ไฮโซจำแลง ดารุณี กฤตบุญญาลัย
...วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย
ใครก็ตามที่ได้ดูทีวีของคนเสื้อแดง คงจะสังเกตเห็นผู้หญิงที่คุ้นหน้าคุ้นตาคนหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะแต่งตัวตามสไตล์ที่เธอคนเดียวเห็นว่าสวยสุดแล้ว ยังออกมาร้องเพลงแต่งเองตามใจชอบชนิดที่เจ้าของลิขสิทธิ์เพลงตัวจริงได้ยินแล้วต้องร้องไห้ มิหนำซ้ำทุกอิริยาบถบนเวทีคนเสื้อแดงของเธอยังออกอาการของคนที่มีสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทั้งๆ ที่ใครๆ นึกว่าเธอเป็นเศรษฐี แต่แท้จริงแล้วจะมีเงินครบบาทหรือไม่ก็ไม่มีใครรู้
ผู้หญิงซึ่งคุ้นหน้าคุ้นตาที่ว่านี้ คือ ดารุณี กฤตบุญญาลัย ที่แสดงตัวเป็นเศรษฐีใหม่ผู้ตะกายดาว แต่ก็ไม่อาจไปถึงฝั่งฝัน อีกทั้งยังมีปัญหาทางธุรกิจเหมือนช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวไปปิด ไม่รู้จะหันไปทิศไหน เลยต้องวิ่งไปพึ่งใบบุญของ ทักษิณ ชินวัตร อัครมหาไพร่ ประกาศตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับไพร่โดยสมบูรณ์บนเวทีเสื้อแดง เช่นเดียวกับไพร่ในสังกัดมูลนายของอัครมหาไพร่อีกหลายคน เช่น วีระ มุสิกพงศ์ จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เหวง โตจิราการ ยกเว้นทาสผู้ไม่ยอมปลดปล่อยตัวเองอย่าง อดิศร เพียงเกษ ที่ยังคงอิ่มหมีพีมันอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของเขื่อนปากมูลมาจนกระทั่งทุกวันนี้ เราจึงน่าจะมาทำความรู้จักกับไพร่ผู้ใฝ่ฝันอยากจะตะกายดาวคนนี้ดู
ดารุณี กฤตบุญญาลัย เป็นชาวอีสานเชื้อสายเวียดนามจีน เกิดที่ จ.หนองคาย เมื่อปี 2492 จบการศึกษาชั้นต้นใน จ.หนองคาย แล้วมาเรียนต่อระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์ จากนั้นก็เข้าศึกษาต่อคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยก็พบรักกับหนุ่มคณะวิศวกรรมศาสตร์ ชื่อ ประกิจ กฤตบุญญาลัย เมื่อจบการศึกษาแล้วทั้งคู่ก็ตัดสินใจแต่งงานและร่วมกันทำธุรกิจเครื่องปรับอากาศในชื่อ บริษัท สยาม เออาร์ไอ จำกัด ภายใต้สินค้าที่มีชื่อว่า Senetor ด้วยความบากบั่นและขยันหมั่นเพียรของประกิจผู้สามี ทำให้ธุรกิจเครื่องปรับอากาศ Senetor เจริญก้าวหน้าขึ้นมาเรื่อยๆ ดารุณี ผู้ภรรยาที่มีความใฝ่ฝันมาตั้งแต่ในวัยเด็กว่าอยากจะเป็นหญิงสาวผู้ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงในวงสังคมให้ได้ จึงเริ่มออกมาแสดงตัวในวงสังคม ด้วยการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมของบุคคลในวงสังคมที่นึกว่าตัวเองเป็นบุคคลในวงสังคมชั้นสูง เช่น ไปเป็นกรรมการฝ่ายหารายได้ให้แก่สภาสตรีแห่งชาติในยุคของเยาวเรศ ชินวัตร ไก่แก่แม่ปลาช่อนผู้ถนัดกับการตั้งโต๊ะรับงานในยามที่พี่ชายเรืองอำนาจ และตั้งแต่ปี 2537 ก็ได้เข้าไปตีสนิทกับเศรษฐินีของวงการเหล็กผู้สนใจในอัญมณี ชื่อ สุรีย์ รัตนหิรัญญา จนกลายเป็นคู่แฝดชนิดที่ไปไหนก็ไปด้วย ทำอะไรก็ทำอย่างเดียวกัน จนได้รับฉายาจากสื่อมวลชนว่า “แฝดสยอง” จนต่อมาทั้งคู่ต้องแยกทางกันไปด้วยเรื่องอื้อฉาวทางธุรกิจที่ซุบซิบในวงสังคมแบบต่างฝ่ายต่างก็พูดกันไปคนละทางสองทาง จนไม่รู้จะเชื่อใครและไม่รู้จริงว่าเรื่องที่ผิดใจกันระหว่างเพื่อนซี้คู่นี้นั้นเป็นเพราะใครเบี้ยวใครกันแน่
