ศีลห้ากับกฏหมาย
สวัสดีปีใหม่ 2556 มุมกฎหมายขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย อำนวยผลให้ท่านผู้อ่าน ได้รับความสุข ความเจริญ ในทางที่ชอบที่ควรตลอดไป
สวัสดีปีใหม่ 2556 มุมกฎหมายขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย อำนวยผลให้ท่านผู้อ่าน ได้รับความสุข ความเจริญ ในทางที่ชอบที่ควรตลอดไป
วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีงูใหญ่ เพื่อเข้าสู่ปีงูเล็ก 2556 กำลังเข้าสู่บรรยากาศของเทศกาลปีใหม่ เย็นวันนี้ต่อเนื่องจนถึงพรุ่งนี้ ผู้คนมากมายเดินทางกลับจากการไปพักผ่อนหรือกลับจากการใช้เวลาวันหยุดยาวไปอยู่กับครอบครัวที่ต่างจังหวัด การจราจรในเส้นทางเข้ากรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะเส้นทางสายเหนือและสายอีสาน คงคลาคล่ำไปด้วยรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถคันแรกที่เพิ่งถอยออกมา หรือรถคันเดิมที่ใช้มานานแล้ว จะเป็นรถคันไหนก็ได้ แต่อย่าให้เป็นรถคันสุดท้ายสำหรับท่านในเทศกาลนี้ก็แล้วกัน
อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นในทุกเทศกาลวันหยุดยาว วันหยุดหลักๆ ก็คงเป็นช่วงปีใหม่และสงกรานต์นี่แหละ ที่มีผู้คนล้มตายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นจำนวนมาก ทรัพย์สินเสียหายมหาศาลจากการตรวจสอบสาเหตุหลักของอุบัติเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งคนไทยดื่มติดอันดับ 5 ของโลก อันดับ 3 ของเอเชีย เป็นรองเพียงเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นประเทศที่มีอากาศหนาว หิมะตก การดื่มเหล้าจึงเป็นการสร้างอบอุ่นให้กับร่างกายได้บ้าง ส่วนภูมิอากาศของประเทศไทยมีแต่ฤดูร้อน กับร้อนโคตรๆ แต่พี่ไทยเราก็ยังช่วยกันสร้างสถิติโลกจนได้
องค์การอนามัยโลก คำนวณว่า ในปี 2548 คนไทยจ่ายเงินซื้อเหล้ามากกว่างบประมาณการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ปริมาณเหล้าที่ดื่มกันทั้งปี ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านลิตร มากแค่ไหนลองเทียบง่ายๆ เท่ากับเอาถังน้ำมัน 200 ลิตร 50 ล้านถังมาวางเรียงต่อๆ กัน จะได้ความยาว 3 หมื่นกิโลเมตร ยาวกว่าประเทศไทยจากเหนือจรดใต้ 16 เท่า ถ้านำมาวางให้เต็มพื้นที่ ต้องใช้พื้นที่เท่ากับ 25 เท่าของสวนลุมพินี ถ้าเอาเหล้าทั้งหมดมาเทพร้อมกัน คงท่วมกรุงเทพฯ แน่ๆ
คนไทยเก่งจริงๆ กินเข้าไปได้อย่างไร
และด้วยเหตุที่พี่ไทยชอบกินเหล้าและชอบอวดเก่งขับรถไปบนท้องถนนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุจำนวนมาก คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ จึงได้ผลักดันให้มีการออกประกาศห้ามดื่มเหล้าในรถ นอกจากคนขับซึ่งโดนห้ามมานานแล้ว แม้จะเป็นคนนั่งโดยสารมาในรถก็ไม่ได้ ประกาศดังกล่าวประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ปีนี้ และให้มีผลบังคับใช้ในวันถัดไป
