพื่อเหตุผลอันใดหรอกครับ ถ้าไม่ใช่เป็นการต่อกรกับจีน จนล่าสุดจีนเริ่มตอบโต้ด้วยการบอยคอตไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปฟิลิปปินส์กันแล้ว

 

แต่ถ้ามองกันจริงๆ ก็พูดยากครับ ว่าหมู่เกาะสแปรต ลีย์นั้นควรจะตกเป็นของใคร เพราะที่ตั้งนั้นอยู่ระหว่างกลางระหว่างเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และเกาะบอร์เนียว ทำให้มีการอ้างสิทธิกันหลายชาติ

แต่ที่แน่ๆ ก็คือ จีนอยู่ไกลสุด ซึ่งหากพิจารณากันตามแผนที่จะเห็นว่าการอ้างสิทธิของจีนนั้นไม่สมควรนักครับ แต่จีนก็คือจีน อยากได้อะไรก็ต้องเอาให้ได้

สแปรตลีย์จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ก็เพราะว่าสถานการณ์การอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะแห่งนี้ ง่ายที่จะถูกปลุกชนวนให้เกิดเป็นความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐที่เข้ามาแทรกแซงอิทธิพลในภูมิภาคนี้อย่างเต็มที่

ในช่วงปีที่ผ่านมา สหรัฐประกาศชัดเจนครับว่าจะกลับมาทวงอิทธิพลคืนในภูมิภาคนี้ หลังจากหายหน้าหายตาไปวุ่นกับภูมิภาคตะวันออกกลางเสียนาน ตอนนี้สหรัฐทำอะไรบ้างในอาเซียน

สหรัฐจับมือผนึกกำลังกับฟิลิปปินส์ในด้านความร่วมมือทางการทหารอย่างแน่นแฟ้นมากขึ้น

สหรัฐกำลังจะประจำการกองเรือขึ้นในสิงคโปร์

สหรัฐกำลังลุยเข้าไปโกยผลประโยชน์ในพม่า ในด้านหนึ่งกำลังถูกมองว่าสหรัฐพยายามเข้าไปปิดกั้นจีน

สหรัฐกำลังกระจายกำลังไปทั่วภูมิภาคอาเซียน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเกิดการปะทะกับอิทธิพลของจีนที่กำลังขยายลงมาในอาเซียนอย่างช่วยไม่ได้ โดยเฉพาะอิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจ

อาเซียนในวันนี้ต้องคอยเล่นบทบาทเดิมอีกแล้ว คือ การถ่วงดุลของมหาอำนาจให้ดี โดยเฉพาะในยุคนี้ซึ่งเป็นยุคแห่งสงครามกอบโกยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

ถ้าทำได้ดี อาเซียนก็จะได้ผลประโยชน์จากสองฝ่าย แต่ถ้าทำไม่ได้ ภูมิภาคนี้ก็เสี่ยงต่อการเกิดสงครามขึ้นได้ง่ายๆ ครับ

โดยเฉพาะกับกรณีของหมู่เกาะสแปรตลีย์นี่เอง