พฤติกรรมการเข้าสู่สังคมของ ดารุณี กฤตบุญญาลัย ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในระหว่างปี 25382541 นั้น ดูจะโลดโผนพิสดารกว่าสาวในวงสังคมคนอื่น เพราะนอกจากจะออกมาแสดงตัวเป็นเศรษฐีใหม่ผู้สนใจในกิจกรรมสังคมแล้วเธอยังได้แสดงออกถึงความอยากจะโด่งดังแบบตะกายดาวด้วย โดย ประกิจ กฤตบุญญาลัย ผู้สามีก็พยายามทุกวิถีทางที่จะใช้พลังทางธุรกิจที่มีอยู่พยายามปลุกปั้นดินให้เป็นดาวอย่างที่ภรรยาใฝ่ฝัน ไม่ว่า ดารุณี ผู้ภรรยาจะแต่งตัวแบบไหนจะใช้เครื่องสำอางแพงอย่างไรก็ตามใจมาโดยตลอด ดังนั้นเวลาที่ ดารุณี กฤตบุญญาลัย ออกงานสังคม เธอก็จะสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมดังๆ เช่น Versace หรือ Christian Dior ทั้งยังตัดเสื้อผ้ากับร้านดังที่เศรษฐีใหม่ในวงสังคมนิยมไปตัด คือ ร้านไข่ เวนิก นาตาลี และ Inspired by inter complexity ซึ่งสามีก็ไม่เคยเอ่ยปากเสียดายเงินเพื่อให้เธอแต่งตัว
เมื่อออกสังคมจนกลายเป็นสาวสังคมชื่อดังในหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ แล้ว ดารุณีเธอก็เริ่มตะกายดาวด้วยการไปแสดงละครโทรทัศน์หลายเรื่อง แต่ที่แสดงได้สมบทบาทที่สุดคือการแสดงเป็นแม่ค้าส้มตำปากตลาดในละครโทรทัศน์ เรื่อง เพลงรักเพลงปืน เคยออกรายการเจาะใจ และคนค้นฅน ตอนค้นชีวิตคนในแวดวงสังคมและไฮโซบ้านนอก ที่ทำให้ผู้คนที่ชมรายการได้เห็นถึงความไร้สาระและไม่มีสิ่งใดประเทืองปัญญาของผู้คนในวงสังคมแบบเศรษฐีใหม่ที่ใฝ่ฝันอยากจะตะกายดาวได้อย่างชัดเจน
ภายหลังเมื่อ ดารุณี กฤตบุญญาลัย ไม่ประสบความสำเร็จในการตะกายดาวจากการเป็นดาราละครโทรทัศน์แล้ว เธอก็หันไปเป็นพรีเซนเตอร์หนังโฆษณาสินค้าให้กับบริษัทที่ วิรุฬกานต์ (น้ำฝน) ลูกสาวของเธอเป็นหนึ่งในผู้บริหาร และหนังโฆษณาประหยัดน้ำมันให้กับภาครัฐ แต่ก็เป็นโฆษณาที่อยู่ไม่ได้นานก็ต้องถูกปลดออกจากจอโทรทัศน์พร้อมกับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าผู้ที่คิดเผยแพร่โฆษณาชุดนี้น่าจะมีปัญญาสั้นกว่าหางอึ่ง
ดารุณี กฤตบุญญาลัย เวียนวนตะกายดาวอยู่ในแวดวงธุรกิจบันเทิง เป็นทั้งพิธีกรแสดงคอนเสิร์ต แสดงละครโทรทัศน์ แสดงภาพยนตร์ จนกระทั่งออกหนังสือพ็อกเกตบุ๊ก ในชื่อหนังสือ นู้ดเดิร์น ดารุณี และเป็นดีเจวิทยุคลื่น FM 95 อสมท อยู่พักใหญ่ แม้จะสามารถสร้างชื่อเสียงให้คนรู้จักในฐานะไฮโซไฮซ้อผู้พยายามอย่างสุดฤทธิ์ที่จะตะกายดาว แต่ก็ไม่สามารถไปถึงดวงดาวอย่างที่คาดหวัง เธอก็ไม่ได้ละความพยายาม จนกระทั่งในระยะหลังมีข่าวความขัดแย้งทางธุรกิจกับคู่ซี้ที่เป็นคู่แฝดสยองด้วยกันแล้ว ชื่อเสียงของ ดารุณี กฤตบุญญาลัย ก็กลายเป็นขี้ปากชาวบ้านในลักษณะของเศรษฐีใหม่จำพวกข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง บอกเล่ากันออกไปแบบปากต่อปากดังขึ้นทุกที แม้จะมีข่าวว่าได้เข้าไปซื้อหุ้นธุรกิจอาหารญี่ปุ่นชื่อดังและเข้าไปใกล้ชิดสนิทสนมกับนักการเมือง เช่น สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โดยผลักดันให้ลูกสาวที่ชื่อ น้ำฝน หรือ วิรุฬกานต์ เข้าไปร่วมทำงานในทีมการเมืองของ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ไม่ช่วยให้เศรษฐีใหม่อย่าง ดารุณี กฤตบุญญาลัย ดูดีขึ้นในสายตาของผู้คนในสังคม นอกจากความรู้สึกขำขันกับบทบาทลีลาของเธอที่แสดงออกในแวดวงสังคมคล้ายๆ จำอวดที่เรียกเสียงหัวเราะคลายความเครียดให้กับผู้คนไปวันๆ เท่านั้นเอง