จะว่าไปแล้ว การจะกินจะดื่มอะไร ถือเป็นสิทธิส่วนตัวจะเมาหัวราน้ำ หรือกินจนตับแข็งตาย ก็เป็นสิทธิส่วนตัว ไม่มีใครไปห้ามได้ และไม่น่าจะมีกฎหมายออกมาห้ามได้ แต่เนื่องจากการดื่มเหล้า ไม่ได้มีผลเฉพาะตัวเอง คนที่ได้รับผลร้ายจากฤทธิ์ของเหล้าโดยตัวเองไม่ได้ดื่มกิน มีเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องควบคุมการดื่มการกินของคน แม้จะเป็นสิทธิ์ส่วนตัวก็ตาม แต่การจำกัดสิทธิ ต้องมีขอบเขต ประกาศห้ามขายเหล้าห้ามดื่มเหล้า จึงกำหนดพื้นที่ไว้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นพื้นที่สาธารณะหรือพื้นที่ที่ไม่ควรให้มีการดื่ม เช่น ในวัด โรงเรียน
ฉะนั้น ถ้าจะดื่มจะกิน จะเอาเหล้ามาอาบแทนน้ำ ถ้าทำที่บ้านของตนเอง ก็ไม่มีใครว่า ไม่มีกฎหมายห้าม แต่ต้องไม่สร้างความรำคาญให้ชาวบ้าน ไม่ต้องร้องเพลงให้ชาวบ้านฟังการออกประกาศของรัฐมนตรี เป็นการออกโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย คือพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ที่ให้อำนาจไว้
สำหรับประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ หากชาวพุทธเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี เชื่อและปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่เป็นพุทธแต่เพียงทะเบียนบ้าน กฎหมายเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องออกมาใช้บังคับเลย
พระพุทธองค์ท่านทรงทราบมานานแล้วว่า สุราเมรัย เครื่องดองของเมา เป็นสิ่งที่ไม่ดี ไม่เป็นประโยชน์ มีแต่ให้โทษทั้งกับตนเองและกับผู้อื่น พระพุทธองค์จึงได้ทรงบัญญัติห้ามการดื่มสุราเมรัยไว้ในศีลห้า
หากมนุษย์เราเชื่อพระพุทธเจ้า รักษาศีลห้าได้ครบ บ้านเมืองจะสงบสุข กฎหมายจะไม่มีความหมายใดๆ เลย สภาก็ไม่ต้องออกกฎหมายมากมายอย่างทุกวันนี้
ศีลห้าเป็นพื้นฐานของมนุษย์ ถ้าใครรักษาศีลห้าไม่ได้ สถานะของคนคน นั้น ก็ต่ำกว่ามนุษย์
ศีลข้อ 1 ห้ามฆ่าสัตว์ กฎหมายบ้านเมืองเรารับมาเฉพาะสัตว์ที่เป็นมนุษย์ ส่วนสัตว์อื่นๆ กฎหมายบ้านเมืองยังไม่เอาผิด เพราะยังมองไม่เห็นว่า สัตว์ต่างๆ ล้วนมีจิตเหมือนกัน เพียงแต่อยู่ในสภาพต่างกันทางกายเท่านั้น แม้เพียงการไม่ฆ่ามนุษย์ด้วยกัน ถ้าปฏิบัติกันได้ คดีจะลดลงอย่างมาก บ้านเมืองจะอยู่ด้วยความสงบ
ศีลข้อ 2 ห้ามลักทรัพย์ ศีลข้อนี้ กฎหมายยอมรับเต็มร้อย ถ้าทุกคนปฏิบัติได้ ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ในประมวลกฎหมายอาญา ยกเลิกได้เลย ลูกกรงเหล็ก ตู้เซฟ ก็ไม่ต้องใช้ การคอรัปชั่น การทุจริตเชิงนโยบาย ก็จะไม่เกิด