จากความสนิทสนมกับ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็คืบคลานเข้าไปสู่การทำความรู้จักใกล้ชิดกับ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้นครอบครัวของ ดารุณี กฤตบุญญาลัย ประสบปัญหาทางธุรกิจหนักแทบจะเอาตัวไม่รอด ทักษิณ ชินวัตร และพจมาน ก็เข้ามาช่วยเหลืออีกทั้งเมื่อ น้ำนิ่ง ไอยคุปย์ กฤตบุญญาลัย บุตรชายคนเล็กของ ดารุณี เป็นที่ถูกตาต้องใจของ พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายสุดรักของ ทักษิณ ชินวัตร และพจมาน จนกลายมาเป็นชายหนุ่มที่พานทองแท้ไว้เนื้อเชื่อใจเป็นที่สุด น้ำนิ่งก็เลยกลายเป็นคู่ขาทางธุรกิจเข้าไปช่วยพานทองแท้บริหารบริษัท ฮาวคัม อย่างเต็มไม้เต็มมือ ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวทักษิณ ชินวัตร และ ดารุณี กฤตบุญญาลัย จึงใกล้ชิดสนิทแนบ จน สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้กลายเป็นสะพานผุๆ ที่ไม่ได้อยู่ในสายตาของเจ๊ดาอีกต่อไป และเมื่อ ทักษิณ ชินวัตร ใช้ความยิ่งใหญ่ผลักดันให้ วิรุฬกานต์ กฤตบุญญาลัย เข้าไปรับราชการเป็นทหารหญิงได้ครองยศเป็นถึงร้อยโทในกองทัพบก ธุรกิจในครอบครัวของ ดารุณี กฤตบุญญาลัย ที่เข้าใจกันว่ามั่นคงและร่ำรวยมหาศาลก็ถึงกาลต้องล้มละลายไปพร้อมกับ ประกิจ และดารุณี กฤตบุญยาลัย เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2549 ตามคำพิพากษาหมายเลขคดีแดง 3582/2548 อันเป็นช่วงเวลาที่ ทักษิณ ชินวัตร จะต้องไปใช้ชีวิตระเหเร่ร่อนในต่างแดน เป็นเหตุให้ครอบครัวของ ดารุณี กฤตบุญญาลัย ต้องเกาะติดใกล้ชิดสนิทสนมกับลูกๆ ของทักษิณและพจมานเพื่อไม่ให้หลุดลอยไป โดยเฉพาะไอยคุปย์ กฤตบุญญาลัย ยิ่งต้องพิสูจน์ตัวเองให้ พานทองแท้ ชินวัตร ได้เห็นถึงรักแท้ที่ไม่เคยแปรเปลี่ยนจนได้กลายเป็นคู่ขาทางธุรกิจคนสำคัญที่สุดในวอยซ์ทีวี อันมีหน้าที่ทำทุกอย่างแทน พานทองแท้ ชินวัตร เศรษฐีใหม่ที่ในหัวมีแต่ความว่างเปล่าประดุจดั่งเป็นคนคนเดียวกัน อันเป็นที่พึงพอใจ และได้กลายเป็นที่พึ่งพาของครอบครัว กฤตบุญญาลัย ตลอดมา
เมื่อรู้ความเป็นมาเป็นไปของเศรษฐีใหม่ที่ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง ของสาวไฮโซไฮซ้ออย่าง ดารุณี กฤตบุญญาลัย แล้วก็อย่าได้แปลกใจเลยว่าเหตุไฉนไฮซ้อผู้ตะกายดาวอย่างเธอจึงต้องไปปรากฏตัวบนเวทีคนเสื้อแดงแล้วแสดงบทบาทลีลาต่างๆ อย่างที่เห็น ต่อเมื่อเศรษฐีใหม่ประเภทสตรอเบอร์รี่อย่างเดียวกัน เช่น ทักษิณ ชินวัตร ประกาศตัวเป็นอัครมหาไพร่ ดารุณี กฤตบุญญาลัย ก็รีบขานรับความเป็นไพร่เหมือนกัน ขนาดคนที่เป็นประชาชนคนธรรมดาอย่างเราๆ ที่ไม่มีปัญญาไปกู้เงินสถาบันการเงินที่ไหนหรือไปหยิบยืมเงินจากอัครมหาไพร่ที่มีเงินหลายหมื่นล้านแต่ต้องร่อนเร่พเนจรไม่มีแผ่นดินอยู่มาซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมอย่าง Christion Dior และ Versace มาใส่ยังได้อาย