ศีลข้อ 3 ห้ามผิดลูกผิดเมีย ศีลข้อนี้ ท่านให้มีผัวเดียวเมียเดียว ถ้าทุกคนปฏิบัติได้ คดีข่มขืนจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เลย โลกนี้จะไม่รู้จักโรคเอดส์ ความผิดเกี่ยวกับเพศในประมวลกฎหมายอาญา ลบทิ้งได้หมด
ศีลข้อ 4 ห้ามพูดโกหก ไม่ว่าจะมีเหตุผลใดก็เป็นการโกหก ผิดศีลทั้งนั้น แต่กฎหมายเราเอาผิดเฉพาะการโกหกกับเจ้าพนักงาน หรือโกหกกับศาล แต่ผู้บริหารประเทศโกหก เช่น White lie กฎหมายกลับไม่เอาผิด รวมการโกหกกันเอง ก็ไม่ผิดอาญา แต่ถ้าใครโกหกภรรยา แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่อาจได้รับโทษหนักกว่ากฎหมาย เป็นการรับโทษแบบไม่มีกำหนด และไม่มีอายุความ
ทั้งนี้ ในส่วนของศีลข้อ 5 เป็นข้อที่คนไม่ค่อยจะเชื่อ เพราะผลร้ายที่เกิดขึ้นไม่ชัดเจนเหมือนศีลข้ออื่น ผลที่ว่ากินเหล้าแล้วขาดสติ ก็ไม่ชัดเจน ไม่เห็นผลทันที ฉะนั้นจึงไม่มีคนเมาคนใดยอมรับว่าตัวเองเมา แม้จะเมาจนไม่มีสติแล้ว ก็ยังบอกว่า ม่ายเมาาา ม่ายเมาาา
จึงไม่แปลกที่จะมีคนผิดศีลข้อนี้มากที่สุด โดยชาวพุทธส่วนใหญ่เองจะมีเหตุผลอธิบายเพื่อให้ดื่มเหล้าได้โดยไม่รู้สึกว่ากำลังทำผิดศีล เช่น ดื่มนิดหน่อย ไม่เมาไม่เป็นไร ดื่มเพื่อเจริญอาหาร ดื่มเพื่อเข้าสังคม ล้วนแต่เป็นเหตุผลที่หลอกตัวเองเพื่อจะได้กินเหล้าทั้งนั้น
คนเมาเหล้ามีหลายประเภท คนที่เมาแล้วขาดสติ เขาเองก็ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรไปบ้างในขณะที่เมา ตัวเองจึงไม่รับรู้สภาพความเมาของตนเองว่า น่าเกลียดน่าอับอายเพียงใด เพราะจำไม่ได้เนื่องจากขาดสติ คนเมาอย่างนี้ต้องใช้เทคโนโลยี ต้องถ่ายภาพถ่ายวิดีโอไว้ให้ดูตอนหายเมา แต่คนเมาที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือ คนเมาที่ไม่รู้ว่าตัวเองเมา เป็นคนเมาที่ยังพอมีสติ ที่ดูเหมือนว่ายังทำงานได้ แต่ความรู้สึกนึกคิด ความรอบคอบจะเปลี่ยนไป จิตใจฮึกเหิม เรียกง่ายๆ ว่า นิสัยเปลี่ยนไป คนเมาอย่างนี้น่าเป็นห่วงที่สุด แก้ยากที่สุด
ศีลธรรมที่พระพุทธองค์ทรงนำมาสั่งสอนพวกเรานั้น ไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธองค์บัญญัติขึ้นเอง แต่เป็นธรรมชาติแท้ที่เป็นจริงตลอดอนันตกาล พระพุทธเจ้าเพียงเป็นผู้ค้นพบแล้วนำมาสั่งสอนสัตว์โลกเท่านั้น
และวันนี้ เราก็ยอมรับกันแล้วว่า ศีลข้อ 5 เป็นความจริงที่ต้องงดเว้น จึงได้มีกฎหมายห้ามการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินของส่วนรวม
ไม่ต้องเลิกเหล้าเข้าพรรษากันหรอก เพียงถือศีลห้าให้เคร่งครัด ประเทศไทยจะติดอันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก
เริ่มกันตั้งแต่พรุ่งนี้ ที่เป็นวันขึ้นปีใหม่กันเลยครับ